เกือบตายเพราะกับข้าวแม่ แพทย์เตือน "เมนูผักดอง" ทำพลาดนิดเดียวเหมือนกินยาพิษ
แม่ลูกหวิดดับหลังกินข้าว 2 ชั่วโมง ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์ชี้ "เมนูผัก" ที่หลายบ้านทำ พลาดแค่นิดเดียว เหมือนวางยาพิษตัวเอง
หลายคนไม่ทราบว่ากระบวนการดองผักมีความเสี่ยงต่อการเกิดพิษ โบทูลินัมท็อกซิน (botulinum toxin) ทำให้เกิดโรคโบทูลิซึ่ม นอกจากนี้ การกินอาหารประเภทนี้มากเกินไปยังทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้อีกด้วย
ผักดองเป็นอาหารที่หลายคนคุ้นเคยและชื่นชอบ อย่างไรก็ตาม หากทำหรือใช้ไม่ถูกวิธี อาจนำไปสู่ผลกระทบที่คาดไม่ถึงได้หลายประการ นางหลิว อายุ 51 ปี อาศัยอยู่ที่มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน และลูกสาวถูกพิษโบทูลินัมจนเกือบเสียชีวิตเพียงเพราะความผิดพลาดในการดองผัก
ตามที่นางหลิวกล่าว ลูกสาวของเธอแต่งงานและย้ายไปอยู่ไกล จึงไม่ค่อยกลับบ้านมาเยี่ยม เมื่อเร็วๆ นี้ ลูกสาวกลับบ้านและบอกว่าอยากกินผักดอง นางหลิวจึงรีบไปตลาดเพื่อซื้อผักมาดอง ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากรับประทานอาหารเย็นที่มีผักดอง นางหลิวเริ่มมีอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน และหนังตาหนัก เธอทานยาช่วยย่อยแต่ก็ไม่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีอาการปวดหัวและหายใจลำบาก จึงตัดสินใจขอให้ลูกสาวพาไปโรงพยาบาล แต่คาดไม่ถึงว่าลูกสาวของเธอเองก็มีอาการคล้ายๆ กัน แถมยังรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ
นางหลิวรีบโทรเรียกรถพยาบาลและขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน จากนั้นเธอและลูกสาวถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่ 12 กวางโจว ทั้งคู่ถูกวินิจฉัยว่าเกิดอาการจากพิษโบทูลินัม และได้รับการรักษาฉุกเฉินอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยชีวิต
ดร.เฉิน หยุนเฉา หัวหน้าแผนกผู้ป่วยวิกฤตของโรงพยาบาล กล่าวว่า สาเหตุของพิษโบทูลินัมที่เกิดขึ้นกับนางหลิวและลูกสาวมาจากผักกาดดองที่พวกเขารับประทาน เนื่องจากเธอต้องการประหยัดเวลาและไม่อยากทิ้งขวดผักกาดดองเก่า นางหลิวจึงใส่ผักกาดเพิ่มเข้าไปในน้ำดอง เธอยอมรับว่าเคยทำเช่นนี้หลายครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อนเพราะเมื่อเธอตรวจสอบพบว่าผักกาดดองเก่ามีคราบและมีกลิ่นเปรี้ยว แต่เธอก็ยังคงใช้ต่อไป โชคดีที่พวกเขาไปถึงโรงพยาบาลทันเวลา และขณะนี้อาการของแม่และลูกสาวเริ่มคงที่แล้ว
อาหารที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดพิษโบทูลินัม ตามคำกล่าวของดร.เฉิน พิษโบทูลินัมเกิดจากแบคทีเรียที่เรียกว่า Clostridium botulinum ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีออกซิเจน และสามารถอยู่ในอาหารหลายชนิด รวมถึงอาหารดองที่ไม่ถูกวิธีด้วย นอกจากนี้เขายังเตือนว่า การใช้น้ำดองผักเก่าเป็นความผิดพลาดที่หลายคนทำ เพราะคิดว่าไม่เป็นอันตรายและช่วยประหยัด แต่ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและพิษโบทูลินัมสูงมาก
นอกจากผักดองแล้ว ยังมีอาหารอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดพิษโบทูลินัมได้ง่าย เช่น
-
อาหารกระป๋องหรืออาหารที่บรรจุสุญญากาศ โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ปลา อาหารทะเล และผลิตภัณฑ์จากนม
-
เนื้อแปรรูป เช่น แฮม ไส้กรอก และฮ็อตดอก
-
อาหารที่ไม่ได้ปรุงสุกหรือทิ้งไว้นานจนเสีย
-
อาหารหมักดอง เช่น กิมจิ นัตโตะ
-
สำหรับเด็ก การบริโภคน้ำผึ้งก็มีความเสี่ยงนี้เช่นกัน
เมื่อพิษโบทูลินัมเข้าสู่ร่างกาย จะส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดอาการหลายอย่าง และอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ อาการของพิษโบทูลินัมที่ต้องระวัง ได้แก่:
-
อ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-
หนังตาตก มองเห็นไม่ชัด
-
กลืนลำบาก เสียงแหบ
-
หายใจลำบาก
-
คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
-
ปวดหัว
พิษโบทูลินัม สามารถถูกทำลายได้ด้วยการให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 100°C ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 นาที ดังนั้นเมื่อรับประทานอาหารหมักดอง อาหารกระป๋อง หรืออาหารแช่แข็ง ควรนำมาอุ่นให้ร้อน ก่อนรับประทาน
นอกจากนี้ ดร.เฉินยังเตือนว่าไม่ควรรับประทานผักดองมากเกินไป เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ เราควรหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในการเตรียมและรับประทานผักดอง เช่น การใช้น้ำดองผักเก่า การไม่รักษาความสะอาดของผักและน้ำ การใช้เกลือมากเกินไป การรับประทานผักดองที่ดองนานเกินไป เป็นต้น