หนุ่มถูกหวย 40 ล้าน แต่เมีย "ขอหย่า" หอบลูกหนี เป็นเศรษฐี 2 ปี ชีวิตดิ่งสู่โศกนาฏกรรม

หนุ่มถูกหวย 40 ล้าน แต่เมีย "ขอหย่า" หอบลูกหนี เป็นเศรษฐี 2 ปี ชีวิตดิ่งสู่โศกนาฏกรรม

หนุ่มถูกหวย 40 ล้าน แต่เมีย "ขอหย่า" หอบลูกหนี เป็นเศรษฐี 2 ปี ชีวิตดิ่งสู่โศกนาฏกรรม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่เหลืออะไรเลย! หนุ่มถูกลอตเตอรีเกือบ 40 ล้าน แต่ภรรยาขอหย่าไม่รับเงิน ซ้ำเป็นเศรษฐีแค่ 2 ปี ชีวิตดิ่งสู่โศกนาฏกรรม

เรื่องราวที่ถูกรายงานโดยสื่อท้องถิ่น เกิดขึ้นเมื่อปี 2022 "นายหว่อง" (นามสมมุติ) อาศัยอยู่ในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เขาเคยมีครอบครัวที่อบอุ่น มีภรรยาที่ทำงานเป็นข้าราชการเช่นเดียวกัน และลูกเล็กที่น่ารัก 2 คน แม้ว่ารายได้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็มีบ้านอยู่เป็นของตัวเอง สถานะทางการเงินของครอบครัวจึงค่อนข้างราบรื่น ลูกๆ เติบโตมาอย่างมีสุขภาพดี และเชื่อฟังพ่อแม่เสมอ ถือเป็นความภาคภูมิใจของทั้งคู่

กระทั่งวันหนึ่งนายหว่องได้ไปร่วมงานเลี้ยงรุ่น เขาได้พบกับเพื่อนคนหนึ่งที่ในอดีตมีผลการเรียนปานกลาง แต่ปัจจุบันกลับใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยเพื่อเพื่อนทั้งชั้นเรียน เมื่อลองสอบถามจากคนอื่นๆ ก็ทราบว่าเขาร่ำรวยขึ้นหลังจากถูกลอตเตอรีมูลค่า 2 ล้านหยวน (ประมาณ 9.5 ล้านบาท) ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงคิดจะดำเนินตามเส้นทางของเพื่อนคนนี้ ทุกครั้งที่ได้รับเงินเดือนก็ใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อซื้อลอตเตอรี อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะใช้เงินไปมากมาย แต่ก็ยังไม่เคยถูกรางวัลใดๆ เป็นชิ้นเป็นอัน

เมื่อเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของสามี ภรรยาก็พยายามตักเตือนและแนะนำนายหว่องซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมทั้งยกเรื่องค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนของลูกๆ มาเป็นเหตุผลด้วย แต่เขากลับไม่สนใจคำพูดของภรรยา อีกทั้งยังดูถูกว่าเธอใช้ชีวิต "ปลอดภัยเกินไป" และ "คิดน้อย" และเนื่องจากงานอดิเรกใหม่ของสามีนี้เอง ทำให้ทั้งคู่จึงทะเลาะกันนับครั้งไม่ถ้วน ภรรยารู้สึกปวดใจ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมสามีจึงขาดความรับผิดชอบ และเชื่อมั่นในเส้นทางความร่ำรวยที่อันตราย

แต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือ วันหนึ่งนายหว่องจะถูกลอตเตอรี่จริงๆ เป็นจำนวนเงินสูงถึง 8 ล้านหยวน (ประมาณ 37.9 ล้านบาท) เขากรีดร้องกลางบ้านแล้ววิ่งไปกอดลูกๆ คิดว่าหลังจากถูกลอตเตอรีแล้ว จะไม่ถูกภรรยาดูถูกอีกต่อไป และชีวิตครอบครัวก็จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเพียงแค่ 3 เดือน ครอบครัวของเขาก็แตกสลาย

ชีวิตที่พลิกผันสู่ "โศกนาฏกรรมลอตเตอรี"

หลังจากถูกลอตเตอรีได้เพียง 3 เดือน ภรรยาก็พานายหว่องไปที่บ้านพ่อแม่ และกล่าวอย่างหนักแน่นว่า "ฉันไม่สามารถอยู่กับคุณต่อไปได้ คุณและฉันต้องพบกันที่กรมกิจการพลเรือน แม้ว่าฉันจะไม่ได้เงินสักหยวนเดียว แต่ฉันก็ยังต้องหย่ากับคุณ!" เมื่อได้ยินเช่นนี้อย่างกระทันหัน ฝ่ายพ่อแม่สามีคิดว่าลูกสะใภ้หุนหันพลันแล่นเกินไป และพยายามโน้มน้าวว่าถ้าไม่คิดถึงโบนัสก้อนโตที่สามีได้รับ พยายามโน้มน้าวก็ต้องคิดถึงลูกสองคนที่ยังเรียนหนังสืออยู่บ้าง

เมื่อถูกกดดันจากพ่อแม่สามี ท้ายที่สุดเธอจึงเปิดเผยเหตุผลตรงๆ ปรากฎว่าหลังจากถูกลอตเตอรีเธอแนะนำให้สามีเก็บเงินไว้ใช้ฉุกเฉิน และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตของลูกสองคนล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม แต่สามีไม่ฟังและใช้เงินจำนวนมากเพื่อเล่นลอตเตอรีต่อไป เพราะเขาเชื่อว่าเขาเข้าใจกฎของเกมนี้แล้ว

ไม่หยุดอยู่แค่นั้น ภายใต้เสียงชมเชยจากคนอื่นๆ ว่าเขามีเงินมากมาย เขาจึงใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ทั้งล่องเรือ เล่นการพนัน กินดื่ม แต่เมื่อเธอถามเกี่ยวกับแผนการใช้เงินในอนาคต เขากลับทำเพียงส่ายหัว ที่แย่กว่านั้นคือครั้งหนึ่งเพราะเธอขัดขวางไม่ให้ไปคาสิโน เขาถึงกับลงมือทุบตีเธอต่อหน้าลูกๆ ในขณะที่เธอเพิ่งรู้ข่าวว่าสามี "มีชู้" หลังจากถูกลอตเตอรีอีกด้วย

เมื่อเห็นว่าสามียังคงจมดิ่งต่อไปเช่นนี้ เธอรู้ว่าตนเองไม่สามารถหยุดเขาได้ จึงต้องการหย่าตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะเธอไม่ต้องการให้ลูกๆ สัมผัสกับพ่อที่ชอบทารุณกรรม นอกจากนี้ หากเธอหย่าร้างเร็วๆ นี้ เธอจะยังคงได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัลลอตเตอรีของสามี ซึ่งจะช่วยให้สามารถเก็บเงินไว้สำหรับอนาคตของลูกๆ

หลังจากการโต้เถียงกันในศาลหลายวัน ทั้งคู่ก็หย่าร้างกันพร้อมคำตัดสินว่าภรรยาจะได้รับสิทธิในการดูแลลูกๆ ส่วนสามีต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรทุกเดือน และมอบเงินส่วนแบ่ง 2.5 ล้านหยวน (ประมาณ 11.8 ล้านบาท) ให้กับภรรยาของเขา เนื่องจากการถูกรางวัลลอตเตอรีถือเป็นทรัพย์สินส่วนรวมในระหว่างแต่งงาน

หลังจากการหย่าร้างเนื่องจากไม่มีใครคอยเตือน นายหว่องจึงยิ่งจมอยู่ในวังวนแห่งความหรูหรา ในเวลาเพียง 2 ปี เขาใช้เงินรางวัลไปจนหมดสิ้น สุดท้ายก็ตัดสินใจขายบ้านหลังเดียวที่เขามีอยู่ เพื่อนำเงินไปลงทุนในลอตเตอรีต่อไป อย่างไรก็ตาม โชคไม่เข้าข้างเขาอีกต่อไป ชายผู้นี้สูญเสียทุกสิ่งอย่างจนหมดตัว

ในเวลานี้เขาหันไปขอความช่วยเหลือจากอดีตภรรยาของเขา เนื่องจากเธอได้เห็นการใช้จ่ายอย่างสิ้นเปลืองของเขาหลังจากการหย่าร้าง จึงไม่แปลกใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น สุดท้ายเธอแค่บอกว่าจากนี้เขาไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร และขอให้เขาอยู่ห่างๆ ห้ามมาบ้านของเธอ เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนชีวิตของเธอและลูกๆ

ในเวลานี้ นายหว่องจึงตระหนักได้อย่างแท้จริงว่าเขาสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปแล้ว ความสุขและโชคอันยิ่งใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยมีถูกทำลายลงโดยตัวเขาเอง ตอนนี้เขาทำได้เพียงกลับไปหางานใหม่ พยายามสร้างชีวิตใหม่ เพื่อที่จะได้ขอให้ภรรยาให้โอกาสเขาเจอลูกๆ อีกสักครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook