สลด ลูกชายนักวิชาการดัง ดิ่งตึกชั้น 17 เปิดกระเป๋านักเรียนดู พ่อทรุดลงหน้า "กองกระดาษ"

สลด ลูกชายนักวิชาการดัง ดิ่งตึกชั้น 17 เปิดกระเป๋านักเรียนดู พ่อทรุดลงหน้า "กองกระดาษ"

สลด ลูกชายนักวิชาการดัง ดิ่งตึกชั้น 17 เปิดกระเป๋านักเรียนดู พ่อทรุดลงหน้า "กองกระดาษ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ขอให้เรื่องของครอบครัวเราเตือนใจทุกคน.... นักเศรษฐศาสตร์ดังเล่าเหตุการณ์ ลูกชายดิ่งตึกชั้น 17 เปิดกระเป๋านักเรียนดูยิ่งเศร้า ทรุดลงหน้ากองกระดาษ

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังชาวจีน "ตง ถั่นฮุย" แชร์ข่าวเศร้าของเขาบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก  กล่าวว่าการจากไปของลูกชายเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดและกะทันหันเกินไปสำหรับครอบครัว ในขณะเดียวกันโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในครอบครัวของเขา ยังเป็นคำเตือนสำหรับพ่อแม่คนอื่นๆ ด้วย

เช้าวันธรรมดาๆ กลายเป็นโศกนาฏกรรมไม่มีวันลืม

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ตามปกติลูกชายจะตื่นนอนเวลา 05.50 น. รับประทานอาหารเช้าและขึ้นรถไปโรงเรียน แต่วันนั้นกระทั่งเวลาประมาณ 6.30 น. พบว่าเครื่องระบุตำแหน่งบนนาฬิกาของลูกชายยังคงอยู่ในบ้าน ฝ่ายสามีโทรถามภรรยาภรรยาว่าลูกลืมนาฬิกาไว้ที่บ้านหรือไม่ หลังจากได้รับคำยินยันว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบออกตามหาลูกชายทันที

“ผมค้นหาไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง และค้นพบลูกชายหลังจากผ่านไป 20 นาที” ปรากฎว่าลูกชายของเขาตกลงไปจากชั้น 17 ร่วงลงสู่ระเบียงชั้น 2 ของตึกอพาร์ทเมนท์ “เช้าวันนั้นอากาศหนาวมาก ลูกชายของผมนอนอยู่ที่นั่นเงียบๆ ดูโดดเดี่ยวมาก ข้างๆ ศีรษะของเขามีกองเลือด ตอนนั้นมีแค่เราสองคน ผมได้ปั๊มหัวใจให้ลูกอย่างต่อเนื่อง และโทรหาหน่วยฉุกเฉิน ตำรวจ และสมาชิกในครอบครัว เมื่อทุกคนมาถึงมือของลูกชายก็เย็นลงแล้ว”

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินมาถึงที่เกิดเหตุยืนยันว่าเด็กชายเสียชีวิตแล้ว “พวกเขาบอกว่าไม่มีความหวังที่จะรักษาอีกต่อไปแล้ว ผมต้องเฝ้าดูลูกเสียชีวิตอย่างช่วยไม่ได้โดยไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง” ผู้เป็นพ่อเล่าอย่างเจ็บปวด

การจากไปของเด็กชายสร้างความตกตะลึงครั้งใหญ่ให้กับครอบครัว ไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุเขาถึงกับบอกแม่ว่าใกล้จะสอบวิชาพลศึกษาว่า "แม่ครับ ช่วยทำอาหารอร่อยๆ เติมพลังให้ผมหน่อย" ไม่เพียงเท่านั้น เขายังโชว์ภาพวาดที่ยังวาดไม่เสร็จให้พ่อดูอีกด้วย “ลูกบอกว่าลูกกำลังวาดภาพใหญ่ แตกต่างจากครั้งก่อน คราวนี้ลูกใช้ปากกาลูกลื่นและร่างภาพเสร็จแล้ว ใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนก็จะเสร็จสมบูรณ์”

ความหลงใหลในการวาดภาพที่ยังไม่สิ้นสุด

หลังจากตรวจสอบข้าวของและกระเป๋านักเรียนของลูกชายแล้ว ผู้เป็นพ่อก็พบกับกองกระดาษหนาๆ ที่มีภาพวาดที่ยังเขียนไม่เสร็จอยู่จำนวนมาก ในสายตาของเขาแม้ว่าลูกชายจะมีผลการเรียนกลางๆ แต่ก็มีบุคลิกที่ดีมาก ชอบวาดภาพ เล่นฟุตบอล และมีเพื่อนสนิทมากมาย และเขายังคงไม่สามารถยอมรับการจากไปอย่างกะทันหันของลูกได้

“หากเขาเห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง ฉันจะหยิบปากกาออกมาและวาดอย่างตั้งใจจนกว่าจะจากโลกนี้ไป” ผู้เป็นพ่อกล่าวถึงลูกชายผู้มีความหลงใหลในการวาดภาพมากๆ มาตั้งแต่อายุ 1 ขวบ มักเล่าให้พ่อฟังหลายครั้งเกี่ยวกับความฝันในการเป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ ถึงกับตั้งตั้งชื่อ WeChat ของตนเองว่า "จิตรกรผู้ยิ่งใหญ่"

คุณพ่อเล่าด้วยว่า ลูกชายของเขาเพิ่งเรียนมัธยมต้นมาได้ 2 เดือน แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น ดูเหมือนจะสูญเสียความหลงใหลในการวาดภาพและเศร้าโศก “เป็นเวลากว่าสองเดือนในโรงเรียนมัธยมต้น ทุกวันลูกต้องทำการบ้านจนถึงดึกดื่น และบางวันต้องทำงานพิเศษในเช้าวันรุ่งขึ้นก่อนที่จะไปโรงเรียน โรงเรียนมีการทดสอบทุกสัปดาห์ และผลการทดสอบส่งผลต่ออารมณ์ของเด็กอย่างมาก” เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เด็กชายมักจะหยิบหนังสือเล่มโปรดขึ้นมาอ่านซ้ำแล้วซ้ำอีก

ตั้งข้อสงสัยว่ารับแรงกดดันทางวิชาการมากเกินไป

ผู้เป็นพ่อยังคงจำภาพลูกชายที่กลับบ้านหลังสอบครั้งล่าสุดได้แจ่มชัด “ตามข้อบังคับของโรงเรียน นักเรียนจะต้องนำหนังสือทั้งหมดกลับบ้าน ผมยังจำภาพลูกชายแบกเป้ใบหนักๆ บนไหล่ได้ชัดเจน มีกระเป๋าหนังสือหนักมากจนมีรอยแดงเกิดขึ้น...”

“หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุ ลูกถูกวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มแชทในชั้นเรียนที่ไม่ทำการบ้าน ลูกชายของผมค่อนข้างเชื่อถือในตัวเองและอาจจะทนไม่ไหว... ผลสอบกลางภาคไม่เป็นไปตามที่คาด ลูกกลับบ้านด้วยสีหน้าเศร้าใจ ตอนนั้นภรรยาของผมต้องปลอบโยนและให้กำลังใจลูกอย่างมาก...”

เขายังเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังจากลูกชายเสียชีวิต เขาและภรรยาก็ตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา นึกถึงเหตุผลที่อาจทำให้ลูกชายแสวงหาความตายอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เขายังคงเชื่อว่า "การเรียนมากเกินไป การทดสอบรายสัปดาห์ การที่โรงเรียนขาดความสนใจ และสนับสนุนด้านจิตวิทยาแก่นักเรียน เป็นสาเหตุหลักบางประการที่นำไปสู่การกระทำที่โง่เขลาของลูกชายของผม"

ผู้เป็นพ่อกล่าวว่า ตั้งแต่ลูกชายเข้ามัธยมต้น ทั้งเขาและพ่อแม่มักจะรู้สึกกังวลอยู่เสมอ โรงเรียนมีโปรแกรมการเข้าชั้นเรียน กลุ่มการออกกำลังกาย กลุ่มผู้ปกครอง กลุ่มคณะกรรมการผู้ปกครอง และแม้กระทั่งการออกกำลังกายที่ต้องเข้าร่วม กิจกรรมบางอย่างยังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงมากด้วย เช่น โปรแกรมการเรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ราคา 700 หยวน (ประมาณ 3,317 บาท)

“การจากไปขอลูกชายของเราทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนไปมาก ผมหวังว่าจากการสูญเสียครั้งนี้ จะสามารถเป็นบทเรียนเพื่อฉุกคิดใหม่ได้ ผมยังต้องการใช้วิธีนี้เพื่อระลึกถึงลูกชายของผมด้วย” นักเศรษฐศาสตร์กล่าวอย่างเศร้าใจ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ สลด ลูกชายนักวิชาการดัง ดิ่งตึกชั้น 17 เปิดกระเป๋านักเรียนดู พ่อทรุดลงหน้า "กองกระดาษ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook