หมอมาเตือนเอง 4 พฤติกรรมการกินแย่ ๆ ที่ทำร้าย "ตับ" ที่สุด เช็กลิสต์ดู ทำอยู่กี่ข้อ
หมอเผย 4 พฤติกรรมการกินที่ทำร้ายตับมากที่สุด หลายคนทำสิ่งที่คิดว่าดี แต่เป็นการเพิ่มภาระให้ตับโดยไม่รู้ตัว
ดร.หวงเซียน แพทย์ชาวมาเลเซีย ได้แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับ "อาหารที่ทำร้ายตับ" บนโซเชียลมีเดีย เพื่อเตือนทุกคนให้เปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี ลองดูว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้กี่ข้อ?
-
อาหารที่ทำลายตับ 1: กินของหวานมากเกินไป
อาหารที่มีน้ำตาลสูงหรือมีน้ำตาลมากเกินไปสามารถทำร้ายตับได้ เนื่องจากการบริโภคน้ำตาลทรายขาวหรือฟรุกโตสสูง เช่น เค้ก ขนมปังหวาน ซีเรียลอาหารเช้า อาจทำให้ไขมันสะสมในเซลล์ตับได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับ การทานน้ำตาลมากเกินไปทำร้ายตับได้ไม่แพ้การดื่มแอลกอฮอล์
-
อาหารทำร้ายตับ 2: ทานอาหารที่มีไขมันไม่ดีมากเกินไป
อาหารที่มีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันสัตว์ น้ำมันปาล์ม เนยจากสัตว์ เนยเทียม หมูสามชั้น และไส้กรอกที่ผ่านการแปรรูป เมื่อบริโภคไขมันสูงเกินไป ไขมันจะสะสมในเซลล์ตับ ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (NAFLD) เมื่อปริมาณไขมันเกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของน้ำหนักตับ เรียกว่า "ไขมันพอกตับ" ตับอาจบวม และการสะสมของไขมันเมื่อเวลาผ่านไปอาจทำให้เกิดโรคตับแข็งได้
-
อาหารที่ทำลายตับ 3: ดื่มเครื่องดื่มอัดลมมากเกินไป
ผลการวิจับพบว่าผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มอัดลมจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคไขมันพอกตับชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (NAFLD) เช่นเดียวกับอาหารที่มีไขมันสูง กรณีที่รุนแรงสามารถนำไปสู่โรคตับแข็งได้ในที่สุด
-
อาหารที่ทำลายตับ 4: วิตามินเอมากเกินไป
ผักและผลไม้ที่มีสีแดง ส้ม และเหลืองอุดมไปด้วยวิตามินเอ การรับวิตามินเอจากผักและผลไม้สดธรรมชาติเป็นสิ่งที่เพียงพอ หากคุณรับประทานวิตามินเอในรูปของอาหารเสริมที่มีปริมาณสูง อาจเป็นภาระต่อตับได้ ดร.หวงเซียน แนะนำว่า ก่อนที่จะใช้วิตามินเอเสริมเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์ก่อน