ศาลอุทธรณ์ให้ส่งตัว วิคเตอร์ บูท ให้สหรัฐ ภายใน 90 วัน
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ส่งตัวพ่อค้าอาวุธสงครามระดับโลก เป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปให้ประเทศสหรัฐอเมริกาดำเนินคดี ภายใน 90 วัน
เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เบิกตัว นายวิคเตอร์ บูท ชาวรัสเซีย ซึ่งถูกขังไว้ระหว่างอุทธรณ์ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มายังศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอส่งตัวผู้ต้องหาค้าอาวุธสงครามระดับโลกรายนี้ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุจำเลยมีพฤติกรรมขายอาวุธสงครามให้กับขบวนการฟาร์ก เพื่อนำไปใช้ต่อสู้กับรัฐบาลโคลอมเบีย และโจมตีพลเมืองและทรัพย์สินของสหรัฐ ซึ่งทางการสหรัฐได้ยื่นฟ้อง นายวิคเตอร์ บูท ต่อศาลในนครนิวยอร์กแล้ว
สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีทางการเมือง ซึ่งต้องห้ามตาม พ.ร.บ. ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2472 และสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างรัฐบาลไทยกับสหรัฐ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐได้ส่งหนังสือไปถึง นายดอน ปรมัตถ์วินัย เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา โดยเน้นถึงความสำคัญในการได้ตัว นายวิคเตอร์ บูท กลับมาดำเนินคดี เพราะเขาอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์มากมายในแอฟริกาและที่ อื่นๆ และอาจออกไปค้าอาวุธร้ายแรงอีก ด้านกลุ่มสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐได้แจ้งให้เอกอัคราชทูตไทยทราบว่า หากมีการปฏิเสธคำขอของสหรัฐ อาจจะกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศได้
ทั้งนี้ หลังพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว ศาลเห็นว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีทางอาญา และประเทศสหรัฐเป็นผู้ขอส่งตัวจำเลยไปดำเนินคดี มิใช่ประเทศโคลอมเบีย ซึ่งมีความขัดแย้งทางการเมืองกับกลุ่มฟาร์ก อีกทั้ง นายบูท ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกของขบวนการดังกล่าว จึงถือว่าคดีไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง จึงให้ส่งตัว นายบูท ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ภายในระยะเวลา 90 วัน
สำหรับ นายบูท เป็นอดีตนักบินกองทัพอากาศโซเวียต วัย 43 ปี พูดได้ 6 ภาษา และมีชื่อเรียกถึง 8 ฉายา หนึ่งในนั้นคือฉายา "พ่อค้าความตาย" ถูกตำรวจกองปราบปรามของไทย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษงานต่อต้านการก่อการร้ายสหรัฐอเมริกา จับกุมได้ขณะเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนมีนาคม 2551 .