จองเต็มทุกที่นั่ง! ดร.ชาญวิทย์ ซ้อมโชว์ไฮไลต์ "ถ้วยสาเกจักรพรรดิ" ผ่านเสียงของสามัญชน

จองเต็มทุกที่นั่ง! ดร.ชาญวิทย์ ซ้อมใหญ่ไฮไลต์ "ถ้วยสาเกจักรพรรดิ" เสียงของสามัญชนผ่านทางศิลปะ ศิลปินศิลปาธรเผยเบื้องหลัง เล่าชีวิตผ่าน "ชิ้นเอก"

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่อง ‘เครือมติชน’ จัดเวที ‘Talks for Thailand เสียง-สามัญชน’ ในวันนี้ 12 กันยายนที่ที่ "ลิโด้ 2" สยามสแควร์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. นายธีระวัฒน์ มุลวิไล หรือ ‘คาเงะ’ เจ้าของรางวัลศิลปาธรสาขาการแสดง ประจำปี 2561 และหนึ่งในผู้ก่อตั้งคณะละคร B-Floor เปิดเผยถึงเบื้องหลังซ้อมการแสดงใหญ่ชุด ‘An Imperial Sake Cup and I’ ที่กำลังจะจัดแสดงขึ้นในงาน ‘Talks for Thailand 2024 เสียง-สามัญชน’ นำโดย ศาสตราจารย์ พิเศษ ดร. ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งนำเสนอรูปแบบ Lecture Performance
นายธีระวัฒน์ หรือ คาเงะ ในฐานะผู้กำกับการแสดง กล่าวว่า การแสดง An Imperial Sake Cup and I เคยจัดมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2563 ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะใหม่เอี่ยม จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้น มีโอกาสไปแสดงที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ต่อมา ยังจัดแสดงในประเทศไทยอีก 2 ครั้ง คือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bacc) และ โรงละคอนแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

“ครั้งนี้เป็นการแสดงครั้งที่ 5 เรียกได้ว่า เป็นประวัติศาสตร์ผ่านเนื้อผ่านตัว ผ่านความทรงจำของอาจารย์ชาญวิทย์ ซึ่งเป็นนักประวัติศาสตร์และอาจารย์มหาวิทยาลัย โดยเล่าเรื่องผ่านชีวประวัติของนักเรียนนอกซึ่งวันหนึ่งได้รับพระราชทานถ้วยสาเกที่ระลึกจากสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะเมื่อครั้งที่อาจารย์เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอร์เนล สหรัฐอเมริกา มีความสนใจในเครื่องปั้นดินเผา และของทำมือ รวมถึงยังมีของสะสมที่ตกทอดมาจากคุณพ่อของอาจารย์อย่าง มีดเชลย ซึ่งได้รับมาจากคนญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง มันจึงมีความคาบเกี่ยวกับเหตุการณ์โลก และสงครามโลกครั้งที่ 2 ฉะนั้นเรื่องราวของมีดเชลย และของสะสมต่างๆ ได้ถูกนำมาถักทอร้อยเรียงเข้ากับเรื่องราวชีวิต” นายธีระวัฒน์ เผย

นายธีระวัฒน์กล่าวว่า หากมองลึกลงไปในประวัติศาสตร์ส่วนตัว ก็เหมือนกับสารคดีของสังคม แต่บางครั้ง เรามักเล่าแต่เรื่องราวชีวิตของคนสำคัญมากๆ ขณะที่ประวัติศาสตร์ของสามัญชนคนธรรมดา มักไม่ค่อยถูกบันทึก หรือ ถ่ายทอดออกมามากนัก โชว์นี้จึงอาจเรียกได้ว่า เป็นครั้งแรกๆของการทำ Lecture Performance ในประเทศไทย ซึ่งการที่นักวิชาการ หรือ ศิลปิน นำเรื่องราวของตัวเองมาเล่าก็มีความน่าสนใจ

“พอบีฟลอร์ได้เข้ามาร่วมทำงาน เราก็ผสมผสานเทคนิคหลายอย่าง เอามาซัพพอร์ตเรื่องราวของอาจารย์ เช่น หมุนเงา วิดีโอฟุตเทจที่เก็บเกี่ยวมาจากการบันทึกเรื่องราวจริงของอาจารย์ถูกนำมาใช้เพื่อประกอบสร้างให้เรื่องราวสมบูรณ์มากขึ้น เราพยายามให้โชว์ความเป็นธรรมชาติในการเล่าเรื่อง เก็บความเป็นธรรมดาสามัญมากๆเอาไว้ ซึ่งการแสดงนี้อาจจะไม่ใช่การเลคเชอร์หนักๆเลยเสียทีเดียว แต่เหมือนมีคนมาเล่าให้เรื่องราวให้เราฟังผ่านการแสดง ในครั้งนี้เรากำลังสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในแง่การแสดงให้เกิดขึ้น ในฐานะคนเรียนการแสดงมา รวมถึงคนที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์และคนที่เป็นแฟนคลับของอาจารย์ชาญวิทย์ ยิ่งไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง” นายธีระวัฒน์ทิ้งท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เวลา 18.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ศาสตราจารย์พิเศษ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ ได้เดินทางมาร่วมซ้อมใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนแสดงจริงในวันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ย. โดยมีผู้บริหารในเครือมติชนให้การต้อนรับ นำโดย นายนฤตย์ เสกธีระ บรรณาธิการ กองบรรณาธิการมติชน, นายสุพัด ทีปะลา บรรณาธิการบริหาร กองบรรณาธิการมติชน และ นายมณฑล ประภากรเกียรติ ผู้อำนวยการสำนักพิมพ์มติชน เป็นต้น

ทั้งนี้ เวที ‘Talks for Thailand 2024 เสียง-สามัญชน’ จัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 14.00 – 16.30 น. ณ Lido Connect Hall 2 สยามสแควร์ โดยระดมนักวิชาการชั้นนำของประเทศ ได้แก่ นายกษิดิศ อนันทนาธร อาจารย์ภาควิชากฎหมายทั่วไป คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นักเขียน บรรณาธิการ อาจารย์รุ่นใหม่ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การเมือง และ ผศ.ดร.ณัฐพล ใจจริง รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นักวิชาการผู้ศึกษาเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์การเมือง เจ้าของผลงานหนังสือ ขุนศึก ศักดินา พญาอินทรี และราษฎรปฏิวัติ ฯลฯ ขึ้นเวทีถ่ายทอดบทบาทแห่งความมุ่งมั่นของสามัญชนและ เสียงประชาชนที่เป็นพลังร่วมกันสร้างชาติ ขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้า เกิดพัฒนาการใหม่ๆ ภายในชาติ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมความเป็นอยู่ มาจนถึงทุกวันนี้

พร้อมด้วยไฮไลต์สุดพิเศษ Lecture Performance โดย ‘ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ’ ในฐานะนักวิชาการลูกชาวบ้าน อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่จะมานำเสนอเสียงของสามัญชนในรูปแบบที่สร้างสรรค์อย่างมีศิลปะ ชวนติดตาม ผ่านเรื่องราวสุดพิเศษในธีม An Imperial Sake Cup and I ซึ่งเคยเปิดรอบการแสดงมาแล้วที่โตเกียว และกรุงเทพฯ โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างอบอุ่นจนต้องเพิ่มรอบการแสดง และทิ้งท้ายด้วยการสรุปเนื้อหาทั้งหมด ตอกย้ำให้เห็นคุณค่าแห่งเสียงของประชาชนกับ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการอิสระชื่อดัง ล่าสุด ยอดผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานดังกล่าว เต็มแล้วทุกที่นั่ง