หมอเปิดเคสอุทาหรณ์ หนุ่มวัย 33 คิดว่าแค่ปวดหลัง สุดท้ายหัวใจวายเสียชีวิต

หมอเปิดเคสอุทาหรณ์ หนุ่มวัย 33 คิดว่าแค่ปวดหลัง สุดท้ายหัวใจวายเสียชีวิต

หมอเปิดเคสอุทาหรณ์ หนุ่มวัย 33 คิดว่าแค่ปวดหลัง สุดท้ายหัวใจวายเสียชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มวัย 33 คิดว่าตัวเองแค่ปวดหลัง สุดท้ายหัวใจวายเสียชีวิต หมอชี้อย่าเพิกเฉยสัญญาณเตือน ถ้าไม่อยากก้าวขาเข้าสู่ประตูแห่งความตาย

เว็บไซต์ SOHA รายงานเรื่องราวของ นายหลี่ พนักงานธุรการ วัย 33 ปี จากประเทศจีน เขามีอาการปวดหลังอย่างรุนแรงในช่วงกลางดึก ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเพียงอาการเจ็บชั่วคราวจากการทำงานหนัก แต่ความเจ็บปวดค่อย ๆ ทวีความรุนแรงจนทนไม่ไหว สุดท้ายเขาจึงต้องไปโรงพยาบาลเพื่อขอรับยา

หลังจากตรวจดูอาการของนายหลี่ แพทย์สงสัยว่านี่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด แต่นายหลี่ปฏิเสธการรักษาและไม่ต้องการตรวจเพิ่ม เมื่อแพทย์พบเขาอีกครั้งในวันถัดมา นายหลี่ก็ได้สิ้นลมหายใจไปแล้ว เขาเกิดอาการหัวใจวายและเสียชีวิตก่อนจะถูกนำส่งโรงพยาบาล

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการส่งสัญญาณเตือนให้เราไปพบแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อรับการรักษาแต่เนิ่น ๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นการเตือนให้เราหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะอาการปวดหลัง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยในหลาย ๆ คน แต่ส่วนใหญ่มักถูกละเลย

อาการปวดหลังสามารถเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การนอนในท่าที่ไม่ถูกต้องเป็นเวลานาน หรืออาจเกิดจากการออกแรงมากเกินไปในวันก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หากอาการปวดหลังเรื้อรังหรือตรวจหาสาเหตุที่ชัดเจนไม่ได้ คุณควรพิจารณาถึงปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอาการนี้

1. กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

กลุ่มอายุที่เสี่ยงต่อโรคนี้กำลังขยายตัว อาการที่ชัดเจนที่สุดคือเจ็บหน้าอก แต่บางครั้งอาการเช่น ปวดหลัง หายใจลำบาก และเหงื่อออกมากเกินไปก็อาจเป็นสัญญาณเตือนของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ดังนั้นเมื่อมีอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อให้การรักษาเริ่มต้นเร็วที่สุดและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อน

2. โรคหลอดเลือดสมอง

เช่นเดียวกับกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมองเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน และสามารถทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อระบบประสาทของเรา แต่บางครั้งอาการที่เกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมองมักถูกมองข้าม เช่น เวียนหัว มองไม่ชัด หูอื้อ หรือปวดหลัง ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมดา และควรไปพบแพทย์เพื่อให้การตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม

3. มะเร็ง

อาการปวดหลังที่อาจไม่ได้ร้ายแรงแต่ถ้ามีอาการอื่นร่วมด้วย ควรระมัดระวัง โดยอาการปวดหลังจากมะเร็งมักจะมีลักษณะเจ็บที่ตำแหน่งเดียวอย่างต่อเนื่อง และอาการจะไม่บรรเทาลง แต่จะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับอาการอื่น ๆ เช่น ปวดเมื่อย หรืออ่อนเพลียที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

4. การกดทับไขสันหลัง

หากคุณมีอาการปวดหลังร่วมกับอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือปัสสาวะลำบาก นั่นอาจเป็นสัญญาณของการกดทับไขสันหลัง ไขสันหลังเป็นส่วนสำคัญของระบบประสาท หากถูกกดทับอาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะลำบากหรือปัสสาวะไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นเมื่อพบอาการนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษาโดยเร็ว

5. โรคอื่น ๆ

หากมีอาการปวดหลังบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในตอนกลางคืน อาจเป็นอาการของโรคกระดูกพรุน ซึ่งเกิดจากการลดลงของมวลกระดูกและทำให้กระดูกเปราะง่ายขึ้น ดังนั้นอย่ามองข้ามอาการปวดหลังในตอนกลางคืน ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเร็วที่สุด

นอกจากนี้ หากอาการปวดหลังมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ อาเจียน หรือคลื่นไส้ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่กระดูกสันหลัง ซึ่งต้องได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์ทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook