เด็กหญิงฝาแฝด 9 ขวบ ตาสีฟ้า โซเชียลฮือฮาบอกสวย ความจริงชะตาอาภัพ อวัยวะอื่นพิการ

เด็กหญิงฝาแฝด 9 ขวบ ตาสีฟ้า โซเชียลฮือฮาบอกว่าสวย ความจริงเกิดมาชะตาอาภัพ อวัยวะอื่นพิการ แม่วอนช่วยพาลูกไปรักษา  

กลายเป็นที่พูดถึงตามสื่อโซเชียลต่างๆ และเป็นที่สนใจของสังคม สำหรับฝาแฝดอายุ อายุ 9 ขวบ ที่มีดวงตาสีฟ้า โดยน้องแก้มแฝดพี่ มีตาสีฟ้าทั้ง 2 ข้าง ส่วนน้องกิ๊ฟแฝดน้อง มีตาสีฟ้าข้างเดียว สามารถมองเห็นได้ปกติ ซึ่งบางคนมองว่า สีตาสวย เหมือนใส่คอนแทคเลนส์บ้าง เหมือนหุ่นยนต์บ้าง ขณะที่มีผู้ให้ความเห็นว่า โรคตาสีฟ้า หรือ กลุ่มอาการวาร์เดนเบิร์ก (Waardenburg syndrome) เป็นโรคทางพันธุกรรมพบยาก คนไข้กลุ่มนี้มีเสี่ยงหูหนวก 60 % ดังนั้น หากพบว่าลูกมีตาสีฟ้า โดยที่พ่อแม่มีสีตาปกติ ต้องรีบพบหมอ

สอบถามแม่ คือ นางคำ จันวิพอน อายุ 42 ปี เป็นชาวลาว มีสามีใหม่เป็นคนไทย ชาว จ.นครพนม และมาทำงานขายแตงโม ที่ตลาด บ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หย่าร้างกับพ่อ น้องแก้ม – น้องกิ๊ฟ ตั้งแต่ตั้งครรภ์ได้เดือนกว่า พ่อเด็กทั้งสองเป็นคน จ.กาญจนบุรี ทำให้กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวทำงานรับจ้างมาตลอด และมาช่วยพี่สาวค้าขาย มีสามีอยู่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม อาศัยอยู่บ้านเช่า

ส่วนเด็กทั้ง 2 คน มีแววตา ดวงตาสีฟ้าตั้งแต่เกิด เชื่อว่าเป็นพันธุกรรม เนื่องจากแม่มีดวงตาสีฟ้าเช่นกัน โชคดีไม่มีผลกับการมองเห็น สายตาปกติทุกอย่าง แต่ที่โชคร้ายคือลูกสาวพิการทางหู ไม่ได้ยินเสียง แต่บางครั้งทดลองตะโกน พูดเสียงดัง เหมือนจะได้ยิน ทำให้ไม่สามารถพูดได้ จึงอยากได้เครื่องช่วยฟังมาใส่เผื่อสามารถได้ยินและพูดได้ เพราะไม่มีปัญหาด้านอื่น นิสัยร่าเริง ร่างกายปกติทุกอย่าง

ปัจจุบันได้ส่งเข้าเรียนที่ ศูนย์การศึกษาพิเศษ จ.มุกดาหาร ทำให้สื่อสารด้วยภาษามือได้ ปกติจะไปส่งเข้าเรียนและกลับมาวันหยุด แต่ช่วงนี้น้องไม่ค่อยสบายป่วยเป็นไข้ จึงยังไม่ได้ให้ไปเรียน สำหรับการช่วยเหลือ แล้วแต่คนเมตตาสงสาร เนื่องจากเคยมีคนนำไปแอบอ้างเปิดบัญชี โกงเงินไป จึงไม่อยากเป็นปัญหาสังคม แต่สำหรับผู้ใหญ่ใจดีที่เมตตาสงสาร อยากช่วยเหลือด้านการรักษา หรือช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์ช่วยฟังเสียงสามารถติดต่อแม่ได้โดยตรง

ตนทำงานรับจ้าง ไม่มีรายได้หลักทำให้ไม่มีเงินไปรักษา สำคัญที่สุดคืออยากให้พาลูกไปรักษา เชื่อว่าหากมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลรักษา อาจจะทำให้ได้ยินเสียงและพูดได้ และอยากให้ลูกสาวฝาแฝดมีการศึกษา