เครนก่อสร้าง ซ.สุขุมวิท 19 หักดับ 2 เจ็บ 3

 เกิด เหตุ เครนก่อสร้าง ของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง หักขณะกำลังทำงาน ทำให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และเสียชีวิต2 ราย

11 ส.ค. ร.ต.ท.อดิศักดิ์ เหล่าดี พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุเครนล้มทับคนงานก่อสร้างปากซอยสุขุมวิท 19 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอโศก ถนนสุขุวิท โดยที่เกิดเหตุเป็นไซต์งานของ บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารศูนย์การค้า ลานจอดรถ และโรงแรมสูง 36 ชั้น เจ้าหน้าที่พบแขนเครนยกวัสดุก่อสร้างความยาวประมาณ 20 เมตร หักจากหอบังคับ ซึ่งมีความสูงจากพื้นดินเท่าตึก 10 ชั้น ลงมาพาดบริเวณพื้นที่ก่อสร้างบนชั้นที่ 8 ของตัวอาคาร ส่งผลให้นั่งร้านได้รับความเสียหายส่วนคนขับเครนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป

จากการสอบสวน นายชาญศิลป์ คงมังคละ อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยภายในโครงการ ให้การว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่า คนขับเครนแค่อยากดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง เลยใช้ให้คนงานที่อยู่ด้านล่างซื้อให้ จากนั้นก็บังคับให้ตะขอลงมาเกี่ยวถุงใส่เครื่องดื่มดึงขึ้นไปบนหอบังคับ แต่จังหวะที่กำลังดึงขึ้นไปนั้น ตะขอได้เกิดเหวี่ยงไปกระแทกกับนั่งร้านระหว่างทางจนแขนเครนเสียศูนย์แกว่ง และหักลงมาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนขับเครนก็หายหน้าไปโดยไม่มีใครพบเห็นอีกเลย

ต่อมา ร.ต.ท.อดิศักดิ์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ทองหล่อ ว่า สามารถตามไปอายัดศพผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ได้บนรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีฟ้า ทะเบียน ณน 1974 กทม.ซึ่งจอดอยู่ข้างสนามเทนนิสภายในโรงพยาบาลคามิลเลียน จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบทราบชื่อต่อมา คือ นายสุธา เยาวนาถ อายุ 47 ปี และ นายสมบูรณ์ กุลนา อายุ 45 ปี โดยสภาพศพทั้ง 2 ราย มีบาดแผลแตกที่กะโหลกศีรษะ และถูกห่อร่างด้วยผ้าใบกันแดดขนาดใหญ่ซุกซ่อนไว้ท้ายรถกระบะ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส อีก 3 ราย ชื่อ นายวรากร จรัสแพ้ว อายุ 39 ปี นายบรรจง กุลภู่ อายุ 35 ปี และ นายสมเกียรติ จันทกุล อายุ 29 ปี ทั้งหมดถูกนำตัวเข้าไปรักษาที่ห้องไอซียูของโรงพยาบาลดังกล่าว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ส่งศพผู้ตายทั้งสองรายไปผ่าชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลจุฬาฯ ก่อนเชิญตัววิศวกรผู้ดูแลโครงการ และผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำ ส่วนคนขับเครนนั้นจะประสานให้ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากพบว่าเป็นความบกพร่องของผู้ใดอีกก็จะแจ้งข้อหาดำเนินการเพิ่มเติมกันต่อไป