นายกฯ ประกาศกลางสภาไม่อุ้ม ทุจริต

นายกฯ ประกาศกลางสภาไม่อุ้ม ทุจริต

นายกฯ ประกาศกลางสภาไม่อุ้ม ทุจริต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ แจงวุฒิสภา เตรียมร่วมมือกับภาคเอกชนทำข้อตกลงปิดช่องทางการทุจริต ระบุภาคธุรกิจจะรวมตัวทำข้อตกลงไม่ติดสินบน ไม่ฮั้ว 

การประชุมวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 มี น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา อภิปราย ว่า มีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องหนี้สาธารณะและภาระหนี้ แม้ว่าปัจจุบันปริมาณหนี้สาธารณะจะยังไม่ถึงร้อยละ 60 ตามเกณฑ์ แต่ขอฝากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลให้ระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด และป้องกันการทุจริต ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีภาพเป็นมิสเตอร์คลีน จึงไม่น่าเป็นห่วง แต่รู้สึกห่วงบุคคลรอบข้าง โดยเฉพาะภาคเอกชน ระบุว่า รัฐบาลมีปัญหาทุจริตมาก รวมไปถึงการรั่วไหลของงบประมาณในโครงการเพื่อการลงทุนของรัฐ รัฐบาลจึงไม่ควรปล่อยให้มีการทุจริตการใช้งบประมาณของโครงการระดับท้องถิ่น

"หวังว่านายกฯ ที่เป็นคนรุ่นใหม่จะไม่ละเลย โดยปล่อยให้โครงการหลายๆ โครงการที่มีปัญหา ผ่านไปได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน ,โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 จำนวน 6 หมื่นล้านบาท ,โครงการรถไฟฟ้าสีม่วง โครงการจัดซื้อคอมพิวเตอร์กระทรวงมหาดไทย 3,000 ล้าน โครงการบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด โครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช โครงการขยายถนนขึ้นเขาใหญ่ และการโยกย้ายแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เป็นจริงหรือไม่ที่มีข่าวนำงบประมาณไปฝากไว้กับผู้ว่าฯ แล้วให้ฟังคำสั่งจาก ส.ส.ในพื้นที่ บางกระแสถึงขั้นว่า ส.ว.ในบางพื้นที่ก็ขอมีเอี่ยวด้วย " นายสมชาย กล่าว

ส.ว.สรรหา กล่าวอีกว่า ยังมีโครงการที่อยู่นอกงบประมาณ เช่น การเปิดประมูลใบอนุญาต 3 จี ซึ่งไม่ทราบว่าเหตุใดคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จึงรีบเปิดประมูล ทั้งที่กำลังจะมีคณะกรรมการกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ....(กสทช.) และเมื่อเปิดให้ยื่นซองประมูลก็มีข้อครหาวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีการฮั้วประมูลของบริษัทผู้ให้บริการบางราย

ด้านนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า รัฐบาลขอยืนยันและให้ความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาการทุจริต ซึ่งกรณีที่ภาคเอกชนวิจารณ์ว่า การทุจริตคอร์รัปชั่นยังเป็นปัญหาที่รุนแรงมาก รัฐบาลจะร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้รูปแบบของการทุจริตในปัจจุบันจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มี 3 ฝ่ายร่วมมือกัน คือ ฝ่ายการเมือง ราชการ และธุรกิจ อย่างน้อยในวันนี้ ผู้นำรัฐบาลและภาคธุรกิจยืนยันจะช่วยกันแก้ปัญหานี้ร่วมกัน โดยสภาหอการค้าไทยได้ตั้งคณะทำงานเพื่อมาทำงานร่วมกับภาคราชการ โดยมีตนเป็นผู้กำกับดูแล ซึ่งภาคธุรกิจเอกชนจะรวมตัวกันทำข้อตกลงจะไม่ติดสินบน ไม่สมยอม ไม่รับงานหรือทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ได้บอกกับภาคเอกชนว่า ธุรกิจที่มีปัญหาเรื่องนี้มากคือ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จึงจะเริ่มดำเนินการให้ภาคธุรกิจก่อสร้างเร่งทำข้อตกลง โดยขอให้ข้อมูลปัญหาการทุจริตในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเกิดขึ้นในขั้นตอนใด บ้าง ประเด็นใดที่ภาคราชการต้องแก้ไขกฎระเบียบ เพื่อป้องกันการทุจริต โดยจะเร่งรัดให้มีผลออกมาก่อนสิ้นปี ส่วนโครงการที่มีปัญหาวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ ขอชี้แจงว่า บางกรณีเป็นเรื่องความเห็น บางกรณีมีมูลความจริง แต่กรณีที่มีปัญหา เพราะไม่สามารถยืนยันข้อมูลข้อเท็จจริงได้ ดังนั้นรัฐบาลขอยืนยันว่า โครงการที่่มีปัญหารัฐบาลจะไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไป อย่างโครงการรถเมล์ซึ่งไม่ได้เริ่มในรัฐบาลชุดนี้ แต่ได้ปรับลดจำนวนรถและวงเงินงบประมาณ มีการศึกษาตัวเลขต้นทุน พร้อมปรับรูปแบบข้อเสนอให้แบ่งสัญญาออกเป็นหลายสัญญาแทนที่่จะเป็นสัญญา เดียว

"ความตั้งใจของโครงการนี้ มันไม่ผิด คือ ต้องการปฏิรูปรถเมล์โดยให้มีรถที่ดีขึ้น ใช้พลังงานสะอาด ประหยัดพลังงาน เอาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้เพื่อแก้ปัญหาทุจริต แต่เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า หากดำเนินการตามที่คิดจะแก้ปัญหาของ ขสมก.ได้ทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งพบว่า มีปมที่ต้องแก้ไขทั้งเรื่องการลดจำนวนพนักงาน และยังมีโครงการรถเมล์ฟรี ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อโครงการรถเมล์เอ็นจีวี รวมไปถึงการแก้ไขปัญหากับรถร่วมบริการด้วย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิ การเห็นชอบในหลักการให้ขยายสนามบินไม่ได้หมายความว่า จะต้องขยายพื้นที่สนามบิน หรือมีรันเวย์ที่สามเท่านั้น การอนุมัติหลักการ คือ การเตรียมอำนวยความสะดวกในการขนถ่ายผู้โดยสาร เนื่องจากจะมีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ขณะที่ศักยภาพของสนามบินสุวรรณภูมิยังไม่ได้ขยายจนถึงเพดานที่จะรองรับผู้ โดยสารได้ถึง 67 เที่ยวบิน ทั้งนี้ยังได้ศึกษาถึงโอกาสในการใช้สนามบินดอนเมืองเพื่อรองรับผู้โดยสาร เพิ่มด้วย สำหรับเรื่องบัตรสมาร์ทการ์ดได้เร่งดำเนินการตามคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฏี กา จึงขอยืนยันว่า ทุกเรื่องรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย และได้เอาใจใส่และเอาจริงกับทุกเรื่อง จึงขอให้ช่วยส่งข้อมูลมาให้รัฐบาลมากที่สุด เพื่อรักษาผลประโยชน์ของส่วนร่วม

"ผมเชื่อว่าการทำงานร่วมกับภาคเอกชนจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลงได้ ผมไม่ปฏิเสธครับข่าวมันเยอะ และไม่ได้สบายใจกับการได้เห็นข่าว แต่ให้ความมั่นใจได้ว่าจะรักษาประโยชน์ของประชาชน โดยไม่อุ้มชูกับสิ่งที่ผิดเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook