แทบทรุด ลูกชายแค่ 5 ขวบ แม่เอะใจ "ขนยาว" พบต่อมหมวกไตล้า เพราะสิ่งที่ให้กินทุกวัน!

แทบทรุด ลูกชายแค่ 5 ขวบ แม่เอะใจ "ขนยาว" พบต่อมหมวกไตล้า เพราะสิ่งที่ให้กินทุกวัน!

แทบทรุด ลูกชายแค่ 5 ขวบ แม่เอะใจ "ขนยาว" พบต่อมหมวกไตล้า เพราะสิ่งที่ให้กินทุกวัน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่แทบทรุด ลูกชายอายุแค่ 5 ขวบ เอะใจขนยาวผิดปกติ ไปตรวจพบปัญหาต่อมหมวกไต หมอชี้สาเหตุ "ของบำรุง" ที่ให้กินทุกวัน!

เคสทางการแพทย์ที่ถือเป็นอุทาหรณ์ คุณแม่ที่อาศัยอยู่ในฮานอย ประเทศเวียดนาม ดีใจมากเมื่อลูกชายน้ำหนักเพิ่มขึ้น 0.5 กก. คิดไปว่าสามารถเลี้ยงดูได้เป็นอย่างดี โดยไม่คาดคิดว่าจะทำให้ลูกต้องประสบกับภาวะ "ต่อมหมวกไตวาย"

ตามรายงานพบว่า เด็กชายอายุ 5 ขวบ น้ำหนักเพิ่มขึ้นช้ามาตั้งแต่เด็กๆ แม้ว่าผู้เป็นแม่จะพยายามใช้หลายวิธีแต่ก็ยังไม่เห็นผล ลูกยังคงตัวเล็กกว่าเด็กในวัยเดียวกันมาก ไม่ว่าไปที่ไหนก็มักจะถูกผู้คนตั้งคำถามเสมอ ทำให้แม่อยู่ภายใต้แรงกดดันทางจิตใจ ดังนั้นเมื่อได้ยินเคล็ดลับใดๆ ที่จะเป็นวิธีเพิ่มน้ำหนักให้ลูกได้เธอก็จะปฏิบัติตามเสมอ กระทั่งเพื่อนแนะนำให้ซื้อยาที่อ้างว่าเป็น "ยาแผนตะวันออก"

ผู้เป็นแม่กล่าวว่า “หลังจากใช้ต่อเนื่อง 3 เดือน ในที่สุดลูกก็เพิ่มขึ้นประมาณ 0.5 กก. ฉันก็ดีใจมาก” อย่างไรก็ตาม ในเวลาเดียวกันร่างกายของลูกชายกลับมีมีขนหนาผิดปกติ โดยเฉพาะบนใบหน้า ไหล่ แขน หลัง และขา ด้วยความเป็นห่วงจึงต้องพาไปตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ผลการตรวจพบว่าคอร์ติซอล (ฮอร์โมนต่อมหมวกไต) ในเลือดของเด็กชายลดลงอยู่ในระดับ 56.9 nmol/L (ระดับปกติคือ 140-700 nmol/L) การสังเกตทางคลินิกพบว่ามีผมหนา ใบหน้ากลม ผิวบาง และผิวคล้ำที่หลังคอ สุดท้ายได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะต่อมหมวกไตไม่วาย เนื่องจากการใช้ยาที่มีคอร์ติโคสเตียรอยด์มากเกินไป ต้องผู้ป่วยได้รับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและนัดตรวจติดตามผล

แพทย์แผนกกุมารเวชศาสตร์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คอร์ติซอลเป็นฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมหมวกไต ซึ่งควบคุมการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย และต่อสู้กับความเครียดคอร์ติคอยด์ เป็นสารต้านการอักเสบที่รุนแรง ซึ่งมักพบในยาหลายชนิดเพื่อรักษาโรคเฉพาะทาง เช่น ยาหยอดและสเปรย์ในหู จมูก และลำคอ ยาเฉพาะที่ในโรคผิวหนัง ยาแก้อักเสบในช่องปาก และสารนี้ยังถูกใช้ในยาที่ไม่ทราบแหล่งที่มาโดยมีโฆษณาอ้างว่า "ช่วยให้เด็กกินอาหารได้ดีและเพิ่มน้ำหนัก"

คุณหมอเตือนว่า การใช้คอร์ติโคสเตียรอยด์ในปริมาณสูงเป็นเวลานาน โดยไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อระบบอวัยวะต่างๆ เช่น

  • อาการบวมน้ำ, ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
  • เพิ่มความเสี่ยงของความผิดปกติของระบบเผาผลาญ: เบาหวาน, ไขมันในเลือดผิดปกติ;
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนัง ผิวบาง รอยแตกลาย ช้ำง่าย เป็นสิว
  • กล้ามเนื้อลีบ, โรคกระดูกพรุน, การชะลอการเจริญเติบโตในเด็ก
  • ต้อกระจก, ต้อหิน

ในปัจจุบันผู้คนยังคงมีนิสัยชอบซื้อยารักษาตัวเอง ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากการใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เกินขนาด ดังเช่นในกรณีของเด็กชายอายุ 5 ขวบรายข้างต้น แนะนำให้ระมัดระวังการใช้ยาที่ไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งมีอวดอ้างฤทธิ์เพิ่มน้ำหนัก รักษาอาการเบื่ออาหาร ลดอาการเจ็บคอและไอได้อย่างรวดเร็ว รักษาผิวหนังอักเสบ บรรเทาอาการปวด ข้อบวม เพราะอาจผสมกับคอร์ติโคสเตียรอยด์ได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook