ชนเผ่าอายุยืนที่สุดในโลก ประวัติศาสตร์ 900 ปี ไม่มีคนป่วยมะเร็ง เฉลยเคล็ดลับ 4 ข้อ

ชนเผ่าอายุยืนที่สุดในโลก ประวัติศาสตร์ 900 ปี ไม่มีใครเป็นมะเร็ง นักวิจัยเฉลยเคล็ดลับ 4 ข้อ ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง

หุบเขาฮันซา (Hunza) เป็นหุบเขาที่อยู่โดดเดี่ยวบนความสูงเกือบ 2,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของปากีสถาน เป็นที่ตั้งของชุมชนฮันซา หรือที่รู้จักกันในชื่อชนเผ่าบูรุโช (Burusho) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่มีอายุขัยยืนยาวที่สุดในโลก

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับชาวฮันซาคือ พวกเขามีอายุขัยเฉลี่ยที่สูง สุขภาพดี และยังคงมีจิตใจแจ่มใสแม้ในวัยชรา บางคนที่นี่มีอายุถึง 120 ปีได้อย่างไม่ยากเย็น 

จากรายงานของ Australian Associated Press ระบุว่า ตลอดประวัติศาสตร์กว่า 900 ปี ไม่มีใครในชนเผ่านี้เป็นมะเร็งและแทบจะไม่เจ็บป่วย นั่นคือเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญได้ทุ่มเทเวลาในการวิจัยเพื่อค้นหา "กุญแจ" สู่ความยืนยาวของชนเผ่านี้ ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่า เคล็ดลับที่ช่วยให้พวกเขามีชีวิตยืนยาวขึ้นอยู่กับ 4 สิ่งต่อไปนี้

1.อาหารเพื่อสุขภาพ ส่วนใหญ่แล้ว ชาวฮันซาจะเป็นมังสวิรัติ อาหารของพวกเขาประกอบด้วยผลไม้และผักสด เช่น มันฝรั่ง แครอท ผักดิบ หัวไชเท้า ฟักทอง แอปเปิ้ล ลูกพีช และแอปริคอต รวมถึงถั่วต่างๆ เช่น วอลนัท อัลมอนด์ น้ำมันที่จำเป็น และโปรตีนจากสัตว์ที่สำคัญ ได้แก่ นม โยเกิร์ต ชีส นอกจากนี้ยังมีธัญพืช ข้าวบาร์เลย์ ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และแป้งบัควีต ทั้งหมดนี้ปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมี จึงปลอดภัยต่อสุขภาพมาก

พวกเขาไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์และไม่บริโภคอาหารแปรรูป เนื้อสัตว์จะเก็บไว้สำหรับโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงานหรืองานเทศกาล เมื่อทุกคนจะได้รับเนื้อชิ้นเล็กๆ ที่ปรุงสุกอย่างดี อาหารทุกมื้อจะทำสดใหม่ที่บ้านในแต่ละวัน

การจำกัดการบริโภคเนื้อสัตว์และหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ชาวฮันซามีอายุยืนกว่าคนในภูมิภาคอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยเบื้องต้นพบว่า การเป็นมังสวิรัติชั่วคราวอาจช่วย "ฟื้นฟู" ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง

นั่นอาจเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมตลอดกว่า 900 ปีที่ผ่านมา ไม่มีใครในชนเผ่านี้เป็นมะเร็ง ชนเผ่านี้ยังถือเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่มีสุขภาพดีที่สุดและอายุยืนที่สุดในโลก

2.กินแอปริคอตเป็นประจำ แอปริคอตเป็นอาหารที่คุ้นเคยมากสำหรับชาวฮันซา พวกเขามักดื่มน้ำแอปริคอตแห้งเป็นระยะเวลา 2-4 เดือนต่อปี ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษของพวกเขา และสิ่งนี้ช่วยให้พวกเขามีสุขภาพดี ป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็ง งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า แอปริคอตมีวิตามินบี-17 หรือที่เรียกว่าอะมิกดาลิน (amygdalin) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการต้านมะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ

3.ออกกำลังกายทุกวัน ชาวฮันซามีสุขภาพแข็งแรงและกระฉับกระเฉงแม้ในวัยชรา พวกเขาใช้เวลาหลายชั่วโมงเดินเขาตามเส้นทางภูเขาที่สูงชันทุกวัน นอกจากนี้ การเลี้ยงวัวและแกะ การเก็บฟืน หรือการทำงานบ้าน ก็ช่วยให้พวกเขาเคลื่อนไหวร่างกายและได้สัมผัสกับแสงแดดมากขึ้น พวกเขายังขี่จักรยาน เล่นสเก็ต และเล่นกีฬาหลายประเภททุกวัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ช่วยให้พวกเขามีสุขภาพแข็งแรง

4.ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ชาวฮันซามักดูอ่อนกว่าวัยมากกว่าที่เป็นจริง เนื่องจากชีวิตของพวกเขาไม่เต็มไปด้วยความเครียดหรือแรงกดดัน พวกเขามักจะร่าเริง มีความสุข และมีกิจกรรมที่ช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน มีงานวิจัยหลายชิ้นสรุปว่าการมีจิตใจที่มองโลกในแง่ดีและร่าเริง สามารถช่วยให้คนมีอายุยืนยาวขึ้นและต่อสู้กับโรคภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ