สาววัย 25 โดนแซวอ้วน งดมื้อเย็น-กินมังสวิรัติ ผ่านไปครึ่งปี อึ้งผลตรวจสุขภาพ
สาววัย 25 ปี โดนเพื่อนแซวว่าอ้วน พยายามลดน้ำหนักนานครึ่งปี ด้วยการงดมื้อเย็น-กินมังสวิรัติเกือบทุกมื้อ สุดท้ายต้องอึ้งกับผลตรวจสุขภาพ
คุณชู วัย 25 ปี จากประเทศจีน ให้ความสำคัญอย่างมากกับการดูแลรูปร่าง เมื่อ 6 เดือนก่อน เพื่อนของเธอแซวเล่นว่า "หน้ากลมจัง" ด้วยความคิดที่จะลดน้ำหนัก เธอจึงเลือกทานอาหารให้น้อยลง โดยเฉพาะงดเนื้อสัตว์ และงดมื้อเย็นตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เกือบทุกมื้อของเธอเป็นอาหารมังสวิรัติ
คุณชูมุ่งมั่นที่จะลดน้ำหนักอยู่ครึ่งปี แม้จะน้ำหนักลดลงมาก แต่ครอบครัวกลับบอกว่าเธอดูไม่สดใสเหมือนก่อน วันที่ 29 กันยายน คุณชู ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ผลตรวจที่คาดไม่ถึงคือเธอพบว่าตนเองเป็นโรคไขมันพอกตับ
เมื่อทราบผลตรวจสุขภาพ คุณชู ได้แต่รู้สึกสับสน เธอกล่าวว่า “ฉันกำลังควบคุมอาหารและกินมังสวิรัติทุกวัน ทำไมฉันถึงเป็นโรคไขมันพอกตับได้ ทั้งที่ดูผอมขนาดนี้?”
แพทย์อธิบายว่า การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วเกินไปเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคไขมันพอกตับ เมื่อคุณลดน้ำหนักเร็วเกินไป ไขมันที่ถูกสลายจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายจะถูกสะสมไว้ในตับ รอให้ตับทำการเผาผลาญ
นอกจากนี้ การไม่ทานเนื้อสัตว์และกินมังสวิรัติโดยสมบูรณ์ทำให้ร่างกายขาดโปรตีน ตับไม่สามารถสังเคราะห์โปรตีนที่ช่วยขนส่งไขมันได้เพียงพอ ส่งผลให้การจัดการไขมันของตับบกพร่อง ไขมันจึงเข้าไปสะสมในตับมากขึ้น จนเกิดหรือทำให้ภาวะไขมันพอกตับรุนแรงขึ้น
แพทย์ยังเตือนด้วยว่า คาร์โบไฮเดรต , โปรตีน และไขมัน เป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายขาดไม่ได้ ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคไขมันพอกตับ คิดว่าเฉพาะคนอ้วนเท่านั้นที่เป็นได้ แต่จริง ๆ แล้วโรคนี้เป็นโรคเรื้อรังที่หากไม่ได้รับการควบคุม อาจพัฒนาไปเป็นโรคตับแข็งหรือมะเร็งตับได้ ดังนั้นแม้แต่ไขมันพอกตับในระดับเล็กน้อยก็ควรได้รับความใส่ใจ
พร้อมย้ำว่า การลดน้ำหนักอย่างถูกต้องและเป็นวิทยาศาสตร์ควรมุ่งเน้นไปที่การปรับโครงสร้างการรับประทานอาหาร โดยให้ความสำคัญกับการได้รับโปรตีนเพียงพอ เพิ่มการรับประทานผักใบเขียว ลดอาหารที่มีน้ำมันมาก แป้ง (ลดแต่ไม่ควรตัดออกทั้งหมด) และน้ำหวาน ควรผสมผสานการออกกำลังกายที่เหมาะสม โดยรวมเวลาการออกกำลังกายประมาณ 2.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากมีอาการไม่สบายเกิดขึ้นระหว่างการลดน้ำหนัก ควรไปพบแพทย์ทันที