ลูกสาวสั่ง รปภ. ห้ามแม่เข้าหมู่บ้าน ปล่อยนอนตากแดดตากฝน เผยเหตุผลที่ต้องอกตัญญู

ลูกสาวสั่ง รปภ. ห้ามแม่เข้าหมู่บ้าน ปล่อยนอนตากแดดตากฝน เผยเหตุผลที่ต้องอกตัญญู

ลูกสาวสั่ง รปภ. ห้ามแม่เข้าหมู่บ้าน ปล่อยนอนตากแดดตากฝน เผยเหตุผลที่ต้องอกตัญญู
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกสาวสั่ง รปภ. ห้ามแม่เข้าหมู่บ้าน ปล่อยนอนตากแดดตากฝน เผยเหตุผลยอมถูกตราหน้าอกตัญญู เพราะพฤติกรรมของแม่เอง

วันที่ 27 ก.ย.67 เมื่อเวลา 13.30 น. นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีและเจ้าหน้าที่คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังได้รับเรื่องร้องเรียน มีหญิงวัย 68 ปี ถูกลูกขับไล่ออกจากหมู่บ้าน ทำให้ไม่มีที่พักอาศัยต้องเร่ร่อนนอนนอกบ้านทั้งที่ฝนตก

ทางเพื่อนบ้านก็แจ้งลูกป้า ลูกป้าก็บอกว่าให้แจ้งตำรวจ ป้าเร่ร่อนนอนไปทั่วหน้าหมู่บ้าน ทั้งที่วัด และรถกอล์ฟ ซึ่งป้ารายนี้โวยวายด่าทอลูกสาวอยู่เป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้คนในหมู่บ้านจนต้องถ่ายคลิปร้องขอความช่วยเหลือไปยังนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้ลงพื้นที่มาช่วยเหลือ

โดยในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้เชิญตัวป้าวัย 68 ปี คนดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาคือ นางวีณา มาพักนอนรอที่โรงพักก่อนระหว่างรอความช่วยเหลือจากหน่วนงานต่าง ๆ

จากการสอบถามนางวีณา หญิงสูงอายุ รายนี้เปิดเผยว่า เมื่อสองวันก่อนตนได้นั่งรถแท็กซี่มาหาลูกสาวกับลูกเขยที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบางบัวทอง เพื่อจะมาทวงเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือนที่ลูก ๆ อีก 2 คน ได้โอนเงินผ่านมาที่ลูกสาวคนนี้ รวมกับที่ตัวลูกสาวต้องจ่ายให้ตนด้วยอีกเดือนละ 2 พันบาทเท่ากับคนอื่น ๆ รวมเป็นเดือนละ 6 พันบาท แต่ตอนนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้วที่ตนไม่ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูเลยมาตั้งแต่เดือน พ.ค. จนตนต้องนั่งรถแท็กซี่มาทวงถาม

แต่ปรากฎว่าเมื่อตนนั่งรถแท็กซี่มาถึงหน้าหมู่บ้าน รปภ.กับนิติบุคคลของหมู่บ้านกลับไม่ให้ตนเข้าไปหาลูกสาวในหมู่บ้าน โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งของลูกสาวตนที่สั่งห้ามเอาไว้เด็ดขาดว่า ไม่ให้ตนเองเข้าไปในหมู่บ้านทุกกรณี ตนซึ่งไม่มีเงินติดตัวเลยเพราะหวังว่าจะมาเอาเงินจากลูกสาว ที่ลูกคนอื่นๆ โอนฝากมาให้ จึงทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่ารถแท็กซึ่ จนต้องขอยืมเงินจาก รปภ.หมู่บ้านไปจ่ายค่ารถแท็กซี่ก่อน จากนั้นเมื่อไม่มีเงินและยังเข้าไปหาลูกสาวกับลูกเขยในหมู่บ้านไม่ได้ ตนจึงตัดสินใจนอนคอยลูกสาวอยู่หน้าหมู่บ้านดังกล่าวแทน แต่ก็ยังไม่ได้พบกับลูกสาวคนนี้เลย ต้องนอนตากแดดตากฝนอยู่ตรงนี้ จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวให้ตนมาพักนอนที่โรงพักก่อน

นางวีณา กล่าวอีกว่า ปกติตนไม่ได้พักอาศัยอยู่กับลูกสาวคนนี้ แต่ทุกๆ เดือนตนจะนั่งรถมาหาลูกสาวเพื่อมาเอาเงินค่าเลี้ยงดูที่ลูกๆ คนอื่นโอนมาฝากกับลูกสาวคนนี้ไว้ให้ตนเอาไว้กินใช้รายเดือน แต่ครั้งนี้ลูกสาวกลับไม่ให้เงินตนโดยอ้างว่าเอาเงินไปใช้หนี้หมดแล้ว ซึ่งเป็นหนี้อะไรก็ไม่รู้ แถมยังสั่ง รปภ.กับนิติบุคคลไม่ใก้ตนเข้าไปพบในหมู่บ้านอีก

นอกจากนี้ตนยังต้องการพบลูกสาวคนนี้เพื่อให้ช่วยรับรองเรื่องที่ตนจะขอย้ายไปอยู่ที่วัดด้วย ซึ่งทางวัดก็ให้ทางครอบครัวเซ็นรับรองให้ก่อน ตนจึงหมดที่ไป เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน จะย้ายไปอยู่วัดก็ไม่มีใครรับรองให้

ทางด้านนายสุริยัน  อายุ 42 ปี รปภ.ของหมู่บ้านแห่งนี้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนเห็นคุณยายนั่งรถแท็กซี่มาหาลูกสาวในหมู่บ้าน แต่ลูกสาวไม่ออกมาพบมีเพียงลูกเขยเท่านั้นที่ออกมาพบคุณยาย โดยคุณยายบอกว่าที่เดินทางมาหาลูกสาวเพราะจะมาเอาเงินค่าเลี้ยงดูรายเดือนที่ลูกๆ โอนให้แก เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเดินทางไปอยู่วัดวังขนาย ที่ จ.กาญจนบุรี แต่ดูเหมือนทางลูกสาวจะไม่มีเงินให้คุณยาย ทำให้คุณยายไม่มีเงินที่จะเดินทางไปอยู่วัดตามที่ต้องการจึงต้องเร่ร่อนอาศัยนอนแถวนี้ และยังถูกทางลูกสาวกำชับกับพวกตนซึ่งเป็น รปภ.ของหมู่บ้านด้วยว่า ไม่อนุญาตให้คุณยายเข้าไปหาในหมู่บ้านโดยเด็ดขาด ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกัน ด้วยความสงสารที่เห็นคุณยายตกอยู่ในสภาพนี้จึงตัดสินใจถ่ายคลิปแล้วส่งไปขอความช่วยเหลือ

ทางด้านนายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่สการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนได้รัยคลิปร้องขอความช่วยเหลือมาจาก รปภ.ของหมู่บ้าน จึงได้เดินทางมาลงพื้นที่ติดตามข้อเท็จจริง จากการสอบถามพูดคุยกับคุณป้ารายนี้ พบว่าก่อนหน้านี้คุณป้าเคยอาศัยอยู่กับลูกสาวและลูกเขยในหมู่บ้านแห่งนี้ม่ก่อน แต่เกิดมีปัญหากับลูกสาวและลูกเขย จึงได้ย้ายออกจากบ้านไปโดยตระเวนไปอาศัยนอนตามวัดบ้าง โรงพักบ้าง บางครั้งได้เงินมาก็นำไปซื้อเหล้าขาวมาดื่มกิน และอาศัยนอนอยู่แถวหน้าป้อม รปภ. และลูกสาวคนนี้สั่งห้ามเข้าหมู่บ้านอีกต่างหาก

เรื่องนี้หลังจากที่ตนรับฟังปัญหาแล้ว ต้องพูดคุยปรับความเข้าใจกันระหว่างลูกสาวกับคุณป้ารายนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาคุณป้าได้ขายบ้านและที่ดินแล้วนำมาแบ่งปันให้กับลูก ๆ ทั้ง 3 คน ทำให้ลูกทั้งสามคนเป็นผู้ได้รับมรดกจากคุณป้าไป ดังนั้นตามกฎหมายแล้วหากทอดทิ้งไม่ดูแลบุพการี ทางบุพการีสามารถที่จะฟ้องร้องเรียกนำเอามรดกกลับคืนมาได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของแม่ที่สามารถเลี้ยงดูแลลูกได้ 3 คน แต่ลูก 3 คนกลับเลี้ยงดูแม่คนเดียวไม่ได้ หลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ไปพบกับทางลูกสาวและลูกเขยของคุณป้าเพื่อพูดคุยกันก่อน นอกจากนี้ตนจะส่งคุณป้ารายนี้เดินทางไปตรวจสอบสุขภาพร่างกายว่ามีโรคประจำตัวหรืออาการที่ต้องรักษาจากการติดเหล้าหรือไม่ เนื่องจากคุณป้าเองก็เป็นนักดื่มมานาน

ต่อมานายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ ได้เดินทางไปที่บ้านลูกสาวป้าวัย 68 ปี ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง เพื่อพูดคุยกับลูกชายป้า ทราบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นคือแม่เมา อาละวาด ทำร้ายร่างกายลูกๆ ประจำ และสารพัดเรื่องตั้งแต่เด็กจนโต พวกตนไม่อยากดูแลแม่ หากมีหน่วยงานที่รับดูแลพวกตนก็ยินดี แม่เป็นคนติดเหล้า ตนเคยพาไปบำบัดแล้วแต่แม่ก็ยังดื่ม

ตอนเมาจะอาละวาด ปาขวดใส่ลูก เอามีดไล่ฟัน ถ้าวิ่งหนีปิดประตูแม่ก็จะฟันประตู บางทีเมื่อก่อนก็เอากรดไปสาดใส่เพื่อนบ้าน เผาบ้านเพื่อนบ้าน พาคนเข้ามากินเหล้าในบ้าน น้องสาวเคยจะถูกลวนลามจากเพื่อนแม่ ปัจจุบันที่เขาอยู่บ้านน้องสาว แม่ออกไปกินเหล้า น้องก็จะทำอะไรไม่ได้เลย เขาจะด่าตลอด อยู่บ้านตนเขาเมาก็ด่า ตนยินดีให้ทางหน่วยงานเอาไปรักษาและดูแล

เบื้องต้นทาง สสจ.จังหวัดนนทบุรี จะส่งตัวไปตรวจรักษาที่ รพ.บางบัวทอง และจะถามความประสงค์คุณป้าว่าจะยินดีอยู่ในความดูแลของรัฐหรือไม่ ซึ่งถ้ายินยอม ทาง พม.จ.นนทบุรีทจะประสานบ้านพักคนชราให้เข้าสู่โครงการดูแลผู้สูงอายุต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook