เพื่อนยืม 2 แสน แล้วหายสาบสูญ จู่ๆ โผล่มาวันแต่งงาน คำขอโทษทำเจ้าบ่าวร้องไห้

เพื่อนยืม 2 แสน แล้วหายสาบสูญ จู่ๆ โผล่มาวันแต่งงาน คำขอโทษทำเจ้าบ่าวร้องไห้

เพื่อนยืม 2 แสน แล้วหายสาบสูญ จู่ๆ โผล่มาวันแต่งงาน คำขอโทษทำเจ้าบ่าวร้องไห้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพื่อนยืม 2 แสน แล้วหายสาบสูญ จู่ๆ โผล่มาพร้อมของขวัญวันแต่งงาน เจ้าบ่าวถึงกับร้องไห้หลังฟังคำขอโทษ

เว็บไซต์ Soha ของเวียดนาม รายงานเกี่ยวกับ เรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เล่าความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนสนิท เงิน 2 แสนกว่าบาท เกือบทำลายความเป็นเพื่อนอันยาวนาน แต่สุดท้ายก็พบว่ามิตรภาพของทั้งคู่นั้นยิ่งใหญ่กว่าเงิน

โดยเขาเล่าว่า เขากับหุ่ง (นามสมมติ) เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย พวกเขาเรียนห้องเดียวกันและอยู่หอพักเดียวกัน จึงสนิทสนมกันมาก ทั้งกินข้าวด้วยกัน ไปเรียนด้วยกัน และแบ่งปันทุกอย่างต่อกัน

หลังจากเรียนจบ พวกเขาก็ต่างแยกย้ายกันทำงานคนละบริษัท แต่ก็ยังต้องเจอกันหลายครั้งต่อเดือน บางครั้งที่ร้านอาหาร บางครั้งที่ร้านกาแฟ มีเรื่องราวมากมายให้คุยกัน

งานของเขามั่นคงและเงินเดือนสูงกว่าหุ่ง ดังนั้นเมื่อหุ่งขอยืมเงิน เขาจึงพยายามช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้ วันหนึ่งที่พวกเขาได้เจอกัน เขาเห็นว่าหุ่งดูไม่สบายใจ จึงถามด้วยความสงสัย และหุ่งก็ยอมรับว่า

"ครอบครัวแฟนให้เงิน 1.5 พันล้าน (เกือบ 2 ล้านบาท) สำหรับซื้อบ้าน แล้วถามว่าฝั่งเจ้าบ่าวจะให้เท่าไหร่ พ่อแม่ของฉันเป็นเกษตรกร ทำงานหนักเลี้ยงลูกสี่คนเพื่อให้ได้เรียนหนังสือ คงไม่มีเงินพิเศษให้ฉันซื้อบ้าน ฉันกลัวว่าถ้าไม่มีก็จะโดนดูถูกจากครอบครัวแฟน จึงต้องสัญญากับแฟนว่าจะช่วยครอบครัว 500 ล้าน (ราว 6.6 แสนบาท) แต่ตอนนี้ฉันมีแค่ 300 ล้าน (ราว 4 ล้านบาท) ฉันยืมจากพี่น้องและเพื่อนร่วมงานแล้วแต่ไม่มีใครช่วย ตอนนี้ฉันปวดหัวไม่รู้จะหาเงินที่เหลือจากไหน"

เมื่อเห็นเพื่อนสนิทลำบาก เขาเองก็พอมีเงินบ้างและไม่อาจปล่อยให้หุ่งต้องลำบากในเวลานี้ ปกติเขาส่งเงินทั้งหมดที่หามาได้ให้แม่ แต่ไม่อยากให้แม่เป็นห่วง จึงโกหกไปว่าจะเอาเงินไปลงทุนหุ้นบริษัท เพราะพนักงานที่ไม่ลงทุนจะโดนไล่ออก เมื่อแม่ได้ยินก็รีบเอาทองไปขาย เพราะแม่ใช้เงินที่เขาส่งมาไปซื้อทอง 

วันต่อมา เขารีบไปพบหุ่งเพื่อให้เงิน 200 ล้านดอง (ราว 2.6 แสนบาท) เขาเชื่อใจเพื่อนจึงไม่ได้เขียนเอกสารยืมเงินใดๆ หุ่งดีใจมากเมื่อได้รับเงินและสัญญาว่าจะคืนเงินภายใน 1 ปี

แต่หลังจากที่หุ่งยืมเงินไปแล้วก็หายตัวไป เขาถามเพื่อนๆ และพบว่าหุ่งเลิกกับแฟนเพราะมีหนี้สินและไม่สามารถชำระคืนได้จนล้มละลาย เขากลัวมาก พยายามโทรหาและวิ่งตามหาเพื่อนทุกที่ แต่หุ่งปิดเครื่องโทรศัพท์ เขากลับไปที่บ้านเกิดเพื่อหาเพื่อนแต่ก็ไม่พบ ตอนแรกเขายังมีความหวังว่าจะได้เงินคืน แต่ต่อมาก็เริ่มกังวลว่าเพื่อนอาจจะหายตัวไปหรือถูกทำร้าย หลายเดือนที่เขากินไม่ได้นอนไม่หลับเพราะเป็นห่วงหุ่ง เขาถึงกับคิดว่าจะไม่ได้เจอหุ่งอีกในชีวิตนี้

แต่ไม่คาดคิดเลยว่าในวันแต่งงานของเขา หุ่งกลับมาร่วมงานทั้งๆ ที่ไม่ได้รับเชิญ เมื่อเขาเห็นหุ่ง เขาดีใจมาก รีบวิ่งเข้าไปกอดเพื่อนเหมือนเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันนาน หุ่งกระซิบขอโทษที่ข้างหู แต่เขาปัดคำขอโทษนั้นทิ้งไปและบอกว่า "วันนี้เป็นวันแห่งความสุขของฉัน อย่าพูดถึงเรื่องในอดีตอีกเลย"

หลังจากนั้น พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตลอดทั้งวัน จนงานเลี้ยงจบลงและแขกเริ่มทยอยกลับ หุ่งดึงเขาไปข้างๆ และบอกว่า "ตอนนั้นเพราะความลำบาก ฉันจึงโกหกเพื่อยืมเงินแก แต่พอหนี้มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ฉันก็ไม่สามารถจ่ายคืนได้ จึงต้องหนีไป ทุกคืนฉันคิดถึงแต่เงินที่ติดแกอยู่จนไม่สามารถนอนหลับได้ ฉันสำนึกผิดจึงมุ่งทำงานหาเงินเพื่อใช้หนี้ แล้ววันก่อน เพื่อนร่วมชั้นบอกว่าแกกำลังจะแต่งงาน ฉันดีใจมากและอยากเจอแกอีกครั้ง" หลังจากพูดจบ หุ่งยื่นบัตรธนาคารใบหนึ่งให้เขาพร้อมบอกรหัสผ่านซึ่งเป็นวันเกิดของหุ่ง

หุ่งบอกว่านี่คือเงิน 200 ล้านที่เขาเก็บมาด้วยความยากลำบาก หวังว่าเขาจะยอมรับและเข้าใจ เมื่อได้ยินดังนั้น เขาถึงกับร้องไห้ออกมา ไม่ใช่เพราะเขาได้เงินคืน แต่เพราะมิตรภาพที่คิดว่าสูญเสียไปแล้วกลับหาเจออีกครั้ง แม้ว่าหุ่งจะหายไปจากชีวิตเขาก่อนหน้านี้ แต่มิตรภาพของพวกเขาก็ไม่เคยสูญหาย มันยังคงอยู่ในใจเขาเสมอ รอวันที่จะได้กลับมาสานสัมพันธ์กันใหม่อีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook