ด.ช.ไม่เขียนสักคำ แต่ครูให้คะแนนเต็ม เฉลย “หัวข้อเรียงความ” เศร้าจนไม่มีคำบรรยาย
ยอมใจความฉลาด ด.ช.ไม่เขียนอะไรสักคำ แต่ครูให้คะแนนเต็ม รู้ “หัวข้อเรียงความ” ไร้เสียงค้าน
หลายคนชอบอ่านเรียงความที่เด็กๆ เขียนขึ้นมา เพราะโลกในวรรณกรรมคือการสะท้อนโลกในสายตาของพวกเขา ทั้งเรียบง่ายและบริสุทธิ์มาก ความไร้เดียงสาช่วยให้เด็กจัดการกับปัญหาด้วยวิธีใหม่ๆ อยู่เสมอ และบางครั้งก็มอบมุมมองใหม่ๆ ให้กับผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากแล้วได้เช่นกัน
เมื่อเร็วๆ นี้ โซเชียลมีเดียของจีนพูดถึงเรียงความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาคนหนึ่ง เด็กชายไม่ได้เขียนคำใดๆ ลงบนกระดาษแม้แต่ตัวอักษรเดียว แต่เพียงส่งการบ้านพร้อม "หยดน้ำตา" จำนวน 3 หยดที่เปื้อนอยู่บนกระดาษ และที่น่าสนใจมากกว่านั้นก็คือ ผลงานชิ้นนี้ได้ "คะแนนเต็ม" จากการตรวจให้คะแนนของคุณครู
ปรากฎว่าหัวข้อกำหนดของเรียงความมีดังนี้ หัวข้อ "เรื่องเศร้า" 1. บรรยายความรู้สึกที่แท้จริง 2. บรรยายอย่างระมัดระวัง ถูกต้องและสวยงาม
เมื่อได้รับมอบหมายนี้ นักเรียนแต่ละคนคงมีความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน บางคนจะใช้เรื่องราวที่น่าประทับใจทางออนไลน์ในการเขียน บางคนใช้เรื่องราวของตนเองเป็นหัวข้อหลัก ตราบใดที่พวกเขาสามารถอธิบายความรู้สึกที่แท้จริงของตนเองได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นักเรียนชายคนนี้เลือกทิศทางที่แตกต่างจากเพื่อนๆ ไม่ได้เขียนคำใดๆ ลงบนกระดาษ มีเพียงแต่หยดน้ำตาล เมื่อเห็นผลงานของนักเรียนคนนี้ ครูก็ประหลาดใจกับความคิดสร้างสรรค์ของเขา ที่สามารถบรรยาย "ความรู้สึกที่แท้จริง" ของตัวเองได้โดยไม่ต้องเขียนคำอธิบายยาวๆ
นี่อาจเป็นเรียงความที่ "แปลก" ในประวัติศาสตร์ เพราะไม่จำเป็นต้องเขียนอะไรเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนด แต่ท้ายที่สุดแล้วกลับได้คะแนนเต็ม ซึ่งชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นว่า
"เรียงความได้คะแนนเต็มและไม่มีใครโต้แย้งได้"
"น่าทึ่งมาก เรียงความไม่มีคำแม้แต่คำเดียว แต่ทำสิ่งที่ถูกต้องตามโจทย์ โดยเฉพาะการอธิบายความรู้สึกที่แท้จริง"
"เพิ่งอยู่ชั้นประถมศึกษาและฉันมีความคิดสร้างสรรค์มาก อนาคตของก็คงสดใสมาก"
"10 คะแนนเต็ม ไม่หัก!"
"เมื่อคุณขี้เกียจแต่สร้างสรรค์..."
"เด็กคนนี้ฉลาดจริงๆ ที่จะทำแบบนั้นได้ แต่เด็กคนอื่นๆ ไม่ควรทำตาม ไม่ใช่ว่าทุกปัญหาจะสามารถนำ "การเขียน" ที่สร้างสรรค์เช่นนั้นมาใช้ได้"
- ใครอ่านก็ขำ! ป.1 เขียนการบ้าน น็อกเอาต์ทั้งแม่-ป้า โดยใช้แค่ 6 คำ ถึงโกรธก็เถียงไม่ออก
- ดราม่า เด็กทำการบ้าน 4+4+2=10 ครูตรวจว่าผิด ใครฟังเฉลยก็ยิ่ง "หงุดหงิด" เป็นเท่าตัว!