กินอาหารใส่ถุงแบบนี้ แม่ป่วยมะเร็ง ลูกแค่ ป.3 เข้าวัยสาวแล้ว นำหายนะมาสู่ทั้งครอบครัว!

กินอาหารใส่ถุงแบบนี้ แม่ป่วยมะเร็ง ลูกแค่ ป.3 เข้าวัยสาวแล้ว นำหายนะมาสู่ทั้งครอบครัว!

กินอาหารใส่ถุงแบบนี้ แม่ป่วยมะเร็ง ลูกแค่ ป.3 เข้าวัยสาวแล้ว นำหายนะมาสู่ทั้งครอบครัว!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การทานอาหารจากถุงพลาสติก สะดวกแบบที่หลายๆ คนชอบทำ แต่อาจนำหายนะมาสู่ทั้งครอบครัว เจอเคสแม่เป็นมะเร็งมดลูก และลูกสาว ป.3 เข้าสู่วัยแรกรุ่น

ตามรายงานพบว่า คุณหลิน (นามสมมุติ) หญิงอายุ 40 ปี ที่อาศัยอยู่ในใต้หวัน ไม่อยากเชื่อว่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เรื่องอาหารการกินที่ทำจนเป็นนิสัย สุดท้ายอาจทำให้ทั้งครอบครัวตกอยู่ในโศกนาฏกรรมได้ จึงตัดสินใจนำเรื่องราวมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์

คุณหลินบอกว่า เนื่องจากงานประจำของเธอยุ่งมากพอแล้ว จึงไม่ค่อยได้ทำอาหารทานเอง แต่มักจะหิ้วถึงพลาสติกที่มาอาหารปรุงสุกเมนูหลากหลายกลับบ้านทุกวัน บางครั้งเพราะความรีบร้อนหรือความสะดวก จึงแค่เอาถุงวางใส่ชามแล้วกินจากในถุงทันที โดยไม่เทอาหารใส่จานชามดีๆ

เพราะนึกไม่ถึงว่านิสัยที่ทำมาเช่นนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จะนำไปสู่โศกนาฏกรรมด้านสุขภาพสำหรับคนทั้งบ้าน ครอบครัวที่มีสมาชิก 4 คนราวกับถูกวางยาพิษมาเรื่อยๆ ท้ายที่สุดตัวเธอเองเป็นมะเร็ง และลูกสาวที่เพิ่งเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ก็เข้าสู่วัยแรกรุ่นเร็วมากๆ

ทั้งนี้ เมื่อประมาณครึ่งปีที่แล้ว คุณหลินเคยเข้ารับการรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ แม้หลังจากใช้ยาไปหลายครั้งแต่อาการก็ยังคงกำเริบขึ้นบางครั้ง ในระหว่างนั้นเธอสังเกตว่าลูกสาวชั้น ป.3 ก็มีอาการผิดปกติมากมาย จึงตัดสินใจพากันไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกลาง

โดยไม่คาดคิด ผลปรากฏว่าเธอเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และถูกบังคับให้ต้องผ่าตัดมดลูกออกเพื่อเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้ส่วนลูกสาวของเธอต้องทนทุกข์ทรมานจากการเข้าสู่วัยแรกรุ่นก่อนวัยอันควร

การทดสอบที่เกี่ยวข้องแสดงให้เห็นว่า ทั้งแม่และลูกสาวมีระดับฮอร์โมนสิ่งแวดล้อมจากสาร DEHP (di phthalate) ซึ่งเป็นสารเคมีที่นิยมใช้ในการผลิตพลาสติก โดยพบในร่างกายสูงกว่าระดับปกติหลายเท่า คุณหมอกล่าวว่าสาเหตุมาจากนิสัยชอบกินอาหารประเภทซุปร้อนๆ ในถุงพลาสติกมานานหลายปี

“เมื่ออุณหภูมิสูงสัมผัสกับพลาสติก สารพิษ เช่น DEHP และ BPA จะถูกปล่อยออกมาอย่างง่ายดาย” คุณหมออธิบาย ซึ่งสารเหล่านี้เป็นฮอร์โมนสิ่งแวดล้อม มีโครงสร้างคล้ายกับฮอร์โมนในร่างกายมนุษย์ สามารถแทรกซึมรบกวนระบบต่อมไร้ท่อ ส่งผลต่อการทำงานปกติของฮอร์โมน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง DEHP เป็นพลาสติไซเซอร์ที่มักพบในผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน เมื่อเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดมะเร็ง, วัยแรกรุ่นก่อนวัยอันควร และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อระบบประสาท ทำให้อ้วน โรคเบาหวาน เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ทำลายตับและไต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือจะเป็นอันตรายต่อเด็กมาก และผลร้ายกระทบจะคงอยู่ตลอดไป

ในเวลาต่อมา คุณหมอจึงขอให้สามีและลูกชายของคุณหลินมาตรวจร่างกายด้วย ผลก็คือลูกชายคนโตของเธอที่เพิ่งเข้าชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ก็มีสัญญาณเริ่มแรกของการเข้าสู่วัยแรกรุ่น และความผิดปกติของฮอร์โมนด้วย ส่วนสามีของเธอสะสมสารพิษในตับและไต ยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคร้ายแรง แต่ก็ไม่สามารถมองข้ามได้

จากกรณีอุทาหรณ์ของครอบครัวคุณหลิน จึงเตือนประชาชนให้ลดการใช้ถุงพลาสติกเพื่อเก็บอาหารที่ร้อนหรือมีกรด รวมทั้งภาชนะพลาสติกที่มีคุณภาพต่ำ นอกจากนี้หากพบความผิดปกติ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ แต่คงอยู่อย่างไม่หาย ควรรีบไปพบแพทย์ก่อนที่จะสายเกินไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook