"จินดา แซ่ก๊อก" แม่ "บอสพอล" มาเรือนจำ ให้ญาติเยี่ยมได้วันแรก แต่ไม่ได้เจอหน้าลูกชาย

"จินดา แซ่ก๊อก" แม่ "บอสพอล" มาเรือนจำ ให้ญาติเยี่ยมได้วันแรก แต่ไม่ได้เจอหน้าลูกชาย

"จินดา แซ่ก๊อก" แม่ "บอสพอล" มาเรือนจำ ให้ญาติเยี่ยมได้วันแรก แต่ไม่ได้เจอหน้าลูกชาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้มีการคุมขังผู้ต้องหาชายในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จำนวน 11 ราย โดยทั้งหมดจะต้องเข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลา 6 วัน ซึ่งสิ้นสุดการกักโรคในวันที่ 24 ต.ค. ญาติสามารถเดินทางเข้าเยี่ยมได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้หญิงสูงวัย 1 ราย ผมสั้น ถือกระเป๋าเดินออกมาบริเวณด้านหน้าเรือนจำ พร้อมกับผู้หญิงสูงวัย ซึ่งผู้สื่อข่าวจดจำใบหน้าว่าคล้ายกับ นางจินดา แซ่ก๊อก แม่ของ บอสพอล วรัตน์พล จึงเข้าไปสอบถามว่าใช่คุณแม่บอสพอลหรือไม่ ปรากฏว่าหญิงคนดังกล่าวยกมือปฏิเสธไม่ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าไม่ใช่แม่บอสพอล ก่อนรีบเดินขึ้นรถยนต์ส่วนบุคคล

มีรายงานว่า ตอนเข้าเยี่ยมทางแม่บอสพอลไม่ได้เข้าไปเยี่ยมด้วย แต่รออยู่ด้านนอกแทน เนื่องจากไม่ได้ส่งรายชื่อเข้าไปก่อน และภายหลังการเข้าเยี่ยม ครอบครัวยืนพูดคุยกัน บางคนที่เข้าไปถึงกับน้ำตาคลอกลับออกมา ขณะที่แม่บอสพอลยืนพูดคุยกันกับคนอื่นๆ เกี่ยวกับคดีของลูกชาย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับห้องเยี่ยมญาติเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นั้น มีทั้งหมด 7 ห้อง โดย 1 ห้องมีเก้าอี้ 4 ตัว นั่งห่างกันหนึ่งช่วงแขน ซึ่งการพูดคุยของญาติและผู้ต้องขังจะมีซี่กรงกั้นกลางไว้ และใช้โทรศัพท์คล้ายโทรศัพท์บ้านในอดีตในการสื่อสารระหว่างกัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

นอกจากนี้ การจะเข้าเยี่ยมญาติ ทุกคนจะต้องลงทะเบียนเยี่ยมบริเวณจุดคัดกรอง เพื่อตรวจสอบและลงทะเบียนขอเยี่ยมผู้ต้องขัง และเพื่อตรวจเอกสารต่างๆ ก่อน และต้องเป็นบุคคลที่อยู่ใน 10 รายชื่อ ที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้ เมื่อตรวจเอกสารเสร็จสิ้นจะได้รับใบคิวที่จะระบุรอบเวลาการตีเยี่ยม และเลขเครื่องที่จะใช้ในการเยี่ยม โดยการเยี่ยมญาติมีกำหนดเวลาเพียง 20 นาทีต่อคน

ขณะที่ห้องขวาสุดถัดจากห้องเยี่ยมญาติผู้ต้องขัง จะเป็นห้องงานเยี่ยมญาติผ่านแอปพลิเคชันไลน์ (LINE) ส่วนตรงข้ามกับห้องเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ จะเป็นร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งมีการจัดจำหน่ายทั้งของกินของใช้ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับฝากเงินผู้ต้องขัง และตรงข้ามห้องรับฝากเงินผู้ต้องขังคือห้องทนายความและล่าม มีจำนวน 3 ห้อง ทั้งนี้ ก่อนเข้าเยี่ยมญาติในห้อง ทุกคนจะต้องเก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ในล็อกเกอร์

ส่วนเมนูอาหารของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ วันนี้ มื้อเช้าเป็นเมนูแกงจืดไก่ใส่ผัก และข้าวสวย ส่วนมื้อกลางวันเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่น้ำไก่ใส่ผัก ขณะที่มื้อเย็นเป็นเมนูแกงเผ็ดปลา หมูใส่ผัก ปลาทอดขมิ้น และข้าวสวย

ด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า อาการล่าสุดของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ การปรับตัว การรับประทานอาหารนั้น ทุกคนเริ่มปรับตัวได้ มีความเครียดน้อยลง และจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครเจ็บป่วย

ส่วนวันนี้คือวันตีเยี่ยมญาติ เป็นวันแรกสำหรับบรรดาบอสชาย หลังครบกำหนดระยะเวลาการกักโรคโควิด-19 ทำให้ทั้งหมดจะถูกย้ายไปยังแดนควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาดี ห้องละ 2-3 คน แต่ไม่ขอเปิดเผยเลขแดน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่บรรดาบอสหญิงที่ครบกักโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค. นั้น ก็ได้ถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลการตีเยี่ยมญาติของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผู้ต้องขังไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook