ปลัดแรงงานยืนยันเพิ่มสิทธิผู้ประกันตนอีก 6 กรณี ไม่กระทบกองทุน
ปลัดแรงงาน ยืนยันเพิ่มสิทธิผู้ประกันตนอีก 6 กรณีไม่กระทบกองทุนฯ พร้อมเผยบอร์ดมีมติเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอีกร้อยละ 1 หลังประเมินภาวะเศรษฐกิจเป็นช่วงขาขึ้น คาดกองทุนมีกำไรเพิ่ม 30,000 ล้านบาท
นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งให้ สปส.เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนอีก 6 กรณี ประกอบด้วย เพิ่มค่าคลอดบุตรจากครั้งละ 12,000 บาทเป็น 13,000 บาท เงินสงเคราะห์บุตรจากรายละ 350 บาท เป็น 400 บาท ค่าทันตกรรมจากครั้งละไม่เกิน 250 บาท ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง เป็นครั้งละ 300 บาท ปีละไม่เกิน 2 ครั้ง สิทธิในการให้บริการใส่รากฟันเทียม เพิ่มสิทธิในการรักษาโรคจิต และเพิ่มค่ารักษากรณีทุพพลภาพจากเดือนละไม่เกิน 2,000 บาทเป็น 4,000 บาท ว่า เรื่องดังกล่าวเชื่อว่าจะไม่กระทบกับเงินของกองทุนประกันสังคม เพราะใช้เงินเพียงแค่ 1,000 ล้านบาท หากคิดจากฐานกำไรปีที่ผ่านมากว่า 24,000 ล้านบาท ถือว่าสัดส่วนที่ไม่มากจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของกองทุนประกันสังคม แต่ในทางกลับกันผู้ประกันตนได้รับสิทธิเพิ่มขึ้นถึง 6 กรณี
นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมบอร์ด สปส.ครั้งที่ผ่านมายังอนุมัติให้ปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้นของกองทุนประกันสังคมเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 7-10 เป็นร้อยละ 7-11 เนื่องจากมองว่าภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นช่วงขาขึ้น ขณะที่สถานการณ์ความผันผวนในตลาดหุ้นก็เริ่มนิ่ง แต่ก็ยังคงเน้นลงทุนในหุ้นที่มีเสถียรภาพ และหุ้นมีกำไรดี ทั้งนี้ ได้ประมาณการว่ากองทุนประกันสังคมจะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากการปรับเพิ่มการลงทุนครั้งนี้ถึง 30,000 ล้านบาท