สาวรู้ตัวมี "ก้อน" ขึ้นที่ส่วนลับ แต่อายไม่กล้าปรึกษาหมอ สามียังไม่เคยเห็น สุดท้ายดับสลด

สาวรู้ตัวมี "ก้อน" ขึ้นที่ส่วนลับ แต่อายไม่กล้าปรึกษาหมอ สามียังไม่เคยเห็น สุดท้ายดับสลด

สาวรู้ตัวมี "ก้อน" ขึ้นที่ส่วนลับ แต่อายไม่กล้าปรึกษาหมอ สามียังไม่เคยเห็น สุดท้ายดับสลด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สามีใจสลาย สาววัย 32 ดับสลด หลังคลอดลูกได้ 1 ปี รู้ตัวมาตลอดมี "ก้อน" ขึ้นที่ส่วนลับ แต่อายไม่กล้าปรึกษาหมอ สามียังไม่เคยให้เห็น

ความผิดปกติในร่างกายคือสัญญาณเตือน! ดร.เจิ้ง เฉิงเจี๋ย สูติแพทย์และนรีแพทย์ชาวไต้หวัน เปิดเผยผ่านทางรายการโทรทัศน์  กรณีเคสหญิงวัย 32 ปี พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในอวัยวะเพศของเธอ แต่กลับเขินอายเกินกว่าจะเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ท้ายที่สุดเสียชีวิตเนื่องจากการรักษาล่าช้า

คุณหมอเล่าในรายการว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนเก็บตัวและอนุรักษ์นิยม แม้จะแต่งงานแล้วแต่สามีก็ยังไม่เคยเห็นอวัยวะเพศของเธอเลย อีกทั้งหลังจากตั้งครรภ์เธอก็ปฏิเสธที่จะมีเพศสัมพันธ์กับสามี เนื่องจากเธอเริ่มรู้ตัวว่ามีสิ่งแปลกปลอม ลักษณะเป็นเม็ดหรือก้อนอยู่ในอวัยวะเพศ แต่แทนที่จะเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาล กลับซื้อครีมหรือขี้ผึ้งมาทาด้วยตัวเอง ส่งผลให้อาการไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังแย่ลงอีกด้วย

จนกระทั่งสามีพบว่ามีแผลพุพองที่อวัยวะเพศของภรรยา ถึงกับตื่นตระหนกว่าเธอมีปัญหาสุขภาพ ในที่สุดก็ยืนกรานพาไปคลินิกสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยา อย่างไรก็ดี แพทย์ที่นั่นได้ตรวจเบื้องต้นและแนะนำให้ย้ายไปที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ทำให้ได้พบกับ ดร.เจิ้ง เฉิงเจี๋ย ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการรักษา

หลังจากคุณหมอเจิ้งทำการตรวจร่างกายพบว่า “อาการร้ายแรง” และจากการสอบถามผู้ป่วยพบว่า สิ่งแปลกปลอมนี้ปรากฎขึ้นมานานเกือบครึ่งปีแล้ว ขนาดเท่าเหรียญ 1 หยวน จึงได้จัดให้มีการตรวจชิ้นเนื้อ ซึ่งผลยืนยันว่าเป็น “มะเร็งปากช่องคลอด” แต่เนื่องจากผู้ป่วยกำลังตั้งครรภ์ได้ 6-7 เดือน แพทย์จึงต้องรอจนทารกในครรภ์มีอายุเข้าเดือนที่ 8 เพื่อผ่าคลอดแล้วจึงจัดการกับปัญหามะเร็งได้ต่อจากนั้น

อย่างไรก็ตาม หลังการผ่าตัดพบว่าเซลล์มะเร็งได้แพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลืองและช่องอุ้งเชิงกราน อาการของเธอได้เข้าสู่ระยะที่ 4 แล้ว เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่จำกัดในขณะนั้น เธอจึงมีชีวิตรอดได้เพียง 1 ปีเท่านั้น ต้องจากไปทั้งที่ลูกอายุเพียง 1 ขวบ เรื่องนี้ทำให้คุณหมอเจิ้งเสียใจอย่างมาก และเตือนว่าไม่ว่าจะขี้อายแค่ไหน ก็ควรไปพบแพทย์ให้ทันเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการรักษา 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook