อัยการสูงสุดยืนยัน 11 ส.ค.มีความชัดเจนคดีก่อการร้าย

อัยการสูงสุด ไม่รู้สึกกดดันต้องพิจารณาคดีก่อการร้ายในเวลา 12 วัน ระบุวันที่ 11 ส.ค.นี้ จะมีความชัดเจนว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ ยืนยันพิจารณาอย่างรอบคอบ พร้อมเผยได้รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายหลายฉบับ จะนำไปพิจารณารวมกันด้วย

นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมงานประกาศเกียรติคุณนิสิตเก่านิติศาสตร์ดีเด่นและแสดงความยินดีประจำปี 2553 ที่อาคารมหาจุฬาลงกรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งนายจุลสิงห์ กล่าวถึงการพิจารณาสั่งคดีก่อการร้าย ซึ่งจะมีผู้ต้องหาครบกำหนดฝากขังผลัดสุดท้ายและต้องปล่อยตัววันที่ 11 สิงหาคมนี้ว่า ได้สั่งการให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษและอัยการที่เกี่ยวข้อง เร่งพิจารณาคดีสำนวนก่อการร้ายให้ทันวันที่ 11 สิงหาคม โดยให้อัยการที่เกี่ยวข้องทำงานในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่ออ่านสำนวนทั้งหมดให้ครบถ้วน ยืนยันว่าในวันนั้นจะมีความชัดเจนจะสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หากสั่งฟ้องต้องมีพยานหลักฐานเพียงพอ และตนไม่รู้สึกกดดัน เพราะอัยการและทีมงานทุกคน ตั้งใจที่จะมีคำสั่งให้ทันวันดังกล่าวอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม มีหนังสือถึงอัยการสูงสุดให้เร่งพิจาณณาให้ทันครบกำหนดฝากขังผู้ต้องหาถือว่าแทรกแซงการทำงานหรือไม่ นายจุลสิงห์ กล่าวว่า อัยการมีอิสระพิจารณาคดีตามพยานหลักฐาน ไม่ถือเป็นการแทรกแซง แต่ถือว่ารัฐมนตรีหวังดีแก่ประเทศชาติ ไม่ได้คิดมาก แต่หากอัยการจะเร่งพิจารณาสั่งคดีอย่างเดียว โดยไม่ดูหลักฐาน เพราะมีข้อจำกัดเรื่องกำหนดฝากขังคงทำไม่ได้ อยากให้ประชาชนสบายใจว่าคดีนี้อัยการจะพิจารณาอย่างรอบคอบไม่ผลีผลาม ยอมรับว่าเวลาเพียง 12 วันเพื่อพิจารณาคดีค่อนข้างเร็ว แต่ขณะนี้ยังไม่พบประเด็นที่จะให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติม

นายจุลสิงห์ กล่าวอีกว่า อัยการสูงสุดยังได้รับหนังสือร้องเรียนความเป็นธรรมจากผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายหลายฉบับ เกือบทุกฉบับมีเนื้อหาเหมือนกัน ได้สั่งการให้อัยการในส่วนพิจารณาข้อร้องเรียน เร่งอ่านหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งจะนำมาพิจารณาควบคู่กับคดีด้วย ส่วนพยานฝ่ายผู้ต้องหา ต้องพิจารณาว่าการที่พนักงานสอบสวนสอบไม่ครบมีปัจจัยใด หรือเป็นเพราะฝ่ายผู้ต้องหาไม่นำพยานมาให้สอบหรือไม่