มะเร็งลำคอ คร่าชีวิตชายวัย 74 เพราะเพิกเฉย 1 สัญญาณเตือน เมื่อ 9 เดือนก่อน

ชายวัย 74 ปี เพิกเฉย 1 อาการที่พบบ่อย ผ่านไป 9 เดือน เพิ่งรู้เป็นมะเร็งลำคอระยะที่ 4 สุดท้ายเสียชีวิตสลด 

"อย่าคิดว่าการเสียงแหบ เป็นแค่ผลจากการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป! สตีเฟน สตริงเจอร์ ชายชาวอังกฤษ วัย 74 ปี พบว่าเสียงของเขาเริ่มแหบแห้ง แต่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งไปพบแพทย์และพบว่าป่วยเป็นมะเร็งลำคอ ซึ่งขณะนั้นได้ลุกลามถึงระยะที่ 4 แล้ว 

ตามรายงานของ Daily Mail สตีเฟน สตริงเจอร์ ชายชาวอังกฤษ วัย 74 ปี เริ่มมีอาการเสียงแหบตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว แต่เขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก จนกระทั่งเดือนตุลาคม หลังจากอาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง เขาจึงไปพบแพทย์ และพบว่าป่วยเป็นมะเร็งลำคอ ซึ่งขณะนั้นได้ลุกลามถึงระยะที่ 4 แล้ว ซึ่งในเวลานั้นเขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำคอระยะที่ 4 ซึ่งทำให้เขาเสียชีวิตในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

ด้าน อลิสัน มุตช์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการชันสูตรพลิกศพจากเมืองแมนเชสเตอร์ ได้เตือนว่า หากใครมี "อาการเสียงแหบ" ควรรีบพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งได้ มุตช์ ยังได้เขียนจดหมายถึงกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษเพื่อเน้นย้ำว่าผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายคนไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของอาการนี้ในเวลาที่เหมาะสม

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเสียงแหบ มุตช์ เน้นว่า การที่แพทย์หู คอ จมูก ถามว่า "อาการนี้เป็นมานานแค่ไหน" นั้นสำคัญมาก หากไม่มีสาเหตุชัดเจน เช่น การติดเชื้อในลำคอ หรือรักษาแล้วไม่ดีขึ้น อาการเสียงแหบควรถือเป็นสัญญาณเตือนของมะเร็งลำคอ และควรส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาอย่างเร่งด่วนภายใน 2 สัปดาห์

มุตช์ เตือนว่า ประชาชนยังมีความเข้าใจค่อนข้างจำกัด เกี่ยวกับความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงของเสียง และรับรู้ถึงสัญญาณของมะเร็ง ดังนั้นการเพิ่มความรู้เกี่ยวกับอาการของมะเร็งลำคอจะช่วยให้ผู้คนขอความช่วยเหลือได้ตั้งแต่ระยะแรก ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาอย่างมาก เนื่องจากผู้ป่วยจะมีทางเลือกในการรักษาที่มากขึ้น

ด้าน นพ.เจิ้ง หย่งเหริน จากโรงพยาบาลเฉิงต้า เคยกล่าวไว้ว่า อาการเริ่มแรกที่พบบ่อยของมะเร็งลำคอคือ เสียงแหบ ความรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในลำคอ อาการเจ็บ และบางครั้งอาจหายใจหรือกลืนลำบาก หากได้รับการตรวจรักษาอย่างทันท่วงที จะสามารถพบและวินิจฉัยได้ในระยะแรก

โดยเกือบ 60% ของผู้ป่วยมะเร็งลำคอได้รับการวินิจฉัยในระยะที่ 1 หรือ 2 แม้ว่าจะตรวจพบในระยะที่ 3 หรือ 4 โอกาสการแพร่กระจายยังคงไม่สูง ดังนั้นหากรับการรักษาอย่างเต็มที่ โอกาสหายขาดก็ยังคงมีอยู่สูง