แผนเผชิญเหตุได้ใช้จริง สุวรรณภูมิวุ่น ตรวจสัมภาระทุกชิ้นทั้งลำ หลังผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิด

แผนเผชิญเหตุได้ใช้จริง สุวรรณภูมิวุ่น ตรวจสัมภาระทุกชิ้นทั้งลำ หลังผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิด

แผนเผชิญเหตุได้ใช้จริง สุวรรณภูมิวุ่น ตรวจสัมภาระทุกชิ้นทั้งลำ หลังผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดภาพนาที จนท.สนามบินสุวรรณภูมิใช้แผนเผชิญเหตุ หลังผู้โดยสารสาวขู่ว่ามีระเบิด ตรวจสัมภาระทุกชิ้นใต้ท้องเครื่อง

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบินคลี่คลายสถานการณ์ กรณีมีผู้โดยสารขู่ว่ามีระเบิดบนเครื่องบินของสายการบินไทย เวียตเจ็ท ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการของสนามบิน

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (26 กันยายน 2567) เวลา 14.18 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับแจ้งผ่านศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศว่า มีการข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานของสายการบินไทย เวียตเจ็ท เที่ยวบิน VZ961 จากเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีผู้โดยสาร 121 คน เป็นทารก 1 คน มีนักบินและลูกเรือ รวม 6 คน

โดย ทสภ. ได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับสายการบินและได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน บทที่ 3 เรื่องการขู่วางระเบิด และได้ประสานหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัย ทีมแพทย์และพยาบาล ทสภ. เข้าปฏิบัติหน้าที่ดำเนินการตามแผนเพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยทันที

เบื้องต้นได้นำอากาศยานดังกล่าวเข้าหลุมจอด Isolate Aircraft Parking Position ฝั่งทางทิศตะวันออกของอากาศยาน และได้ลำเลียงผู้โดยสารพร้อมลูกเรือออกจากอากาศยานโดยทันที หลังจากนั้นนำผู้โดยสารไปพักรอที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัย ทสภ. ฝั่งตะวันออก โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้ดำเนินการตรวจค้นร่างกายและสัมภาระ รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิด (Explosive Ordnance Disposal : EOD) เข้าดำเนินการตรวจสอบกระเป๋าทุกชิ้นที่บรรจุใต้ท้องเครื่องและตรวจสอบอากาศยานอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งไม่ปรากฏว่า มีวัตถุต้องสงสัยเป็นวัตถุระเบิดแต่อย่างใด ทสภ. จึงได้ประกาศยกเลิกการใช้แผนเผชิญเหตุในเวลา 16.31 น.

โดยสายการบินไทยเวียตเจ็ท ได้นำผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดไปส่งยังขั้นตอนผู้โดยสารขาเข้าปกติต่อไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลต่อการให้บริการของสนามบินแต่อย่างใด

นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากผู้โดยสาร เพศหญิง สัญชาติโปรแลนด์ ข่มขู่ว่ามีระเบิดบนอากาศยานขณะทำการบิน แต่อย่างไรก็ตาม ทสภ. ได้นำตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ

และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000.-บาท (สองแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำนั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 5 ปี ถึง 15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000.-บาท (สองแสนบาท) ถึง 600,000.-บาท (หกแสนบาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทสภ. ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษามาตรฐานความปลอดภัยในระดับสูงสุดพร้อมสร้างความมั่นใจ ให้กับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการอย่างดีที่สุด สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook