พ่อค้าแจกบะหมี่ให้คนทั้งตลาด ดูเผินๆ เหมือนใจดี หมอเฉลยอึ้ง นี่คืออาการป่วยจิตเวช

พ่อค้าแจกบะหมี่ให้คนทั้งตลาด ดูเผินๆ เหมือนใจดี หมอเฉลยอึ้ง นี่คืออาการป่วยจิตเวช

พ่อค้าแจกบะหมี่ให้คนทั้งตลาด ดูเผินๆ เหมือนใจดี หมอเฉลยอึ้ง นี่คืออาการป่วยจิตเวช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อค้าหนุ่มวัย 28 แจกบะหมี่ให้คนทั้งตลาด ดูเผินๆ เหมือนเป็นคนใจบุญ หมอเฉลยอึ้ง นี่คืออาการป่วยจิตเวช ที่ต้องรีบรักษา

นายเหงียน อันห์ คิว (อายุ 28 ปี จากฮานอย) เป็นพ่อค้าขายของเล็ก ๆ ในตลาดซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นคนร่าเริง ใจกว้าง และชอบช่วยเหลือผู้อื่น ทำให้เป็นที่รักของคนรอบข้าง คิวแต่งงานแล้วและในช่วงแรกภรรยาของเขาก็สนับสนุนการช่วยเหลือคนอื่นเพราะเห็นว่าเป็นการทำความดี

อย่างไรก็ตาม ความใจกว้างของคิวเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อร้านของครอบครัวนำเข้าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสองรถบรรทุก แทนที่จะขายเพื่อทำกำไร คิวกลับแจกจ่ายให้ทุกคนในตลาดฟรี ซึ่งกระทบต่อการเงินของครอบครัวอย่างมาก ภรรยาจึงจำเป็นต้องตักเตือนเขา

เมื่อเห็นว่าภรรยาไม่สนับสนุน คิวเริ่มโกรธและบอกว่าภรรยาไม่เห็นด้วยกับการช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากนี้ คิวยังพูดคุยกับทุกคน แม้แต่คนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ทำเสมือนว่ารู้จักกันมาแล้ว บางคนเริ่มสงสัยในพฤติกรรมนี้ แต่ส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นลักษณะปกติของการขายของ

เนื่องจากคิวแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น การใจบุญมากเกินไปและการพูดไม่รู้เรื่อง ภรรยาของเขาจึงตัดสินใจพาเขาไปที่สถาบันสุขภาพจิต โรงพยาบาลบั๊กไมเพื่อตรวจอาการ

นายแพทย์งอ ตวน เคียม แพทย์ประจำสถาบันสุขภาพจิต เปิดเผยว่าคิวถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคไบโพลาร์ในระยะแมเนีย ที่มีอาการหลงผิด และต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน หลังจากได้รับยารักษาและการบำบัดทางจิตเป็นเวลา 20 วัน อาการของผู้ป่วยก็ดีขึ้นและได้รับอนุญาตให้กลับบ้านโดยมีการเฝ้าติดตามอาการต่อเนื่อง

อาการของโรคไบโพลาร์

นายแพทย์เคียมกล่าวว่า โรคนี้จำเป็นต้องได้รับการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีโอกาสที่จะเกิดการกำเริบสูง ผู้ป่วยโรคไบโพลาร์มักจะมีหลายระยะและอาการในระยะแรก ๆ มักจะสังเกตได้ยาก ทำให้เกิดความสับสนในการวินิจฉัย การเฝ้าระวังและปฏิบัติตามการรักษาจึงมีความสำคัญอย่างมาก

ในกรณีของนายคิว ผู้ป่วยได้แสดงอาการของโรคมานานแล้ว แต่คนรอบข้างมองว่าเป็นบุคลิกส่วนตัวที่ร่าเริง ใจกว้าง จึงไม่ได้นำตัวไปพบแพทย์แต่เนิ่น ๆ

นายแพทย์คิเอิมอธิบายว่าเมื่อมีการแสดงอารมณ์ร่าเริงเกินปกติต่อสิ่งรอบข้าง เช่น ใบหน้าเบิกบาน แสดงท่าทางยินดีเกินเหตุ หรือพูดหรือร้องเพลงอย่างกระตือรือร้นโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น อาจเป็นสัญญาณของโรคไบโพลาร์ (ระยะแมเนีย) บางคนอาจมีอาการหลงผิด มีความภาคภูมิใจในตนเองสูง และคิดว่าตนเองมีความสามารถพิเศษ

หากไม่ตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคไบโพลาร์ทันเวลา อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานและสุขภาพของผู้ป่วยและเพิ่มภาระทางเศรษฐกิจให้แก่ครอบครัว นายแพทย์คิเอิมแนะนำว่า หากญาติแสดงอาการผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลที่มีแผนกจิตเวชเพื่อการวินิจฉัยและรักษาทันท่วงที

ภาวะแมเนีย (Mania) อีกหนึ่งอาการพบบ่อยในผู้ป่วยไบโพลาร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook