หนุ่มวัย 30 ถูกหามเข้าไอซียู ติดเชื้อเนื้อตายเน่า ต้นเหตุจากการ "บีบสิว" แค่เม็ดเดียว

หนุ่มวัย 30 ถูกหามเข้าไอซียู ติดเชื้อเนื้อตายเน่า ต้นเหตุจากการ "บีบสิว" แค่เม็ดเดียว

หนุ่มวัย 30 ถูกหามเข้าไอซียู ติดเชื้อเนื้อตายเน่า ต้นเหตุจากการ "บีบสิว" แค่เม็ดเดียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มวัย 30 ถูกหามเข้าไอซียู ติดเชื้อเนื้อตายเน่า ต้นเหตุจากการ "บีบสิว" แค่เม็ดเดียว หมอเตือนสิวแบบไหนห้ามบีบเด็ดขาด

เมื่อไม่นานมานี้ นายหวง วัย 30 ปี ชาวจีน พบสิวขึ้นที่ก้น คิดว่าเป็นเพียงอาการร้อนในธรรมดา จึงบีบสิวออกโดยไม่คิดมาก แต่หลังจากนั้นแบคทีเรียก็เข้าร่างกายผ่านแผลผิวหนังที่แตก หลายวันต่อมาเขามีอาการไข้สูงไม่หยุด และติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรงจนเกิดภาวะติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนที่อาจส่งผลให้ผิวหนังถึงชั้นกล้ามเนื้อถูกทำลาย หรือที่เรียกว่า แบคทีเรียกินเนื้อคน หรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing Fasciitis) สุดท้ายต้องถูกส่งตัวเข้าห้อง ICU เพื่อรักษาชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง

ตามรายงานของสื่อจีน ระบุว่าผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอธิบายว่า การเกิดสิวมาจากหลายปัจจัย เช่น รูขุมขนอุดตัน, การหลั่งน้ำมันมากเกินไป และการติดเชื้อแบคทีเรีย เมื่อบีบสิวจะทำให้การอักเสบลามลึกลงไปในชั้นผิวหนัง ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่รุนแรงยิ่งขึ้น

การติดเชื้อแบคทีเรียขั้นรุนแรงที่ทำให้เกิดเนื้อเยื่ออักเสบเน่าตายนี้เป็นการติดเชื้อที่ลึกในเนื้อเยื่ออ่อน ซึ่งสามารถทำลายเนื้อเยื่อและผิวหนังอย่างรวดเร็ว รวมถึงทำให้เกิดอาการเป็นพิษต่อร่างกายอย่างรุนแรง แม้ว่าจะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 15%-29% เนื่องจากโรคมีความรุนแรงและแสดงอาการในระยะแรกได้ยาก

แพทย์ยังเตือนว่า คนทั่วไปมักคิดว่าสิวเป็นแค่ปัญหาอักเสบเล็กๆ แต่กลับมองข้ามความเสี่ยงจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะสิวที่มีหนองสีเหลืองขาว หากบีบอาจทำให้แบคทีเรียแพร่กระจาย และเนื่องจากบริเวณใบหน้ามีหลอดเลือดและท่อน้ำเหลืองหนาแน่น การบีบสิวอาจส่งผลถึงภายในกะโหลกศีรษะ นำไปสู่การติดเชื้อในกะโหลกศีรษะ เช่น อาการบวมที่ใบหน้า ไข้สูง ปวดหัวรุนแรง อาเจียน และอาจถึงขั้นเสียชีวิต

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook