เจ้าสาวถูกจับมัดกับเสาในวันแต่งงาน ดิ้นรนขัดขืนร้องให้ช่วย เฉลยแล้วเกิดอะไรขึ้น?
เจ้าสาวถูกเพื่อนเจ้าบ่าวรุมจับ มัดกับเสาในวันแต่งงาน ดิ้นรนขัดขืน ร้องให้คนช่วย เฉลยแล้วเกิดอะไรขึ้น?
การล้อเล่นในงานแต่งงานเป็นประเพณีดั้งเดิมของจีน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่เหมาะสมและแสดงพฤติกรรมที่หยาบคายหลากหลายรูปแบบ ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด ในงานแต่งงานที่มณฑลซานซี เจ้าสาวถูกมัดกับเสาโทรศัพท์โดยกลุ่มชายหลายคน แม้ว่าเธอจะร้องขอความช่วยเหลือและพยายามขัดขืน แต่กลับไม่มีใครสนใจ คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่และสร้างความฮือฮาในสังคมออนไลน์
นายหยาง หนึ่งในผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ได้โพสต์วิดีโอพร้อมข้อความว่า “เจ้าสาวประสบปัญหาในงานแต่งงาน” ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในชุมชนโห่วตี้โก่ว เมืองหยางเฉวียน มณฑลซานซี โดยเขาอธิบายเพิ่มเติมว่า "ไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่ดี นี่เป็นเพียงประเพณีท้องถิ่น พวกเราเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน เราแค่สนุกสนานกัน อย่าด่วนตัดสินไปก่อน”
ในวิดีโอ เจ้าสาวถูกชายคนหนึ่งอุ้มไว้ขณะที่เธอร้องขอและพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้น แต่กลับไม่มีใครสนใจและมัดเธอกับเสาโทรศัพท์ด้วยเทปกาว นายหยางให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวจีนว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเที่ยงของวันที่ 23 กันยายน ในชุมชนโห่วตี้โก่ว สำนักงานถนนเป่ยต้าจี เมืองหยางเฉวียน โดยกล่าวว่า "นี่เป็นประเพณีท้องถิ่นของเรา เราทำกันเพื่อความสนุกสนานในงานแต่งงาน เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่ชาวเน็ตคิด"
นายหยางอธิบายเพิ่มเติมว่าชายที่มัดเจ้าสาวในวิดีโอเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าบ่าว ทั้งหมดโตมาด้วยกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับเจ้าบ่าว "เราได้ตกลงกับเจ้าสาวล่วงหน้าแล้วและได้รับความยินยอมจากทั้งเจ้าสาวและเจ้าบ่าว" ในระหว่างเหตุการณ์นั้น เจ้าบ่าวก็อยู่ข้าง ๆ คอยปกป้องเจ้าสาวและไม่ให้เธอได้รับบาดเจ็บ เขาหวังว่าผู้คนจะไม่เข้าใจผิด
นายหยางกล่าวอีกว่า เนื่องจากได้พูดคุยตกลงกันล่วงหน้า การกระทำนี้จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อเจ้าสาว หากเกิดอันตรายขึ้น ครอบครัวของทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ไม่ยอมแน่นอน ในวันนั้น หลังจากที่พวกเขามัดเจ้าสาวกับเสาโทรศัพท์แล้ว พวกเขาถ่ายภาพและปล่อยตัวเธอ เวลาที่ใช้สั้นมากและเจ้าสาวไม่ได้รับบาดเจ็บ
ภายหลัง เจ้าหน้าที่ชุมชนได้รับทราบเหตุการณ์และยืนยันว่าเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้า บุคคลที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากวิดีโอดังกล่าว