กองทัพคาดกัมพูชาอาจตอบโต้ไทยหลังพลาดหวังมรดกโลก
ผอ.สำนักปฏิบัติการเพื่อความมั่นคง กรมกิจการชายแดนทหาร เชื่อหลังพลาดหวังเดินหน้าแผนจัดการบริหารมรดกโลก กัมพูชาต้องมีปฏิกิริยาตอบโต้ไทยแน่ แต่คงไม่ถึงรบกัน เพราะยังห่วงกระทบเศรษฐกิจชายแดน ระบุ 2 ประเทศต้องเจรจาและเดินหน้าปักปันเขตแดนร่วมกัน
พล.ต.ธิวา เพ็ญเขตกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักปฏิบัติการเพื่อความมั่นคง กรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการมรดกโลกมีมติเลื่อนการพิจารณาแผนบริหารจัดการ พื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารของกัมพูชาออกไป 1 ปี ว่า หลังจากนี้ฝ่ายกัมพูชาคงจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ไทยอย่างแน่นอน เพราะกัมพูชาคาดหวังไว้สูงว่า การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งนี้จะต้องขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารได้ อย่างแน่นอน ส่วนปฏิกิริยาตอบโต้จะรุนแรงหรือไม่นั้น คงต้องเฝ้าติดตามต่อไป
"การจะขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกได้นั้น กัมพูชาจะต้องเปิดเจรจากับไทย และดำเนินการปักปันเขตแดนร่วมกัน เพราะตั้งแต่มีการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร การทำงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนต้องหยุดชะงักไป 3 ปี ซึ่งขณะนี้ทางทหารไทยพยายามพูดคุยกับกัมพูชา เพราะจุดยืนทหารไทยต้องการให้ปักปันเขตแดนต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 14-16 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้ประชุมเลขานุการคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนทั่ว ไปไทย-กัมพูชา โดยมี พล.อ.เนียง พาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา เป็นประธานร่วม เพื่อจัดทำเอกสารเตรียมการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ครั้งที่ 7 ระหว่างวันที่ 27-28 ส.ค.นี้ ที่โรงแรมเรอเนสซองซ์ ราชประสงค์ กรุงเทพฯ ส่วนทางกัมพูชาจะเข้าร่วมประชุมหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ แต่เบื้องต้นยังไม่มีการเลื่อนกำหนดการประชุมออกไป อย่างไรก็ตาม ไทยจะพยายามทำให้การประชุมเกิดขึ้นต่อไป" พล.ต.ธิวา กล่าว
รายงานข่าวจากกรมกิจการชายแดนทหาร แจ้งว่า วันนี้ (30 ก.ค.) ปลัดกระทรวงกลาโหมประเทศกัมพูชา ได้ยกเลิกกำหนดการพบปะกับทหารไทย ที่ชายแดนด้าน อ.ปอยเปต ทันทีที่ทราบว่า คณะกรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวออกไปเป็นปีหน้า โดยให้เหตุผลกับทางการไทยว่า กำลังอยู่ในบรรยากาศไม่ค่อยดี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ากัมพูชาจะไม่ทำการสู้รบกับไทย เพราะเกรงจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจตามแนวชายแดน แต่เชื่อว่าการตอบโต้กลับของกัมพูชาที่แรงที่สุดน่าจะเป็นการเกณฑ์ประชาชน ชาวกัมพูชาประท้วงที่หน้าสถานทูตของไทยที่ประเทศกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพไทยต้องประเมินสถานการณ์และท่าทีของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ต่อไปด้วย