พ่อคุยเรื่องพินัยกรรม จะแบ่งให้ลูกชายทั้ง 3 แต่ทุกคนปฏิเสธ มีเพียงสิ่งเดียวที่แย่งกัน

พ่อคุยเรื่องพินัยกรรม จะแบ่งให้ลูกชายทั้ง 3 แต่ทุกคนปฏิเสธ มีเพียงสิ่งเดียวที่แย่งกัน

พ่อคุยเรื่องพินัยกรรม จะแบ่งให้ลูกชายทั้ง 3 แต่ทุกคนปฏิเสธ มีเพียงสิ่งเดียวที่แย่งกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อประกาศเรื่องพินัยกรรม แบ่งเงินก้อนโตให้ลูกชาย 3 คน เท่า ๆ กัน แต่ทุกคนปฏิเสธ มีเพียงเรื่องเดียวที่ทะเลาะกันเพื่อแย่งชิง

ในสายตาของชาวบ้าน ครอบครัวของนายฮัว ชาวมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เป็นแบบอย่างที่สมบูรณ์แบบ เขามีลูกชายสามคน ทุกคนล้วนแต่งงานและประสบความสำเร็จอย่างมาก ลูกชายคนโตเป็นรองผู้จัดการบริษัทและมีบ้านเป็นของตัวเองในเมือง ส่วนลูกชายคนกลางทำธุรกิจวัสดุก่อสร้างและมีฐานะมั่นคง ลูกชายคนเล็กแม้อายุเพียง 25 ปี แต่ก็ได้เปิดอู่ซ่อมรถใหญ่ที่สุดในเมือง

ลูก ๆ ทุกคนเติบโตและมั่งคั่ง ทำให้นายฮัวและภรรยาไม่ต้องกังวลเรื่องการเงิน หลังเกษียณ นอกจากเงินบำนาญแล้ว เขายังได้รับเงินจากลูก ๆ เดือนละ 10,000 หยวน (ประมาณ 47,000 บาท) นอกจากการสนับสนุนด้านการเงินแล้ว ลูก ๆ ยังใส่ใจเรื่องความสุขของพ่อแม่ พวกเขาพาครอบครัวมาเยี่ยมเป็นประจำทุกเดือน และในทุกฤดูร้อน ครอบครัวก็จะไปท่องเที่ยวด้วยกันเพื่อสร้างความผูกพัน

นายฮัว เล่าว่า เมื่อต้นปีนี้ ที่ดินว่างของครอบครัวถูกเวนคืน และได้รับเงินชดเชย 1.5 ล้านหยวน (ประมาณ 7.1 ล้านบาท) เมื่อเห็นว่าตนเองเริ่มชราแล้ว จึงตัดสินใจเขียนพินัยกรรมในโอกาสนี้

แทนที่จะเก็บพินัยกรรมนี้ไว้และประกาศเมื่อถึงเวลาสิ้นชีวิต นายฮัวกลับตัดสินใจประกาศทันที ก่อนหน้านี้ เขาก็มีความกังวล เพราะในหมู่บ้านเคยมีกรณีที่ลูก ๆ ปฏิบัติดีต่อพ่อแม่เพียงเพื่อหวังทรัพย์สมบัติ หากพวกเขาได้ครอบครองเงินนั้นแล้วท่าทีจะเปลี่ยนไป แต่เขายังคงตัดสินใจเรียกประชุมครอบครัวเพื่ออธิบายเรื่องนี้ และเชื่อว่าลูก ๆ ของเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น

เมื่อบุตรชายและลูกสะใภ้ทั้งหมดมาครบ นายฮัวประกาศจะแบ่งเงิน 500,000 หยวน (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) ให้แต่ละบ้านเป็นจำนวน 3 ส่วน เขาวางแผนจะโอนเงินเข้าบัญชีของลูก ๆ ในวันนั้นเลย

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อลูก ๆ ของเขาทุกคนปฏิเสธรับเงินที่พ่อให้ ลูกชายคนโต กล่าวอย่างชัดเจนว่า “พ่อครับ พวกเรามีชีวิตที่มั่นคงแล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน เราต้องการเห็นพ่อมีชีวิตยืนยาวและแข็งแรง ส่วนเงินนี้พ่อเก็บไว้ใช้ในยามเจ็บป่วยเถอะ”

ลูกชายคนที่ 2 ก็กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจของผมตอนนี้ยังดีอยู่ ผมไม่ต้องการเงินของพ่อ พ่อเก็บเงินไว้ใช้เมื่อป่วยเถอะ อย่ากังวลว่าหากไม่ให้เงินแล้วพวกเราจะไม่เคารพพ่อ พวกเราไม่เคยคิดเช่นนั้น”

ขณะที่ลูกชายคนสุดท้องก็ยืนยันที่จะปฏิเสธรับเงินจากพ่อเช่นกัน เขาคิดว่าความสำคัญที่สุดคือพ่อมีสุขภาพดีและมีความสุขกับลูกหลาน

ลูก ๆ ของนายฮัวไม่รับเงินที่พ่อมอบให้ แต่สิ่งที่พวกเขาทะเลาะกันคือการรับเลี้ยงดูพ่อ ลูกชายคนโตเห็นว่าควรให้พ่อย้ายไปอยู่กับครอบครัวในเมืองเพื่อสะดวกในการดูแล ลูกชายคนที่ 2 ก็เห็นด้วย เพราะงานของเขาไม่ยุ่งมาก จึงสามารถอยู่ร่วมกับพ่อในวัยชราได้ ส่วนลูกชายคนสุดท้องก็ไม่ยอมแพ้ เขาก็ต้องการอาศัยใกล้ ๆ พ่อเพื่อได้ดูแลท่าน

หลังจากได้ยินคำพูดของลูก ๆ นายฮัวรู้สึกดีใจในใจ ดูเหมือนลูก ๆ ของเขาจะเป็นคนดีจริง ๆ

ในความเป็นจริง นายฮัวมีทรัพย์สินมากกว่าจำนวน 1.5 ล้านหยวนหลายเท่า หลังจากหลายปีที่ทำธุรกิจได้ดี เขาได้รับเงินหลายล้านหยวนทุกปี เมื่อเก็บสะสมได้จำนวนหนึ่ง เขาก็ลงทุนต่อเนื่อง ทำให้เงินเพิ่มพูนอย่างรวดเร็ว

แม้จะมีฐานะทางการเงินที่มั่งคั่ง แต่เขาไม่เคยบอกลูก ๆ ว่าครอบครัวของเขาร่ำรวยอย่างไร และเพราะเหตุนี้ ลูก ๆ ของเขาจึงไม่เคยคาดหวังในทรัพย์สินที่พ่อแม่จะมอบให้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าพ่อแม่ทำงานหนักขนาดไหนกว่าจะมีทรัพย์สินเช่นนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook