พระวัดดังขอนแก่น เฉลยสัมพันธ์ "บอสพอล" รู้จักตั้งแต่ยังไม่รวย ไม่เคยถามทำธุรกิจอะไร
พระมหาอุดร แจงรับเงินจาก "บอสพอล" โอนเข้าบัญชีส่วนตัว เฉลยความสัมพันธ์ รู้จักตั้งแต่ยังไม่รวย เคยเตือนแล้วเรื่องทำบุญ
20 ต.ค. 67 เพจเฟซบุ๊กชื่อ “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” โพสต์ภาพสลิปการโอนเงินผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารที่มีชื่อผู้โอนระบุว่าเป็น บอสพอล และเป็นเงินทำบุญโดยโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของพระสงฆ์ พร้อมข้อความระบุว่า “บอสพอลโอนเงินทำบุญเข้าบัญชีส่วนตัวของให้พระมหาอุดร บุญชูหล้า แบบฉ่ำมากโดยส่วนใหญ่จะโอนทีละ 200,000-600,000 บาท บางเดือนโอนไป 2-3 รอบ (สลิปแค่ส่วนหนึ่ง) ในระยะเวลาไม่กี่ปี บิ๊กบอสพอลโอนเงินบริจาครวมๆ กว่า 12 ล้าน ผ่านพระรูปหนึ่ง โดยอ้างว่าทำบุญวัดสว่างน้ำใส แต่ไม่รู้ทำไม ทั้งๆ ที่วัดก็มีบัญชีวัดอยู่แล้ว แต่มักโอนเข้าผ่านพระรูปนี้ตลอดเลย แว่วๆ มาว่า พอลค่อนข้างสนิทมากซะด้วย มักจะทำแต่ที่นี่ประจำ ลองตรวจสอบดูอาจเจออะไรดีๆ บอสปัน ก็เอากะเขาด้วยนะ..”
พระมหาอุดร บุญชูหล้า อายุ 65 ปี เล่าว่า ตนได้รู้จักบอสพอลครั้งแรกเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ขณะนั้นจำพรรษาอยู่ที่วัดใน กทม. บอสพอลได้มาทำบุญที่วัดเรื่อยๆ เป็นเหมือนญาติโยม ลูกศิษย์ทั่วไป ประเด็นที่บอสพอลโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวไม่โอนเข้าบัญชีวัดเพราะว่า จะได้นำไปทำบุญต่อได้สะดวกกว่าการใช้บัญชีวัด และไม่ได้มีเฉพาะบอสพอลที่โอนเข้าบัญชีส่วนตัว แต่ญาติโยมคนอื่นๆ ที่ร่วมทำบุญก็โอนเข้าบัญชีส่วนตัวเช่นกัน แต่ไม่ได้นำไปใช้ส่วนตัว จะนำไปทำนุบำรุงที่วัดสว่างน้ำใส ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิด ทั้งเรื่องค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าภัตตาหารสำหรับญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมโดยเฉพาะช่วงที่มีงานบุญต่างๆ และยังนำมาสร้างสิ่งต่างๆ ให้เกิดขึ้นในวัดด้วย ทั้งบ่อบาดาล 3 บ่อ บ่อละ 200,000 บาท ที่ต้องขุดเจาะลงไปลึก 150 เมตร เดินสายไฟ หอกระจายข่าว ถังประปา กุฎิที่อาตมาอยู่ แต่ทุกอย่างไม่ใช่เฉพาะบอสพอลแต่เป็นเงินทำบุญของญาติโยมคนอื่นๆ ด้วย
กรณีที่บอกว่าโอนเงินมาให้ปีละเป็นล้านนั้น ยืนยันว่าไม่ถึง มีเพียงช่วงหลังโควิดเมื่อปี 64 ที่ทำบุญเข้ามาประมาณครั้งละ 200,000 บ้าง 400,000 บ้าง 600,000 บ้าง ก็จะนำไปใช้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม และทุกๆ อย่างในวัด แต่จะต้องดูแลเงินเองเพื่อการประหยัดงบประมาณ กับกรณีที่เกิดขึ้นนั้นที่พยายามโยงมาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ส่วนตัวจะไม่ทราบว่าบอสพอลทำอะไรเพราะไม่เคยบอก หรือทำธุรกิจอะไรก็ไม่ทราบ เห็นมีตอนที่รับกิจนิมนต์ไปที่บ้านบอสพอลก็จะเห็นตอนถวายเท่านั้น พระจะไม่ยุ่งกับธุรกิจหรือครอบครัวของชาวบ้าน เพราะไม่ใช่กิจของสงฆ์ และไม่ถามญาติโยมว่าปัจจัยที่นำมาถวายนั้นบริสุทธิ์ไหม ถูกต้องไหม พระจะถามไม่ได้เด็ดขาดเพราะเป็นเรื่องมารยาทและคุณธรรม
ย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อนที่รู้จักกันตอนนั้นบอสพอลยังถือว่าไม่ได้รวย ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือยังจนอยู่ เป็นลูกศิษย์ที่นานๆ จะมาเจอกัน ไม่ได้เจอกันบ่อย ครั้งล่าสุดก็เจอกันปีที่แล้ว ที่มาทอดกฐินที่วัดสว่างน้ำใสแห่งนี้ ซึ่งเป็นปีเดียวที่บอสพอลมาพร้อมกับคณะหลายคน แต่ปีนี้ทีแรกบอกว่าจะมา แต่เมื่อ 2-3 เดือนก่อนบอกว่าไม่สามารถมาได้แล้ว จึงบอกบุญกับชาวบ้านญาติโยมได้ร่วมกัน ครั้งที่บอสพอลมาทอดกฐินนั้นได้เงินทำบุญ 1.3 ล้านบาท
กรณีที่เกิดขึ้นที่เป็นกระแสมาถึงอาตมามองว่า ส่วนหนึ่งบอสพอลจะชอบให้คนอนุโมทนากับการที่ตัวเองได้ร่วมทำบุญ อาจจะมีการโพสต์สลิปเงินทำบุญที่โอนมาบัญชีส่วนตัวของอาตมา ซึ่งเรื่องนี้ก็เคยบอกบอสพอลไปอยู่ว่า คนรักมีน้อย คนเกลียดมีมาก อย่าทำเลย กระทั่งเรื่องมาถึงตนเองในวันนี้ ทางพระผู้ใหญ่ท่านเจ้าอาวาสก็ถามมาว่าจะทำยังไง ซึ่งอาตมาก็คิดเพียงว่าแล้วแต่บุญแต่กรรมที่ทำมา แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับบอสพอลในทางคดีแต่อย่างใด