ฟ้องรพ.ดัง เรียก31ล้าน ปล่อยผู้ป่วยหวัด2009 ตาย
วันนี้ ( 2 ส.ค.) ที่ ศาลจังหวัดพระโขนง ถ.สรรพาวุธ นายธวัชสิทธิ์ ตวงสินกุลบดี และนางธัญญพัฒน์ ตวงสินกุลบดี บิดาและมารดาของ นายพีรวีร์ ตวงสินกุลบดี อายุ 28 ปี ผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากไข้หวัด 2009 เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทโรงพยาบาลศิครินทร์ นพ. ดำรงค์ ประกายทิพย์ นพ. สุทธิศักดิ์ ไชยอัชนรัตน์ แพทย์ และ นพ. หิรัญย์ ศรีจินไตยที่ แพทย์รพ.ไทยนครินทร์ เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ตามลำดับ เรื่องทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายในฐานะผู้บริโภค เรียกค่าเสียหายจำนวน 31.2 ล้านบาท
โจทก์บรรยายฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 52 ด.ญ.ชญาณ์พิศา โฆษิตเบ็ญจพล ได้ป่วยเป็นไข้ และเข้ารักษา รพ.ศิครินทร์ ต่อมาทราบว่าเป็นไข้หวัด 2009 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลก ในขณะนั้น ตามที่องค์การอนามัยโลกได้ออกข่าวเตือนประเทศต่างๆทั่วโลก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 52 โดยระหว่างที่ ด.ญ.ชญาณ์พิศา พักรักษา พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นายพีรวีร์ บุตรชายโจทก์ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง ได้แวะไปเยี่ยมดูแลเป็นประจำ ต่อมาในวันที่ 24 มิ.ย.552 นายพีรวีร์ มีอาการตัวร้อนและไอ จึงเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิครินทร์ โดยมีจำเลยที่ 3 เป็นผู้รักษา ตั้งแต่วันที่ 24 - 27 มิ.ย. 52 จำเลยที่ 3 ก็ให้นายพีรวีร์กลับบ้าน ทั้งๆที่อาการยังไม่ดีขึ้น มีอาการไอและอ่อนเพลียมาก คลื่นไส้อาเจียน หน้าซีด จนต้องส่งรพ.ศิครินทร์ อีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ญาติขอให้จำเลยที่ 4 เป็นผู้รักษาแทน พบว่านายพีรวรร์มีอาการปอดบวม เมื่อเอ็กซ์เรย์ปอดเป็นฝ้าขาว จำเลยที่ 4 ถึงกับอุทานว่าอาจารย์ (จำเลยที่3) ปล่อยกลับไปได้ยังไง แล้วแพทย์หลายคนก็ปิดห้องคุยกัน จากนั้นจำเลยที่ 4 จึงมาแจ้งญาติว่าจะส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ไทยนครินทร์ ของจำเลยที่ 2 เนื่องจากมีแพทย์เฉพาะทาง โดยก่อนส่งตัวจำเลยที่ 4 ก็มิได้ให้ยาต้านไวรัสหวัด 2009
ต่อมาจำเลยที่ 5 ได้วินิจฉัยว่านายพีรวีร์ เป็นโรคปอดบวมจากเชื้อไมโครพลาสม่า และไม่ได้ซักประวัติเกี่ยวกับโรคหวัด 2009 เมื่ออาการไม่ดีขึ้น ญาติขอย้ายไปรักษาที่รพ.อื่น แพทย์ก็ไม่ยอม จนนายพีรวีร์ถึงแก่ความตาย เห็นว่า จำเลยเป็นโรงพยาบาลและแพทย์ โดยปกติย่อมมีความรู้ความชำนาญในการตรวจรักษา โดยเฉพาะกำลังมีข่าวไข้หวัด2009 ซึ่งจำเลยควรระมัดระวังแต่กลับประมาทเลินเล่อ ไม่ตรวจรักษาให้ดี ซึ่งจำเลยอาจใช้ความระมัดระวังได้แต่ไม่ได้ใช้ จึงฟ้องเรียกค่าค่าเสียหายจากการเสียบุตรชาย ค่าปลงศพ ค่าขาดไร้อุปะการระ ขาดใช้จ่ายอื่นๆรวม 31.2 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ7.5 จนกว่าจะชำระเสร็จ
ศาลรับฟ้องคดีไว้และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 6 ก.ย. นี้ เวลา 13.30 น.