หมอยังเศร้า เด็กคลอดมา 4.7 กก. เสี่ยงสมองเสียหาย เพราะ "อาหาร" ที่แม่กิน เตือนแล้วไม่ฟัง!

หมอยังเศร้า เด็กคลอดมา 4.7 กก. เสี่ยงสมองเสียหาย เพราะ "อาหาร" ที่แม่กิน เตือนแล้วไม่ฟัง!

หมอยังเศร้า เด็กคลอดมา 4.7 กก. เสี่ยงสมองเสียหาย เพราะ "อาหาร" ที่แม่กิน เตือนแล้วไม่ฟัง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หมอเตือนแล้วไม่ฟัง สาวคลอดลูกออกมา 4.7 กก.  แถมเสี่ยงสมองเสียหาย รู้ต้นเหตุยิ่งเศร้า "อาหาร" ที่แม่กินไม่ยอมหยุด

การตั้งครรภ์เป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตของคุณแม่ทุกคน ต้องการความรักและความเอาใจใส่มากขึ้น เนื่องจากสุขภาพของตนเองมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพัฒนาการของทารกในครรภ์ ในช่วงเวลานี้การรับประทานอาหารเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง สตรีมีครรภ์จำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพของตนเองและการเจริญเติบโตตามปกติของทารกในครรภ์

อย่างไรก็ตาม หลายคนมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรับประทานอาหารในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเชื่อว่าการรับประทานอาหารที่ดีและรับประทานอาหารมากขึ้นก็เพียงพอแล้ว แต่กลับเพิกเฉยต่อความสมดุลของโภชนาการ ส่งผลให้ได้รับสารอาหารที่มากเกินไปหรือไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของมารดาและทารก ดังเช่นกรณีน่าเศร้าที่เกิดขึ้นในประเทศจีน

ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว Sohu จากประเทศจีน หญิงสาวอายุ 21 ปี หลังจากตั้งครรภ์ก็ได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านแม่สามีในชนบท เพราะตารางงานที่ยุ่งของสามีจึงห่วงว่าจะไม่ได้ดูแลภรรยาดีพอ ในขณะที่ผู้เป็นแม่สามีนั้นมีบุคลิกเรียบง่าย บวกกับอากาศในชนบทสดชื่น และสภาพแวดล้อมสวยงาม ลูกสะใภ้จึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เธอก็เริ่มเบื่ออาหารที่แม่สามีปรุง แต่ยังคงชอบกินข้าวที่ปลูกเองมาก เนื่องจากแทบไม่ใช้ยาฆ่าแมลง มีรสหวานและมีกลิ่นหอม เธอจึงสามารถรับประทานข้าวได้ 2 ชามใหญ่ทุกมื้อ โดยไม่ต้องการเครื่องเคียงด้วยซ้ำ

แต่พฤติกรรมการกินเช่นนี้เอง ที่ทำให้น้ำตาลในเลือดของเธอค่อยๆ เพิ่มขึ้น หลังจากทานข้าวขาวเป็นอาหารหลักมาเป็นเวลานาน แพทย์เตือนให้เธอเพิ่มการบริโภคธัญพืชอย่างเหมาะสม แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์ ยังคงยืนกรานที่จะกินข้าวขาว เพราะรู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่รู้สึกสบายใจในการรับประทานอาหาร

เมื่อใกล้ถึงวันครบกำหนดคลอดบุตร ทารกในครรภ์ก็โตเร็วเกินกว่าที่คาดไว้มาก ในที่สุดก็ต้องเลือกวิธีการผ่าคลอด เมื่อเด็กเกิดมาเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ต่างประหลาดใจที่น้ำหนักของทารกสูงถึง 10.5 ปอนด์ หรือประมาณ์ 4.76 กิโลกรัม ซึ่งหาได้ยากมาก

อีกทั้งจากการตรวจสอบเพิ่มเติมยังพบว่า สมองของทารกอาจได้รับความเสียหาย และมีความเสี่ยงต่อความบกพร่องทางสติปัญญา สาเหตุก็คือน้ำตาลในเลือดของผู้เป็นแม่ในระหว่างตั้งครรภ์สูงเกินไป ทำให้ทารกในครรภ์ขาดออกซิเจนเป็นเวลานาน ซึ่งส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อพัฒนาการทางสมอง

หลังจากฟังคำอธิบายของแพทย์แล้ว ผู้เป็นแม่ก็เต็มไปด้วยความเสียใจ และตระหนักว่าเธอได้ทำร้ายลูกเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง...

ดังนั้น เตือนสตรีมีครรภ์ทุกคนผ่านเรื่องราวนี้ เมื่อชีวิตยุคสมัยใหม่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว อาหารของหลายๆ คนก็เริ่มไม่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น อาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันสูงหลากหลายชนิด ก็เข้ามาเติมเต็มชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งสำหรับสตรีมีครรภ์ เป็นเรื่องปกติที่ระดับน้ำตาลในเลือดจะผันผวนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย นอกเหนือจากการตรวจน้ำตาลในเลือดเป็นประจำ และการใช้ยาอย่างสมเหตุผลแล้ว การควบคุมอาหารในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ หมอยังเศร้า เด็กคลอดมา 4.7 กก. เสี่ยงสมองเสียหาย เพราะ "อาหาร" ที่แม่กิน เตือนแล้วไม่ฟัง!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook