ใจหล่นวูบ รู้โรคต้นเหตุ "รอยช้ำ" บนน่องลูกชาย หมอชี้น่ากลัวกว่า HIV รักษายากกว่ามะเร็ง

ใจหล่นวูบ รู้โรคต้นเหตุ "รอยช้ำ" บนน่องลูกชาย หมอชี้น่ากลัวกว่า HIV รักษายากกว่ามะเร็ง

ใจหล่นวูบ รู้โรคต้นเหตุ "รอยช้ำ" บนน่องลูกชาย หมอชี้น่ากลัวกว่า HIV รักษายากกว่ามะเร็ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เอะใจ "รอยช้ำ" บนน่องลูกชาย แม่ฟังแทบทรุด หมอเผยเป็นป่วยอะไร น่ากลัวกว่าเอดส์ รักษายากกว่ามะเร็ง

จากข้อมูลของสื่อท้องถิ่น เด็กชายชาวไต้หวันอายุ 13 ปี เดิมทีชอบเล่นบาสเก็ตบอล และบางครั้งก็มีรอยฟกช้ำบนร่างกาย ทำให้พ่อแม่ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนัก โดยไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งเมื่อเขากลับจากโรงเรียนประถม กลับมีรอยฟกช้ำขนาดใหญ่ปรากฏบนน่อง พ่อแม่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบพาไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล

หลังจากการตรวจร่างกาย แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรค "โรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อขั้นรุนแรง" ซึ่งเป็นกรณีที่พบไม่บ่อย สิ่งที่น่ากังวลที่สุดเกี่ยวกับโรคนี้คือ ไขกระดูกของผู้ป่วยไม่สามารถผลิตเลือดได้ตามปกติ ทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลง ติดเชื้อรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ง่าย และแพทย์ถึงกับบอกว่าโรคนี้ "น่ากลัวกว่าโรคเอดส์"

และแม้ว่าโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ (Aplastic Anemia) จะไม่ใช่มะเร็ง แต่ก็รักษาได้ยากกว่าโรคมะเร็งหลายชนิด และผู้ป่วยมักมีภาวะโลหิตจางรุนแรง จำเป็นต้องได้รับการถ่ายเลือดเพื่อรักษาชีวิต

ในการรักษาเด็กชายเคสนี้ เมื่อเดือนสิงหาคมแพทย์ได้ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดจากน้องสาวของเขา ขณะเดียวกัน ได้ใช้วิธีการรักษาที่ได้รับการปรับปรุงอื่นๆ หลังการผ่าตัด เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นการเกิดลิ่มเลือด โชคดีที่เด็กชายฟื้นตัวจากการทำงานของเม็ดเลือดได้ตามปกติในวันที่ 15 หลังการปลูกถ่าย และออกจากโรงพยาบาลได้สำเร็จในวันที่ 30 นอกจากมีไข้เป็นระยะสั้นๆ แล้ว ก็ไม่มีปัญหาเลยในทุกขั้นตอน

ทั้งนี้ อาการของโรคโลหิตจางจากไขกระดูกฝ่อ จะเกิดขึ้นอย่างเงียบๆ เป็นเวลาหลายเดือนนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ จากเล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งอาการแย่ลงกะทันหัน ดังนั้น ควรนำผู้ป่วยส่งห้องฉุกเฉินทันทีเมื่อมีอาการ เช่น สับสน ชัก หมดสติ หายใจลำบาก เสียเลือด เป็นต้น เพื่อรับการรักษาอย่างทันท่วงที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook