กัมพูชา แถลงโต้ จม.ไทยถึง UN เป็นเรื่องโกหก

กัมพูชา แถลงโต้ จม.ไทยถึง UN เป็นเรื่องโกหก

กัมพูชา แถลงโต้ จม.ไทยถึง UN เป็นเรื่องโกหก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แถลงการณ์จากหน่วยข้อมูลข่าวสารและโต้ตอบเร็ว สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในวันนี้ (11 ส.ค.) เพื่อชี้แจงความสัมพันธ์ล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา ต่อสาธารณชนทั้งใน และต่างประเทศ มีดังนี้

1. สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี แห่งประเทศกัมพูชา กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ออกมาพูดจามากเกินไป เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา พร้อมทั้งได้รุกรานและสร้างความขุ่นเคืองให้กับกัมพูชา ดังนั้น สมเด็จฮุน เซน จึงมีการแสดงการกระทำที่ชัดเจน เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศกัมพูชาอย่างสุดกำลัง ตามบรรทัดฐานสากล และ ความเป็นจริง

2. นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทย ไม่มีลักษณะของความเป็นผู้นำรัฐบาล , สมาชิกอาเซียน และ สหประชาชาติ
- โดยมีการเข้าร่วมกับกลุ่มคนไทย ที่มีการประพฤติตัวเป็นปรปักษ์กับกัมพูชา กล่าวคือ เครือข่าย "คนไทยรักชาติ" และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนเสื้อเหลือง) แม้กระทั่งมีการรวมตัวกันภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งโจมตี และคุกคาม เพิกถอน MOU 2543 ที่ถูกต้องตามกฎหมาย และ ที่สัมพันธ์กับเอกสารสากล และ ใช้กำลังทหารรุกรานประเทศกัมพูชา
- มีการสร้างสถานการณ์ความตึงเครียดขึ้นอีกครั้งกับกัมพูชา โดยการกล่าวผ่านสื่อว่า "ผลการตัดสินโดยศาลโลก เมื่อปี 1962 (2505) เพียงตัดสินให้ปราสาทพระวิหารเป็นของประเทศกัมพูชา แต่พื้นที่โดยรอบเป็นของประเทศไทย "
- มีการพลิกแพลงในการกระทำเพื่อประสบผลสำเร็จของ MOU 2543 โดยเฉาะอย่างยิ่ง ในการกำหนดเขตแดน ซึ่งมาจากการกระทำของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา JBC พร้อมทั้งมีความตั้งใจ ที่จะหยุดกระบวนการทำงานของ JBC

3. เพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการคุกคามทางการทหารจากประเทศไทย สมเด็จ ฮุน เซน ได้ส่งจดหมายด่วน 2 ฉบับไปยัง ฯพณฯ วิตาลี ชูร์เกีย ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และ ฯพณฯ อาลี อับดุลซาลัม ประธานสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ เพื่อการชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤติที่ประเทศไทย เป็นฝ่ายสร้างขึ้นในพื้นที่ชายแดนระหว่างไทย และกัมพูชา ใกล้กับปราสาทพระวิหาร

4. เพื่อตระหนักในความเป็นจริง ที่ต้องการก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของนานาชาติ โดย นายอภิสิทธิ์ ได้เบี่ยงเบนคำพูดเพื่อก่อให้เกิดความเสียหายต่อ สมเด็จ ฮุนเซน ด้วยการกล่าวว่า "เขา (สมเด็จ ฮุน เซน)ได้อ้างประโยคนั้นมาจากหนังสือพิมพ์ซึ่งไม่ใช่คำพูดของตน "


นอกจากนี้ หน่วยข้อมูลข่าวสารและโต้ตอบเร็ว ยังประสงค์ที่จะแจ้ง ต่อสาธารณชนทั้งในและนอกประเทศ เพื่อกรุณารับทราบ ดังต่อไปนี้

1 ยังไม่มีคำพูดที่แน่นอน ว่าทำไม นายอภิสิทธิ์ ถึงยังไม่มีการเรียกร้องให้หนังสือพิมพ์ทำการแก้ไข และเปิดเผยขอ้มูลอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งนั้นมีความหมายโดยนัย ในความมั่นคงของชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

2. แต่ละคำ และในทุกๆคำพูด โดยนายอภิสิทธิ์ เกี่ยวกับปัญหาปราสาทพระวิหาร , เส้นเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ใกล้ปราสาทพระวิหาร , คำขู่ที่จะยกเลิก MOU 2543 และคำขู่ว่าจะใช้กำลังทางทหาร ที่นำเสนอผ่านสื่อทุกๆ สื่อในประเทศไทย เช่น ASTV , ATNN online และ the Nation ที่ได้นำเสนอต่อสาธารณชน เมื่อวันที่ 7 ส.ค. รวมไปถึงหนังสือพิมพ์ภาคภาษาไทยมติชน และ ไทยรัฐ ซึ่งตีพิมพ์ลงวันที่ 8 ส.ค. ได้ถูกบันทึกเอาไว้โดย หน่วยข้อมูลข่าวสารและโต้ตอบเร็วแล้วทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นสื่อที่เชื่อถือได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ต้องการจะรับรู้หรืออ่านสื่อต่างๆ เหล่านั้นหรือไม่ ทางหน่วยงานจะแสดง และ/หรือ จัดส่งไปให้ถึงเขา

3. โดยคำชี้แจงของนายอภิสิทธิ์เอง ได้แสดงให้เห็นถึงการขาดความน่าเชื่อถือทั้งหมดของสื่อไทย ขณะเดียวกัน หากการนำเสนอของสื่อไทยมีความถูกต้อง ก็จะเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความเป็นจริง ว่านายอภิสิทธิ์เป็นคนโกหก หลอกลวงด้วยความช่ำชอง

4. นายอภิสิทธิ์มีการเล่นคำ ที่แฝงด้วยแผนการโดยมีจุดมุ่งหมายในการรุกรานอาณาเขตของกัมพูชา พื้นที่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร จากการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ จากคำว่า "พื้นที่ทับซ้อน" หรือ "พื้นที่พิพาท" ให้กลายเป็น "อาณาเขตของไทย"

5. โดยคำชี้แจงของนายอภิสิทธิ์เอง ได้ยืนยันว่าประเทศไทยในช่วงระหว่างปี 1975-1979 (2518-2522) ได้กำหนดเส้นเขตแดนใหม่ หรือบริเวณ "พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร" ซึ่งรุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของกัมพูชา โดยแผนที่ที่มีเงื่อนงำ , เขียนขึ้นฝ่ายเดียว และไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากลซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว ก็ไม่ต่างกับการกระทำของพรรคนาซี ภายใต้การนำของฮิตเลอร์ และพรรคฟาสซิสต์ภายใต้การนำของมุสโซลินี เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ในความต้องการเหยียบย่ำ และ ยึดครองดินแดนต่างชาติ

โดยสรุป โฆษกของหน่วยข้อมูลข่าวสารและโต้ตอบเร็ว สังกัดสำนักงานคณะรัฐมนตรีกัมพูชา ขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้กระทำสิ่งที่เป็นการมอมเมา และพยายามจูงใจให้สาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ ยอมรับการใช้กำลังของประเทศไทยต่อประเทศกัมพูชา และเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือด และความทุกข์ของผู้บริสุทธิ์ทั้งชาวไทยและกัมพูชา สมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จึงได้ส่งจดหมายถึงสหประชาชาติ และร้องขอให้มีการจัดประชุมระดับระหว่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องเส้นเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา แต่เขามีปัญญาและรู้ว่าประเทศไทย จะไม่ยอมรับข้อเรียกร้องดังกล่าว และยืนยันว่าจะใช้วิธีการในระดับทวิภาคี ในการแก้ไขปัญหา รวมทั้ง ยืนยันจะทำตามแผนการที่จะใช้กัมพูชาเป็นตัวประกันทางการเมือง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศไทย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook