มหาเศรษฐีตายกะทันหัน ทิ้งเงินไว้ 1.8 แสนล้าน ลูกๆ ว้าวุ่น เอาเงินมาใช้ไม่ได้สักคน

มหาเศรษฐีตายกะทันหัน ทิ้งเงินไว้ 1.8 แสนล้าน ลูกๆ ว้าวุ่น เอาเงินมาใช้ไม่ได้สักคน

มหาเศรษฐีตายกะทันหัน ทิ้งเงินไว้ 1.8 แสนล้าน ลูกๆ ว้าวุ่น เอาเงินมาใช้ไม่ได้สักคน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มหาเศรษฐีรวยติดอันดับโลก ตายกะทันหัน ทิ้งเงินไว้ 1.8 แสนล้านในธนาคาร ลูกๆ ว้าวุ่น เอาเงินมาใช้ไม่ได้สักคน

หวัง หย่งชิง (Wang Yung-ching) นักธุรกิจชาวไต้หวันที่ประสบความสำเร็จ จนได้ฉายา ราชาพลาสติกโลก ในปี 2008 นิตยสาร Forbes จัดอันดับให้เขาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกอันดับที่ 178  และเป็นอันดับที่ 2 บุคคลที่รวยที่สุดในไต้หวันในปีเดียวกัน

ในปี 2008 เขาเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่ได้แบ่งเงินให้ลูกหลาน แต่เขาได้ฝากเงินจำนวนกว่า 4 หมื่นล้านหยวน (1.8 แสนล้านบาท) ไว้ในธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ แต่ทว่า ทายาทของเขาไม่สามารถถอนเงินดังกล่าวออกมาได้ เนื่องจากนโยบายความลับขั้นสูงของธนาคาร ที่กำหนดว่าสินทรัพย์ของบุคคลสามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลนั้นเท่านั้น

ลูกๆ ของเขาคิดหาวิธีมากมายเพื่อเอาเงินจำนวนนี้กลับมา สุดท้ายวิธีเดียวที่ธนาคารเสนอคือ ต้องยอมจ่ายภาษีมรดกจำนวน 3 หมื่นล้านหยวน (1.4 แสนล้านบาท) ก่อนที่จะถอนเงิน มิฉะนั้น พวกเขาจะต้องแสดงใบรับรองจากหวัง หย่งชิง ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหันและไม่ได้ทิ้งเอกสารใด ๆ ไว้

หากต้องจ่าย  3 หมื่นล้านหยวนให้กับธนาคาร หมายความว่าเงินจะหายไป 3 ใน 4 ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลดังนั้นลูก ๆ ของเขาจึงปฏิเสธข้อเสนอนี้

สื่อจีนรายงานว่าจนถึงขณะนี้ ลูก ๆ ของหวัง หย่งชิง ยังไม่พบวิธีการใดที่จะนำเงินออกมาโดยไม่ต้องเสียภาษี แม้จะผ่านไปนานนับสิบปี เงิน 4 หมื่นล้านหยวนจึงยังคงถูกแช่แข็งในธนาคาร

ประวัติ หวัง หย่งชิง

หวัง หย่งชิง เกิดในครอบครัวยากจนที่ทำไร่ชา  ในเขตซินเตี้ยน นครนิวไทเป ซึ่งขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของไต้หวันภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น พ่อแม่ของเขาสามารถส่งเขาเรียนได้ถึงอายุ 15 ปีเท่านั้น ด้วยความตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง ในวัย 16 ปี เขาได้ขอเงินจากพ่อจำนวน 200 หยวนเพื่อเปิดร้านขายข้าว ธุรกิจเล็กๆ ของเขาประสบความสำเร็จ จากนั้นเขาจึงเปิดโรงสีข้าว

และในเวลาไม่ถึง 10 ปีของการทำธุรกิจ เขาก็ได้กำไรมหาศาล จากจุดนี้ เขาได้นำเงินทั้งหมดไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจไม้ ต่อมา ในปี 1954 เขาเปิดบริษัทพลาสติกเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

ในปี 1978 บริษัทพลาสติกที่เขาบริหารมีรายได้ถึง 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสองปีต่อมา บริษัทได้กลายเป็นโรงงาน PVC ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมพลาสติก เขายังขยายธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และน้ำมัน 

หวัง หย่งชิงมาจากครอบครัวยากจน แต่เขาเป็นคนใจกว้างและชอบทำงานการกุศล เมื่อเขามีฐานะดี เขาตัดสินใจที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม สิ่งแรกที่เขาทำคือสร้างโรงพยาบาล Truong Canh โดยไม่แสวงหาผลกำไร กำหนดค่ารักษาพยาบาลให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้

ในปี 2008 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเหวินชวน ประเทศจีน ทันทีที่เขาได้ยินข่าว หวัง หย่งชิงได้ตัดสินใจบริจาคเงินจำนวน 100 ล้านหยวน (470 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเขาได้เสียชีวิตลงในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ขณะมีอายุ 91 ปี

หวังแต่งงานครั้งแรกกับ กั๋ว เยว่หลาน แต่ไม่มีลูกด้วยกัน การแต่งงานครั้งที่สองกับ หยาง เจียว มีลูกทั้งหมด 5 คน และต่อมาเขาแต่งงานกับ หลี่ เป่าโฉว ในปี 1935 ซึ่งมีลูกอีก 5 คน รวมทั้งหมด 10 คน

เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง หวัง หย่งชิง ได้ก่อตั้งกองทรัสต์ในต่างประเทศ และนำเงินส่วนใหญ่ไปฝากในกองทุนนี้ให้สมาชิกในครอบครัวใช้ ทุกปีลูก ๆ ของเขาจะได้รับเงินส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นดอกเบี้ย ส่วนเงินต้นพวกเขาไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยว

นอกจากการฝากเงินส่วนใหญ่ไว้ในกองทรัสต์ก่อนตาย หวัง หย่งชิง ยังฝากเงินอีก 4 หมื่นล้านหยวน (1.8 แสนล้านบาท) ในธนาคารที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเลี่ยงภาษี ก่อนจะกลายเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่ไม่มีใครได้ใช้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook