เปิดข้อความสุดท้าย เจ้าอาวาสผูกคอมรณภาพ โยมหลอกจะเป็นเจ้าภาพกฐิน เชิดเงินหนี

เปิดข้อความสุดท้าย เจ้าอาวาสผูกคอมรณภาพ โยมหลอกจะเป็นเจ้าภาพกฐิน เชิดเงินหนี

เปิดข้อความสุดท้าย เจ้าอาวาสผูกคอมรณภาพ โยมหลอกจะเป็นเจ้าภาพกฐิน เชิดเงินหนี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดข้อความสุดท้าย เจ้าอาวาสผูกคอมรณภาพ โยมหลอกจะเป็นเจ้าภาพกฐิน ยืมเงินไป 6.5 แสน

เมื่อเวลา 08.30 นวันที่ 20 ตุลาคม พ.ต.ต ประชิด เสมาฤกษ์ สว.(สอบสวน) สภ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งเหตุมี เจ้าอาวาสแห่งหนึ่งใน ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ผูกคอมรณภาพอยู่ภายในกุฎิ  ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์โรงพยาบาลเสนา เจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ ไปให้การสนับสนุน

ที่ศาลาปฏิบัติธรรม ภายในห้องทำงาน พบพระครูวรวัฒน์เขมากร อายุ 68 ปี เจ้าอาวาส  ใช้ผ้ารัดประคดคาดเอว  ผูกคอตัวเองติดกับลูกกรงเหล็กภายในห้อง ลักษณะท่ายืน ตรวจสอบภายในห้องไม่พบร่องรอยการรื้อค้น ต่อสู้  

จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามรณภาพมาแล้วประมาณ 8-10 ชั่วโมง ตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือการถูกทำร้าย ภายในห้องพบเอกสารต่างๆ และจด กระดาษ ที่เขียน A4 พับครึ่ง  เขียนข้อความด้วยลายมือ ของเจ้าอาวาส ระบุว่า

เล็ก โจรในเครื่องนักบุญ จองกฐินแล้วโกงเงิน เจ้าอาวาส 650,000 บาท โดยบอกให้อาตมากู้ยืมเงินคนอื่น แล้วบอกไปให้ในวันที่เก็บเงินขายหวย เพราะเอาไปลงทุนขายลอตเตอรี่ อาตมาหลงเชื่อ จึงไปกู้ยืมเงินโยมมาให้ 9 ราย แต่เมื่อถึงเวลา นายเล็ก ผลัดเรื่อยมา ตั้งแต่กันยายนและครั้งสุดท้าย ตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 15 ตุลาคมก็ไม่นำมาให้จนอาตมาสุดเหลือทน จนต้องทำสิ่งที่ไม่คาดคิด 

จากการสอบถาม  นายเสน่ห์ อายุ 48 ปี ลูกศิษย์ของเจ้าอาวาสที่มาพบศพ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าตนเห็นรองเท้าหลวงพ่อถอดวางอยู่บริเวณทางขึ้นศาลา จึงเอะใจว่าทำไม เจ้าอาวาส ตื่นแต่เช้ามาที่ศาลา จึงเดินขึ้นไปดู พบเห็นหลวงพ่อใช้รัดประคดผูกคออยู่กับลูกกรง ตกใจมาก จึงรีบไปแจ้งกับพระลูกวัด และชาวบ้านมาช่วยกันดู     

ส่วนศาลาที่เกิดเหตุเดิมเป็นกุฎิของเจ้าอาวาส  ต่อมาท่านเจ้าอาวาสได้ดัดแปลงให้เป็นศาลาปฎิบัติธรรม 

นางสุชาดา อายุ 69 ปี  พี่สะใภ้ของเจ้าอาวาส เปิด เผยว่าหลวงพ่อบวชอยู่ที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2538 จนถึงปัจจุบัน  30 กว่าปี ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่ามี ชายเข้ามาตีสนิทกับหลวงพ่อและบอกว่าจะขอเป็นเจ้าภาพกฐินในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 และมาหาหลวงพ่อเกือบทุกวัน จนมามาหลอกยืมเงินหลวงพ่อไปเป็นจำนวนเงิน 650,000 บาท หลังจากนั้นติดต่อชายคนดังกล่าวไม่ได้อีกเลยจึงทำให้หลวงพ่อเกิดจากความเครียด จึงคิดสั้น

 นายสมควร  อายุ 69 ปี   ช่างปั้นที่มาทำงานอยู่ที่วัด  บอกว่าตนเองเป็นช่างปั้นพระพุทธรูปให้กับวัดแห่งนี้และรู้จักหลวงพ่อมากว่า 20 ปีแล้ว หลวงพ่อ ได้พัฒนา ปรับปรุงวัดให้สวยงาม ญาติโยมให้ความเคารพนับถือ โดยก่อนหน้าประมาณเดือนที่แล้วตนเห็นชายวัยกลางคนขับรถยนต์แต่งตัวดี เข้ามาหาหลวงพ่อตีสนิทกับหลวงพ่อว่าจะมาขอเป็นเจ้าภาพกฐินให้กับทางวัดตอนนั้นตนเองก็ดูพฤติกรรมชายคนดังกล่าวว่าดูแปลกๆ ทำไมมาวัดแทบทุกวัน และยังมาขอนาฬิกาโบราณของหลวงพ่อว่าจะเอาไปซ่อมให้  ตนเคยเตือนหลวงพ่อ ว่าชายคนนี้ดูพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ กลัวจะมาหลอกหลวงพ่อ หลวงพ่อก็รับฟัง

จนชายคนนั้นได้ยืมเงินหลวงพ่อไปเป็นจำนวนเงิน 650,000 บาทหลังจากได้เงินไปหายติดต่อไม่ได้อีกเลยและเมื่อวานนี้ตนเห็นหลวงพ่อมีอาการซึมเศร้า และหลวงพ่อยังพูดว่าอยากตาย ตนยังห้ามหลวงพ่อไว้เลย  จนมาทราบอีกทีช่วงเช้าว่าหลวงพ่อผูกคอเสียชีวิตแล้ว ซึ่งตนก็เสียใจ  ส่วนเงินที่หลวงพ่อให้กับชายคนดังกล่าวไปนั้นเป็นเงินที่ยืมจากชาวบ้านมา เอาไปให้คนร้าย ส่วนคนร้ายเท่าที่ทราบเป็นคนจังหวัดสุพรรณบุรี อ้างตัวว่าเป็นผู้รับเหมา มีฐานะร่ำรวย และยังเป็นคนขายลอตเตอรี่

ทางด้าน นายประดิษฐ์ สังขจาย สส.พระนครศรีอยุธยา  เขต 5 เปิดเผยว่า ตนเองได้รับแจ้ง จึงได้เดินทางมาที่วัดก็มาทราบข่าวว่าหลวงพ่อท่านได้ผูกคอมรณภาพแล้ว  ท่านเป็นพระที่ดีพัฒนาวัด สาเหตุก็เกิดจากการถูกหลอก จากชายสูงอายุ ว่าจะมาเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน จนถูกยืมเงินไปเป็นจำนวนมากและติดต่อไม่ได้อีกเลย ซึ่งการกระทำ ถือว่าเป็นบาป หลอกได้แม้กระทั่งพระ

ต่อมาทางกรรมการวัด ได้มีการประชุม ถึงเรื่องการจัดกฐินวันที่ 27 ตุลาคม จดำเนินการต่อและจะ ทำพิธีสวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่อในวันที่ 21 ตุลาคม สวดเป็นเวลา 9 วันจนถึงวันที่ 30 ตุลาคมจะมีพิธีฌาปนกิจ 

ทางด้านพนักงานสอบสวน จึงได้ถ่ายรูปบริเวณจุดเกิดเหตุไปเป็นหลักฐาน ก่อนจะให้ทางเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ นำร่างเจ้าอาวาส  ส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จังหวัดปทุมธานีอย่างละเอียดอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook