ผ่าพิสูจน์แล้วพะยูนแม่-ลูกฝั่งอันดามันตายผิดธรรมชาติ

ผลผ่าซากพิสูจน์ 2 พะยูนเคราะห์ร้าย ไม่สามารถระบุสาเหตุได้ คาดผลจากเครื่องมือประมง

นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชการประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จ.ภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยผลการผ่าพิสูจน์ซากพะยูนแม่-ลูก เกยป่าชายเลนบ้านเกาะยาวน้อย จ.พังงา วานนี้ (14 ส.ค.) ว่า การตรวจสอบกระเพาะอาหารและลำตัวทั้ง 2 ตัว พบว่าสมบูรณ์ปกติ และมีหญ้าทะเลในกระเพาะอาหาร ทำให้ระบุได้ว่าพะยูนทั้ง 2 ตัวไม่ได้ป่วยตายแน่นอน น่าจะเป็นการตายผิดปกติ โดยพะยูนตัวแม่มีความยาวประมาณ 2.7 เมตร ไม่พบร่องรอยถูกรัดจากเส้นอวน เชื่อว่าไม่ได้โดนเบ็ดราวตามที่สันนิษฐานไว้ แต่ยังระบุไม่ได้ว่าถูกเครื่องมือประมงชนิดใด

ขณะที่พะยูนตัวลูกเป็นเพศเมีย มีความยาวประมาณ 1.1 เมตร อายุประมาณ 2 ปี เบื้องต้นพบว่าในกระเพาะอาหารมีหญ้าทะเลและนมผสมอยู่ สันนิษฐานว่าลูกพะยูนไม่ได้หิวตาย แต่อาจจะตายจากการที่ถูกกระทำหรืออุบัติเหตุ เนื่องจากบริเวณหัวของพะยูนพบมีร่องรอยการถูกกระแทกอย่างแรงทำให้เบ้าตายุบ และอาจตายหลังจากแม่ตายไปแล้วประมาณ 5-6 วัน เนื่องจากสภาพซากยังใหม่อยู่ ทั้งนี้ พะยูนทั้ง 2 ตัว ถือเป็นพะยูนที่ตายในฝั่งทะเลอันดามันตัวที่ 7 และ 8 สาเหตุใหญ่ของการตายยังมาจากเครื่องมือประมง โดยเฉพาะเบ็ดราว อวนลอย และโป๊ะ อันตรายมาก จึงอยากขอความร่วมมือชาวประมงให้ระมัดระวังในการใช้เครื่องมือเป็นพิเศษ