หลังน้ำเดือดแล้ว ควรเทน้ำใน "กาต้มน้ำ" ออกจนหมดหรือไม่? หลายคนทำผิดมานาน

หลังน้ำเดือดแล้ว ควรเทน้ำใน "กาต้มน้ำ" ออกจนหมดหรือไม่? หลายคนทำผิดมานาน

หลังน้ำเดือดแล้ว ควรเทน้ำใน "กาต้มน้ำ" ออกจนหมดหรือไม่? หลายคนทำผิดมานาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย ควรเทน้ำออกจาก "กาต้มน้ำไฟฟ้า" จนหมด หลังจากต้มเสร็จหรือไม่? ที่จริงแล้ว หลายคนเข้าใจผิดมาตลอด

ผู้ใช้หลายคนมักเทน้ำออกจาก "กาต้มน้ำไฟฟ้า" จนหมด หลังจากต้มเสร็จทันที โดยคิดว่าไม่มีผลเสียอะไร แต่ที่จริงแล้วนิสัยนี้อาจเป็นอันตรายได้มากกว่าที่คิด

การเทน้ำออกจากกาทันทีหลังจากต้มเสร็จดีหรือไม่?

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี กาต้มน้ำไฟฟ้าทำให้การต้มน้ำเป็นเรื่องสะดวกและรวดเร็ว แต่ด้วยเหตุนี้ บางครั้งเราอาจทำผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้อุปกรณ์เสียหายเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ไม่ควรเทน้ำออกจากกาจนหมดทันทีหลังจากต้มน้ำเสร็จ นี่เป็นนิสัยที่หลายคนทำจนเคยชิน แต่สามารถก่อให้เกิดผลเสียทั้งต่อสุขภาพและอายุการใช้งานของกาต้มน้ำ

ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า หลังจากต้มน้ำจนเดือดแล้ว แม้ว่ากาต้มน้ำจะตัดไฟ แต่แผ่นทำความร้อนยังคงมีความร้อนอยู่ หากเราเทน้ำออกหมดทันที แผ่นทำความร้อนจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้น หลังจากต้มน้ำเสร็จ ควรเหลือน้ำไว้ในกาให้สูงกว่าแผ่นทำความร้อนประมาณ 2 เซนติเมตร และรอให้น้ำเย็นลงก่อนจึงค่อยเทออก

4 ข้อควรระวังเมื่อใช้ "กาต้มน้ำไฟฟ้า" เพื่อความปลอดภัย

นอกจากการเทน้ำออกทันทีหลังจากต้มเสร็จ ซึ่งอาจทำให้กาต้มน้ำเสียหายเร็วขึ้นแล้ว ยังมีข้อผิดพลาดอื่น ๆ ที่ผู้ใช้กาต้มน้ำไฟฟ้าควรหลีกเลี่ยงเพื่อยืดอายุการใช้งาน

1. ไม่ควรเก็บน้ำเย็นทิ้งไว้นานในกาต้มน้ำ หลายคนมักทิ้งน้ำเย็นไว้ในกาเป็นเวลานาน โดยไม่รู้ว่าพฤติกรรมนี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผู้ใช้ได้ ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า หลังจากต้มน้ำทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง น้ำจะเริ่มมีแบคทีเรียเกิดขึ้น และจะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเมื่อน้ำถูกเก็บไว้ในภาชนะปิด 

นอกจากนี้ น้ำที่ทิ้งไว้นานจะสูญเสียออกซิเจนไปบางส่วน การดื่มน้ำนี้อาจเสี่ยงต่อปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ปวดท้อง และอาหารไม่ย่อย อีกทั้งยังทำให้เกิดคราบหินปูนสะสมในกาต้มน้ำ ซึ่งทำให้แผ่นทำความร้อนเสียหายเร็วขึ้นและใช้เวลาในการต้มมากขึ้น ดังนั้น ควรเทน้ำออกและใช้น้ำใหม่ทุกครั้งเมื่อจะต้มน้ำ

2. หลีกเลี่ยงการเติมน้ำในกามากเกินไปหรือน้อยเกินไป บางคนอาจเติมน้ำเกินขีดที่กำหนดไว้ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมากขึ้นในการต้มครั้งเดียว ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการระเบิดและลดอายุการใช้งานของกาต้มน้ำ ผู้ผลิตจึงได้กำหนดระดับน้ำขั้นต่ำและสูงสุดไว้ชัดเจน การเติมน้ำสูงเกินขีด Max หรือต่ำกว่า Min จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของกาต้มน้ำ ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว

3. ปิดฝาไม่สนิทหรือไม่ปิดฝาเมื่อใช้งาน การปิดฝาไม่สนิทหรือไม่ปิดฝาขณะต้มเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ใช้เวลานานขึ้นในการต้มน้ำให้เดือด และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย เนื่องจากกาต้มน้ำไฟฟ้ามีระบบรีเลย์ที่จะตัดไฟอัตโนมัติเมื่อฝาถูกปิดสนิท หากฝาไม่ได้ปิดสนิท ระบบตัดไฟจะไม่ทำงานเมื่อน้ำเดือด ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดไฟลัดวงจรหรือไฟไหม้ ดังนั้น ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าปิดฝากาต้มน้ำให้สนิทก่อนการใช้งานทุกครั้ง

4. ทำความสะอาดกาต้มน้ำเป็นประจำ หลังใช้งานไปสักระยะ กาต้มน้ำจะเริ่มมีคราบหินปูน สนิม หรือคราบตะกรันสะสม ซึ่งไม่เพียงทำให้ประสิทธิภาพการต้มลดลง แต่ยังส่งผลต่อคุณภาพของน้ำและสุขภาพ รวมถึงลดอายุการใช้งานของกาต้มน้ำด้วย ดังนั้น ควรรอให้กาต้มน้ำเย็นลงประมาณ 20 นาทีหลังการใช้งาน แล้วทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่ากาต้มน้ำสะอาดและปลอดภัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook