เกาะติดความคืบหน้าชุมนุมปัญหาเขาพระวิหาร
17.19 น. : พธม.กีฬาเวสน์บางส่วนทยอยกลับแล้ว
"พล.ต.จำลอง" ให้ผู้ชุมนุมกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ กลับบ้าน พร้อมรอฟังความชัดเจน จากการที่แกนนำจะเข้าพูดคุยกับ นายกฯ และถ่ายทอดสดทาง NBT พรุ่งนี้
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ขึ้นเวที เพื่อพูดคุยบนเวทีเพื่อทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมเครือข่ายคนไทยหัวใจ รักชาติ ถึงคำตอบที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขึ้นตอบบนเวทีในวันนี้ ซึ่งออกเป็นที่ พอใจและไม่พอใจกับกลุ่มผู้ชุมนุม และได้ให้กลุ่มผู้ชุมนุมติดตามประเด็นที่ตกค้างในวันพรุ่งนี้ เพราะนายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมพูดคุยกับตัวแทนกลุ่ม ภายหลังจากจบ รายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ NBT เป็นเวลา 3 ช.ม.
ขณะที่ บรรยากาศบนเวทีปราศรัย ขณะนี้มีการแสดงดนตรีจากศิลปินกลุ่มต่างๆ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งทยอยเดินทางกลับอย่างต่อ เนื่อง ส่วนกลุ่มที่มาจากต่างจังหวัดหลายกลุ่ม ยังคงอยู่ในระหว่างการรับประทานอาหารที่เตรียมมา พร้อมกับกล่าวว่า อาจจะมีการหาที่พักค้างคืนบริเวณใกล้เคียง ซึ่งจะทำให้สะดวก หากมีการเรียกรวมตัวอีกครั้งหนึ่ง
------------------------------------------------------------
16.41 น. : วีระ ลั่น ค้างคืนกองทัพภาค1 รอคำตอบรัฐ
กลุ่มเครือข่ายประชาชนไทย หัวใจรักชาติ ยังคงชุมนุมท่ามกลางสายฝน ยืนยัน ปักหลักรอคำตอบจากรัฐบาลจนถึงวันพรุ่งนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังรักษาความสงบ
ความคืบหน้า กรณีการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ที่บริเวณตรงข้าม กองทัพภาคที่ 1 ถนนราชดำเนินนอก นั้น ขณะนี้มีฝนตกโปรยปรายลงมาแล้วนานกว่า 30 นาที ตลอดระยะเวลามีการสลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นรถขยายเสียง โจมตีการทำงานของรัฐบาล นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการร้องเพลงขับกล่อมกลุ่มผู้ชุมนุม เพื่อเป็นการผ่อนคลายอีกด้วย ทั้งนี้ ทางกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศยืนหยัดว่า จะปักหลักนอนรอคำตอบจากรัฐบาล นายกฯ อภิสิทธิ์ จนถึงวันพรุ่งนี้ ส่วนมาตรการการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ยังคงตรึงกำลังอยู่ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมา จากการตรวจสอบก็ยังไม่พบว่า มีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างไร
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้จะมีการส่งตัวแทนกลุ่ม เข้าร่วมดีเบตกับทางรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ฝั่งละ 5 คน ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ซึ่งขณะนี้ทาง นายวีระ สมความคิด กำลังประสานงานกับแกนนำที่อยู่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ทั้งนี้ยืนยันว่า การพูดคุยในวันพรุ่งนี้ ยังคงย้ำจุดยืน 4 ข้อ ที่เคยประกาศไว้ ทั้งการยกเลิก MOU ปี 2543 รวมถึงข้อตกลงที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบทุกฉบับ และการผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ รวมทั้งการยึดหลักสันปันน้ำ ในการปักปันเขตแดน ขณะเดียวกันระบุด้วยว่า กลุ่มผู้ชุมนุม จะพักค้างคืนบริเวณตรงข้าม กองทัพภาคที่ 1 เพื่อรอฟังผลการดีเบตในวันพรุ่งนี้ ส่วนจะมีการยุติการชุมนุมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความชัดเจนของนายกรัฐมนตรี เอง
------------------------------------------------------------
16.10 น. : กลุ่มหัวใจรักชาติยังปักหลักชุมนุมต่อ
กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ที่ไม่พอใจคำตอบของ นายกฯ เรื่องปัญหาเขาพระวิหาร บางส่วนยังปักหลักชุมนุมต่อ เพื่อรอความชัดเจนจากแกนนำ ขณะที่บนเวทีปราศรัยได้เปลี่ยนเป็นเวทีเพื่อให้แสดงความคิดเห็น
บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ภายหลังจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นชี้แจงทำความเข้าใจในข้อคำถาม เกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหาร กับตัวแทนบนเวที และได้เดินทางกลับเรียบร้อยแล้ว ล่าสุด กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ก็ได้เริ่มทยอยเดินทางกลับบ้าน ในขณะที่อีกส่วนยังปักหลักชุมนุมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังไม่พอใจกับท่าทีคำตอบของ นายกรัฐมนตรี ที่ขึ้นตอบบนเวที
สำหรับบนเวทีปราศรัยได้เปลี่ยนเป็นเวทีแสดงออกทางความคิด โดยให้ตัวแทนกลุ่มจากจังหวัดต่างๆ ขึ้นปราศรัย โดยบางช่วงได้นำคำกลอนที่มีความหมายให้ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปราสาทเขาพระวิหารอย่างเร็วที่สุด ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ล่าสุด พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า มีเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการตำรวจนครบาล 1, 4 และ 6 อีกทั้งตำรวจตระเวนชายแดน รวมทั้งหมด 4 กองร้อย กระจายอยู่ในพื้นที่เพื่อรักษาความปลอดภัยอีกด้วย
------------------------------------------------------------
15.44 น. : นายกฯแจงปมพระวิหารยันยึดประโยชน์ชาติ
นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีแจงปัญหา กรณีปราสาทพระวิหารต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น ระบุ เปิดเวทีถกร่วม ผ่านช่อง 11 พรุ่งนี้ 10 โมง เช้าถึงบ่าย ยึดประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีสนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง เพื่อตอบข้อข้องใจ กรณีปัญหาปราสาทพระวิหารแก่ผู้ชุมนุม โดยยืนยันว่า พร้อมที่จะเปิดเวทีหารือร่วมกัน ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ในวันพรุ่งนี้ ตั้งแต่ 10.00 น. จนถึง 13.00 น. โดยยึดเหตุผลเป็นหลัก ส่วนการจะถอน MOU ปี 2543 หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเองไม่ได้ยึดติดกับการลงนาม แต่อยากให้มองถึงเหตุผลมากกว่า ซึ่งหากการหารือในเรื่องข้อกฎหมาย ประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับสรุปได้ว่า ควรยกเลิก ตนเองก็พร้อมจะเลิก แต่หากว่าเป็นประโยชน์ก็ต้องคงไว้
ขณะที่ การผลักดันทหารและประชาชน ที่รุกล้ำชายแดนไทยเข้ามาสร้างหมู่บ้าน สร้างวัดนั้น นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า มีการละเมิด MOU ปี 2543 จริง ในปัจจุบัน ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่การทำงานต้องทำพร้อมกันทั้งด้านการทหารและการทูต ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น ในเวทีโลก โดย นายกรัฐมนตรี ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการอธิบายดังกล่าว ก่อนที่จะเดินทางออกไป ขณะที่ กลุ่มผู้ชุมนุม ยังคงรอท่าที จาก พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และแกนนำเพื่อสรุปอีกครั้งว่า จะปักหลักค้างคืนต่อหรือไม่
------------------------------------------------------------
14.29 น. : จนท.ตรึงเข้มรอบทำเนียบยังปิดถ.โดยรอบ
บรรยากาศรอบทำเนียบ และ ทภ.1 หลัง ม็อบ พธม. ปักหลักชุมนุมเขาพระวิหาร ยังคงปิดถนนโดยรอบ ขณะ ตำรวจ-ทหาร ตรึงกำลังเข้ม การจราจร ยังเคลื่อนตัวได้
จากกรณีที่ กลุ่มเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ นัดหมายชุมนุมกัน บริเวณหน้าทำเนียบฯ ในวันนี้นั้น เพื่อต้องการมาทวงคำตอบกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ถึงกรณีการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหาร เป็นมรดกโลก ทำให้ศอฉ. ต้องออกประกาศพื้นที่รอบทำเนียบ เป็นพื้นที่หวงห้าม เพื่อป้องกันการบุกรุกของกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนทางด้าน การเตรียมความพร้อมของกลุ่มผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้สนธิกำลังรักษาความสงบ ตามแผนยุทธศาสตร์การป้องกันที่ได้วางไว้โดยรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น อย่างแน่นหนา
อย่างไรก็ตาม การจราจรที่ห้ามใช้เส้นทางคมนาคม เว้นแต่จะได้รับอนุญาต จากเจ้าหน้าที่ คือ ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่ สะพานชมัยมรุเชฐ ถึง แยกสวนมิสกวัน ถนนราชดำเนิน นอกคู่ขนานด้านใน ตั้งแต่แยก สวนมิสกวัน ถึง แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนลูกหลวง ตั้งแต่แยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึง แยกเทวกรรมรังรักษ์ ถนนนครปฐม ตั้งแต่แยกเทวกรรมรังรักษ์ ถึง สะพานชมัยมรุเชฐ การจราจรยังเคลื่อนตัวได้เรื่อย ๆ เนื่องจาก เป็นวันหยุดราชการ
-------------------------------------------------------------
14.04 น. : มาร์คเตรียมแจงปมพระวิหาร
นายกฯ ตอบปัญหาไขข้อข้องใจ กรณีปัญหาเขาพระวิหารต่อมวลชน ที่ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ขณะที่ การชุมนุมกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในเรื่องปราสาทเขาพระวิหารว่า นายกรัฐมนตรี จะตอบปัญหาของมวลชนที่มีความไม่เข้าใจ ในข้อเรียกร้องที่มีการนำเสนอไปแล้วก่อนหน้านี้ พร้อมกันนี้ได้ชื่นชม นายกรัฐมนตรี ที่มารับฟังปัญหาด้วยตนเอง ส่วนเครือข่ายที่ไปรวมตัวบริเวณหน้ากองทัพภาคที่ 1 นั้น กำลังรอผลสรุปจากที่ประชุมก่อนแสดงท่าที่อีกครั้ง ส่วนการชุมนุมของกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 ขณะนี้ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง มีการปราศรัย จากตัวแทนกลุ่มต่าง ๆ เพื่อพยายามอธิบายให้มวลชนเข้าใจ ได้เห็นข้อมูลที่ทางกลุ่มเชื่อว่า ประเทศไทย กำลังเสียเปรียบประเทศกัมพูชา จากกรณีปราสาทพระวิหาร
-------------------------------------------------------------
13.01 น. : วีระ-ไชยวัฒน์ ไม่สน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำมวลชนทวงถามรัฐบาลกรณีปัญหาปราสาทพระวิหารที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนย้ายไปรวมตัวบนถนนราชดำเนินตรงข้ามกองทัพภาคที่ 1 ระบุจะปักหลักจนกว่าจะได้คำตอบจากรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (7 ส.ค.) กลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ นำโดย นายวีระ สมความคิด และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้นำมวลชนในเครือข่ายจำนวนหนึ่ง พร้อมรถเครื่องขยายเสียง มาปักหลักชุมนุมบริเวณถนนพิษณุโลกด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงถามความคืบหน้าการทำงานของรัฐบาลเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระ วิหารเป็นมรดกโลก
ทั้งนี้ นายวีระ กล่าวว่า การมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลไม่ถือว่าผิด พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะเป็นการเรียกร้องผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ใช่ผลประโยชน์ทางการเมืองหรือกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจพร้อมโล่ได้มาตั้งแนวปิดบริเวณทางเข้าถนน พิษณุโลก ทั้งทางด้านถนนราชดำเนินนอกและด้านสะพานชมัยมรุเชฐ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ทยอยเดินทางมาทีหลัง ไม่สามารถเข้ามาภายในถนนพิษณุโลกบริเวณที่ชุมนุมได้ จนกระทั่งเวลา 11.00 น. นายวีระและนายไชยวัฒน์ ได้หารือกับ พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที
จากนั้น นายวีระ ได้ขึ้นประกาศบนเวทีปราศรัยว่า การชุมนุมครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องการแย่งอำนาจ แต่ต้องการเอาดินแดนไทยคืน นาทีนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะทะเลาะกันเอง เราต้องการให้คนไทยทุกคนรวมกันเป็นหนึ่ง เป็นพลังที่เข้มแข็ง ไม่เช่นนั้นจะเอาแผ่นดินคืนไม่ได้ ซึ่งการหารือกับเจ้าหน้าที่ได้ข้อสรุปว่า จะขยับไปในพื้นที่ที่ไม่มีการปิดกั้น โดยจะไปชุมนุมด้านหน้ากองทัพภาคที่ 1 เพื่อรอคำตอบจากนายกรัฐมนตรี
นายวีระ กล่าวถึงเหตุผลที่มาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะนายกรัฐมนตรีทำงานอยู่ในทำเนียบรัฐบาล ไม่ได้ทำงานอยู่ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ไม่ได้มีความประสงค์มาท้าทาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเพื่อให้เจ้าหน้าที่สบายใจก็ยินดีย้าย แต่หากเจ้าหน้าที่ปล่อยให้ใครมารังแกก็จะมาชุมนุมที่ถนนพิษณุโลกทันที ทั้งนี้ การย้ายไปชุมนุมที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 ยังไม่มีกำหนดว่าจะอยู่นานเท่าใด แต่จะอยู่จนกว่าจะได้คำตอบจากรัฐบาลว่า จะผลักดันกัมพูชาออกไปเมื่อใด รวมถึงต้องยกเลิกบันทึกความเข้าใจ หรือเอ็มโอยูปี 2543 ซึ่งเราจะให้เวลารัฐบาลไม่เกิน 7 วัน
นายวีระ กล่าวด้วยว่า การชุมนุมต่อไปนี้ การตัดสินใจใด ๆ จะเป็นการตัดสินใจร่วมระหว่างกลุ่มเครือข่าย ไม่มีใครเป็นแกนนำกลุ่ม ซึ่งการตัดสินใจทุกอย่าง จะขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่นายวีระได้ประกาศเคลื่อนย้ายการชุมนุม กลุ่มผู้ชุมนุมก็ทยอยเดินไปปักหลักชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินด้านที่ติดกอง บัญชาการตำรวจนครบาล หรือตรงข้ามกองทัพภาคที่ 1 แต่รถยนต์ยังสามารถสัญจรไปมาบริเวณหน้ากองทัพภาคที่ 1 ได้ โดยมีการเล่นดนตรีสลับการปราศรัยเป็นระยะ ซึ่งแนวร่วมบางคนประกาศด้วยว่า หากการชุมนุมที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น สิ้นสุดเมื่อใด จะมีการย้ายมาสมทบกับผู้ชุมนุมที่หน้ากองทัพภาคที่ 1 ด้วย
--------------------------------------------------------------
11.56 น. : พท. จี้ รัฐจับม็อบหน้าทำเนียบฯ
พรรคเพื่อไทย จี้ รัฐบาล หากไม่ดำเนินการจับกุม กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบ ถือเป็นการตอกย้ำความเป็น 2 มาตรฐาน ขณะที่ชี้ การกระทำดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณบอกเหตุความขัดแย้งพันธมิตรฯและพรรคประชาธิปัตย์
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ ทำเนียบรัฐบาล ในช่วงเช้าวันนี้ว่า ถือเป็นการเช็กความใจถึงของรัฐบาล ต่อคำว่า 2 มาตรฐาน หากไม่จับกุม กลุ่มผู้ชุมนุมตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะขนาดเด็กไม่กี่คนที่ จ.เชียงราย ยืนถือกระดาษอยู่กลางสี่แยก รัฐบาล ยังส่งจับสถานพินิจ ไปแล้ว และหากในวันนี้ รัฐบาลยังไม่ดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคฝ่ายค้าน จะดำเนินการตามกฎหมายต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุทพ เทือกสุบรรณ รองนายรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศอฉ. ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ ทางแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ออกมา วิเคราะห์ท่าทีของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เป็นการเปิดฉากกับพรรคประชาธิปัตย์ และคาดว่า ความขัดแย้งรอบใหม่ กำลังจะเกิดขึ้น และอาจแสดงออกเป็น 5 ฝ่าย ด้วยกันคือ ฝ่าย นปช. ฝ่ายพันธมิตร ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายผู้มีบุญคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคฝ่ายค้าน