สรุป โหนกระแสแม่ตั๊ก พิสูจน์ในรายการ ทองจริงหรือปลอม "ป๋าเบียร์" พูดแทนเมีย
รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณี ผู้ใช้ TikTok รายหนึ่ง ทำคลิปนำทองที่ซื้อมาจากไลฟ์สดของช่อง TikTok ของ "แม่ตั๊ก กรกนก" แม่ค้าดังเจ้าของร้านทอง เป็นสร้อยพร้อมจี้ไอ้ไข่ และ ดอกไม้ทองคำ นำไปขายที่ร้านทอง แต่ปรากฏว่าทางร้านทองไม่รับซื้อ เพราะไม่มีเปอร์เซ็นต์ทอง และไม่มียี่ห้อ เชื่อว่าถ้ารับซื้อแล้วนำไปหลอม จะไม่เหลือทองเลย
- ประวัติ แม่ตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร จากเด็กที่โตมากับกองขยะ สู่เศรษฐินีรวยพันล้าน
- รู้จักธุรกิจ แม่ตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร เศรษฐีนีพันล้านรายได้แพรวพราว
คุณฝ้าย หนึ่งผู้ร้องเรียน แจ้งว่า ตนซื้อกำไลทองคำปี่เซียะ ในราคา 3 หมื่นกว่าบาท เขาบอกว่าเป็นทอง 99.99 เปอร์เซ็นต์ ดูด้วยตาเปล่าเชื่อได้ว่าเป็นทอง 1 บาท ราคาทอง ณ วันนั้น อยู่ที่บาทละ 28,000 บาท เราก็คิดว่าส่วนต่าง 4-5 พันบาท เป็นค่ากำเหน็จ แต่พอถึงเวลาเอามาขาย ไม่มีร้านทองไหนรับซื้อ สุดท้ายเอาไปที่ร้านรับจำนำ ชั่งออกมาได้แค่ 6 กรัมกว่าๆ จำนำได้แค่ 9,000 บาท คุณฝ้ายบอกว่า มันเกินไปไหมที่เอาทองนำหนักแค่นี้ มาขายในราคา 3 หมื่นกว่าบาท แล้วไม่บอกให้คนซื้อเข้าใจให้ชัดว่ามันเป็นทองอะไร แบบไหน
ด้าน นายสมบูรณ์ ภุชงค์โสภาพันธุ์ กรรมการสมาคมค้าทองคำ ประเมินกำไลปี่เซียะ หลังจากนำไปชั่งน้ำหนักแล้ว ตีราคาต้นทุน จะอยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท ไม่รวมค่าแรง ที่บางร้านเขาไม่รับซื้อ น่าจะเพราะว่าเขาไม่มีเครื่องเช็กเปอร์เซ็นต์ ทำให้เขาไม่กล้าจะรับซื้อเอาไว้
นายสมบูรณ์ กรรมการสมาคมค้าทองคำ ยังบอกว่า ต้องพูดให้ชัดว่า ทองในตลาดที่มีการซื้อมาขายไป ร้านทองทั่วๆไปจะรับซื้อ มันก็ต้องเป็น ทองคำแท่ง หรือ ทองรูปพรรณ ที่เป็น สร้อยคอ กำไล แหวน ซึ่งพวกนี้ไม่ค่อยมีปัญหา เพราะสมาคมค้าทองคำ จะมีร้านทองที่อยู่ในสมาคม เวลาขึ้นรูปเป็นทองรูปพรรณ ต้องมีการประทับตราร้าน มีการระบุเปอร์เซ็นต์ทอง เวลาร้านรับซื้อ เห็นยี่ห้อ เห็นอะไรพวกนี้ เขารับซื้อได้เลย แต่ทองต่างๆ ที่เป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ หลายชิ้นเป็นทองที่ขึ้นรูปจากเทคโนโลยี อิเล็กโตรฟอร์มมิง ขึ้นรูปโลหะต่างๆ มีทองเป็นส่วนผสม มาทำเป็นรูปทรงต่างๆ ถามว่าเป็นทองไหม ก็ต้องบอกว่าเป็นทอง แต่ร้านทองทั่วไปเขาไม่รับซื้อ เพราะเขาไม่เครื่องตรวจเปอร์เซ็นต์ทอง เขาก็ไม่กล้ารับไว้ ยิ่งไม่มีการประทับตรา ไม่มียี่ห้อ มันก็ไม่เหมือนกับทองรูปพรรณทั่วไป
ขณะที่ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สคบ. บอกว่า ผู้บริโภคต้องได้รับความคุ้มครอง ในเคสนี้เป็นเรื่องของการโฆษณาขาย มันมีความจงใจให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดหรือไม่ ถ้ามีความพยายามในการปกปิด หรือบอกข้อมูลไม่หมด หรือทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่อ ตรงนี้มันจะมีความผิดทางอาญา
ขณะที่ แม่ตั๊ก และ คุณเบียร์ สามีภรรยาเจ้าของร้าน มายืนยันว่า ร้านทองของตนขายทองทุกแบบ ทองรูปพรรณทั่วๆไป ที่เป็นทอง 96.5% ก็ขาย ส่วนทองที่เป็นปี่เซียะ ทองที่เป็นของมงคล เราก็พยายามหามาให้ลูกค้าเราได้ซื้อไปบูชา มีการจัดโปรต่างๆ นำของมาแถมให้เขารู้สึกว่าซื้อไปแล้วคุ้มค่า ยอมรับว่าบางครั้งไปไลฟ์สดแล้วไม่ได้อธิบายชัดว่า อันนี้เป็นทองกี่กรัม มีพูดในไลฟ์ แต่ไม่ได้ขึ้นเป็นข้อความให้เห็นชัดๆ แต่ถ้าลูกค้าซื้อไปแล้ว เอาไปขายต่อร้านอื่นไม่ได้ ก็ให้เอามาขายคืนที่ร้านเรา
สิ่งที่อยากบอกในวันนี้คือ ตนมาออกรายการในวันนี้ เพื่อจะยืนยันกับทุกคนว่า เราไม่ได้ขายทองปลอม ไม่ได้ตั้งใจจะหลอกคน ณ วันนี้ตนขอประกาศรับซื้อคืนในราคาเต็มที่ขายไป ก็ขอให้เอามาขายคืนให้หมดเลย เพราะมันเป็นความผิดพลาดของตนเอง
ขณะที่ผู้เสียหายบางคนต้องการจะขายทองคืน แต่คนอื่นๆ บอกว่าต้องการจะดำเนินคดี ซึ่งในเรื่องนี้ ทาง สคบ.ให้ความเห็นไว้ว่า ในทางกฎหมาย คดีฉ้อโกงประชาชน ผู้เสียหายคือรัฐ ต่อให้เยียวยายังไงคดีมันก็ไม่จบ ส่วนกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ถ้ามันพิสูจน์ได้ว่าการโฆษณาขายทองมันมีความผิด เมื่อ สคบ.รับเรื่องแล้ว ต่อให้เยียวยาค่าเสียหาย แต่คดีมันหยุดไม่ได้ มันต้องถึงที่สุด
สิ่งที่ผู้เสียหายบอกตรงกันก็คือ ที่ตัดสินใจซื้อทองของร้านนี้ เพราะติดตามแม่ตั๊ก ชื่นชอบเขา ที่เขาคอยช่วยเหลือคน ก็เลยไว้ใจเขา แล้วพอมีปัญหาขึ้นมา การที่เขามาพูดในไลฟ์ว่า เงินอยู่ในกระเป๋าเรา ไม่พอใจก็อย่าชักเงินออกมาก็เท่านั้น พูดแบบนี้ ลูกค้าเสียความรู้สึกมากๆ แล้วยังมีประเด็นที่ไปพูดว่า ให้ไปทำชีวิตตัวเองให้ดีก่อน อันนี้ที่ทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึกมากๆ