สาวอวบเศร้า สารภาพรักเพื่อนร่วมงาน แต่โดนปฏิเสธ ฝ่ายชายเผยเองเพราะอะไร?
สาวอวบตัดสินใจสารภาพรักกับเพื่อนร่วมงาน แต่โดนปฏิเสธ ฝ่ายชายบอกชัดไม่ใช่ที่รูปร่างหน้าตา แต่เพราะรอยสัก
เว็บไซต์ Sohu เผยเรื่องราวของ เสี่ยวจิง หญิงสาวจากมณฑลซานตง ประเทศจีน เธอแอบชอบเพื่อนร่วมงานชายรายหนึ่งในบริษัท เนื่องจากเขามีความสามารถ ทำงานเก่ง และยังมีเสน่ห์น่าดึงดูด แม้ว่าเขาจะยังโสด แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะบอกชอบเขา เพราะเธอเป็นสาวอวบ จึงคิดว่าเธอคงไม่ใช่สาวในอุดมคติของเขา
เมื่อได้เจอหน้ากันอยู่เป็นประจำ ความรู้สึกหลงใหลก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งในที่สุด เสี่ยวจิงก็ตัดสินใจรวบรวมความกล้าไปสารภาพรักกับเขา ในวันนั้นเธอได้สั่งซื้อดอกไม้ช่อโตมา จนถึงตอนเย็นก็มีฝนตก แต่แม้ว่าสภาพอากาศจะไม่เป็นใจ แต่เธอก็ยังมุ่งมั่นทำตามความปรารถนา เมื่อเจอเพื่อนร่วมงานชายที่เธอแอบชอบ เธอก็พุ่งตัวเข้าไปหาในทันที
เสี่ยวจิงถือช่อดอกไม้ในมือ และคุกเข่าลงไปต่อหน้าฝ่ายชาย จากนั้นก็บอกความรู้สึกต่อเขา ว่า "ฉันชอบคุณมานานแล้ว แต่ฉันไม่เคยมีความกล้าที่จะบอกคุณเลย วันนี้ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้"
แต่ปฏิกิริยาของฝ่ายชายดูเหมือนว่าจะเป็นน้ำเย็นยะเยือกที่ดับไฟรักในใจของเสี่ยวจิง เขาตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า "เสี่ยวจิง คุณเป็นคนดีมาก แต่ผมไม่คิดว่าเราจะเหมาะสมกันจริง ๆ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอจึงรีบถามต่อทันทีว่า "เป็นเพราะฉันอ้วนเกินไปเหรอ ?" โดยเธอได้แสดงความเสียใจออกมา จากดวงตาที่เปล่งประกายก็เริ่มแดงก่ำ
ฝ่ายชายส่ายหน้าปฏิเสธ พร้อมกับบอกว่า "ผมไม่ได้ตัดสินคนอื่นจากรูปร่างหน้าตาของพวกเขา แต่ดูรอยสักบนหน้าอกของคุณสิ มันทำให้ผมรู้สึกว่า คุณและผมอาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างกัน เรามีค่านิยมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง"
เมื่อได้ฟังเหตุผลที่ชัดเจนจากฝ่ายชาย มันทำให้เสี่ยวจิงแทบจะสติหลุด เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่ารอยสักของเธอจะเป็นเหตุให้ถูกปฏิเสธ
ตอนนั้นเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายอารมณ์ ทั้งเศร้า ผิดหวัง และคับข้องใจ เธอพยายามดึงแขนเสื้อของเขา และถามย้ำว่า "บอกฉันให้ชัดเจนหน่อย! รอยสักนี้ผิดอะไร ? มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งในร่างกาย ไม่ใช่ทั้งหมดของฉัน !"
แต่หลังจากคำถามนั้น ทุกอย่างก็เงียบงันกลายเป็นความน่าอึดอัด ตอนนั้นผู้คนบริเวณริมถนนเริ่มมองสถานกาณ์ที่เกิดขึ้น จนในที่สุดทางฝ่ายชายก็ค่อย ๆ ผละตัวออก โดยบอกเพียงว่า "ผมขอโทษ" ก่อนที่จะเดินจากไป ทิ้งให้เธออยู่ตรงนั้นเพียงลำพังพร้อมน้ำตาไหลพราก โดยหลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็ตั้งสติได้และก้าวเดินต่อไป
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ