"ไอซ์ พาริส" เผยเหตุโพสต์จอดำ เพราะเผลอนึกถึงความรักในอดีต

ก่อนหน้านี้ทำเอาหลายคนตกใจ หลังนักร้อง - นักแสดงหนุ่ม "ไอซ์ พาริส" ออกมาโพสต์ภาพจอดำและเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นสีดำด้วย จนเพื่อนๆ และแฟนๆ แห่กันเป็นห่วงว่าเกิดอะไรขึ้นกับ "ไอซ์" 

ล่าสุด "ไอซ์" ได้ไปร่วมประสบการณ์สุดพิเศษในงาน ICONIC YOU ที่ทาง เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย และ ธนบุรีพานิช ร่วมกันจัดขึ้น ณ โครงการ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ก็ได้เปิดใจถึงเหตุที่โพสต์จอดำให้ทราบกัน

ล่าสุดเปิดตัวเพลงใหม่ ?

"ครับ ก็ดีครับ เป็นครั้งแรกที่ทำเพลงช้า เพลงเศร้าครับผม ฟีดแบ็กก็ดีเหมือนกันครับผม มีหลายๆคนชอบกัน คนก็ฟังเยอะขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ไปอยู่ในท็อป 5 Popular ใน Spotify แล้ว ก็รู้สึกดี รู้สึกดีใจ เพราะว่าตอนแรกกลัวว่าทำเพลงเศร้าแล้วจะมีคนเข้าใจไหม เพราะปกติทำแต่เพลงแฮปปี้ตลอด (ทำไมครั้งนี้อยากทำเป็นแนวเศร้า ?) เพราะว่ามันเป็นแบบเพลงที่เล่าเกี่ยวกับช่วงที่เราอกหักครับ ช่วงที่เรากำลังเฮิร์ทๆ (อินสไปร์จากตัวเอง?) เลยครับ มันคือความจริงเลย คือจริงๆ ผมทำอีพีนี้ทั้ง 5 เพลงเนี่ย มันเป็นเรื่องราวจากชีวิตเราตรงๆ เลย"

เอาช่วงไหนมาเขียนเป็นเพลง ?

เพลงล่าสุดใช่ไหมครับ ตอนที่ผมเริ่มเขียนคือช่วงที่เพิ่งโสดแรกๆ เลยครับ แผลสดเลย มันก็เลยเป็นช่วงที่เหมือนเป็นช่วงที่มีเรื่องที่อยากจะเล่าเยอะ มีเรื่องที่อยู่ในใจเยอะ”

มันก็เลยเป็นเหตุที่เราขึ้นจอดำ?

"ใช่ แล้วเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมทำนานที่สุดในชีวิตเลยด้วย คือผมรู้สึกว่าไม่รู้ทำไม มันเป็นความรู้สึกแบบทำยังไงก็ไม่ดีสักที ทำยังไงก็ไม่กล้าปล่อยให้คนฟังสักที เพราะมันเหมือนแบบเป็นความจริงในชีวิตเรา มันเป็นเรื่องเศร้าในชีวิตเรา แล้วเหมือนเรามีความไม่พร้อมอะไรบางอย่างในการที่จะปล่อยแล้ว พอถึงวันที่ปล่อยจริงๆ ผมก็เหมือนกลับมานอยด์อะไรบางอย่าง แล้วก็กลับมาฟังอีกที มันก็เหมือนนึกย้อนไปถึงช่วงเวลานั้น มันก็เลยเหมือนทำให้เรากลับไปสู่ช่วงนั้นแว๊บนึง ก็เลยทำให้เราเผลอโพสต์ลงไป ซึ่งไม่ดีนะทุกคน ผมมาเรียนรู้ในวิธีที่ไม่ควรเลยว่า เราไม่ควรจะโพสต์ทุกอย่างที่เรารู้สึกขนาดนั้น"

แล้วอะไรทำให้เราตัดสินใจ ว่าปล่อยให้ทุกคนได้รับรู้?

"คือผมทำอีพี 5 เพลงใช่ไหมครับ แล้วผมก็บอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าอีพีนี้มันจะต้องจบภายในปีนี้ เราวางแผนทุกอย่างไว้อยู่แล้ว แล้วแผนนั้นมันโดนเลื่อนออกมาพอสมควร เลื่อนออกมาหลายรอบด้วย สุดท้ายมันเริ่มเป็นการเสียเงิน เสียเวลาเปล่าๆ แล้ว ก็เลยรู้สึกว่ามันต้องปล่อยแล้ว มันก็ดีพอแล้ว มันดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แล้ว จริงๆ คือเพลงเนี่ยผมอัดสามรอบเลยนะ ไม่รู้สิ คือผมแค่มีความรู้สึกว่ามันไม่ดีพอสักที” (ความดีพอของไอซ์คือแบบไหน ?) “ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไร จนเราต้องนั่งจับเข่าคุยกับโปรดิวเซอร์เลยว่า รู้ใช่ไหมว่ามันก็มีคนประเภทหนึ่งเหมือนกัน ที่แก้แล้ว แก้ไปเรื่อยๆ จนไม่มีวันปล่อยสักที จนสุดท้ายก็ไม่ได้ปล่อยอะไรเลย"

คือมันเป็นชีวิตจริงของเราพอเราทำมันก็ทำให้เราหวนกลับไปถึงช่วงนั้น?

"ก็ด้วย ใช่ครับ แล้วมันเหมือนว่าเป็นครั้งแรกของผมด้วยที่ผมจะเปิดเผยด้านที่เราอ่อนแอให้กับทุกคนได้เห็น มันก็เลยเหมือนมีความกลัวอะไรบางอย่าง” (แต่ตอนปล่อยเพลงคือแข็งแรงแล้ว ?) “แข็งแรงแล้ว แข็งแรงแล้วเลย เพลงชื่อ ส่วนลึก ลองฟังดูครับ"

สามรอบที่เราอัดมีเสียน้ำตาบ้างไหม?

"มี มีครับ” (ทุกรอบเลยไหม ?) ทุกรอบเลยไหม ก็น่าจะเกือบๆ มันแค่รู้สึกว่ามันเป็นเพลงช้า มันต้องร้องให้เพราะ มันต้องร้องให้อารมณ์มันต้องถึงด้วย” (ที่บอกว่าเพลงนี้ทำงาน นานกี่เดือน ?) โห..ก็ตั้งแต่ช่วงเขียนแรกๆ คือ 2-3 เดือนแรกที่โสด แล้วก็มาปล่อยช่วงนี้ ซึ่งก็โสดมาเกือบปีแล้ว ก็นานอยู่ครับ หลายเดือน"

แล้วพอมาร้องตอนนี้มันยังหวนกลับไปคิดภาพเก่าๆ อีกไหม ?

"มันก็มี อย่างเมื่อวานนี้ผมก็งานแฟนไซน์ของอีพีนี้ ก็เอาเพลงนี้มาร้อง มันก็มีบ้าง แต่ว่ามันก็เหมือนตอนนี้ปล่อยออกไปแล้ว แล้วฟีดแบคกลับมาที่มันดี มันเลยเหมือนได้คลายอะไรบางอย่างของเราออกไป"

อีพีอัลบั้มนี้มีเพลงช้าเพลงเดียวใช่ไหม ?

"มีสองเพลงครับ คือเพลงนึงแต่งให้กับหัวใจของเรา แล้วก็อีกเพลงนึงแต่งให้กับคุณพ่อที่เสียไปแล้ว ก็จะเป็นเพลงเศร้า เพลงช้า 2 เพลงที่มี แล้วก็อีก 3 เพลงเป็นเพลงแฮปปี้ที่ทุกคนได้ฟังไปแล้ว"

พอปล่อยเพลงไปแล้วอดีตคนรักของเราเขาได้ฟังไหม ?

"ผมคิดว่าเขาน่าจะได้ฟัง แต่ผมก็ไม่ได้ฟีดแบคอะไร ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นยังไงครับผม"

แล้วตอนที่โพสต์จอดำมันมีฟีดแบ็กมาถึงเรายังไงบ้าง เพราะทุกคนเป็นห่วง จนเราจะต้องออกมาโพสต์ชี้แจง?

"เยอะมาก ทุกคนทักเข้ามาเป็นห่วง ทุกคนโทรมา ทุกคนไม่เคยเห็นเราในเวอร์ชั่นนี้ ผมเลยรู้สึกว่าผมอยากจะขอโทษทุกคนตรงนี้ด้วยที่ทำให้ตกใจ เพราะจริงๆ เราแค่รู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรขนาดนั้น แต่เราแค่เหมือนมีช่วงที่มันวูบนึกกลับไปนึกถึงช่วงนั้นวูบนึง มันก็เลยรู้สึกว่ามันไม่น่าเลย ไม่น่าทำให้ทุกคนตกใจ ทำให้คนที่เขารักเราอ่ะเขาเครียดไปด้วย ไม่น่าทำอย่างนั้นเลย ก็เลยอยากมาขอโทษ"


คือมันเศร้าจนหลายคนนึกไปว่าเราไม่มูฟออนหรือเปล่า?

"อ่อไม่ครับ มันคือเนื้อเพลงเลยครับ แคปชั่นใช่ไหมครับ มันคือเนื้อเพลงที่ผมปล่อยเลย แต่ตอนนี้โอเคแล้ว"

ณ วันนี้คำว่ามูฟออนใช้กับไอซ์ได้หรือยัง ?

"ถ้าเกิดพี่จะบอกว่ามูฟออนคือมีคนใหม่แล้วก็อาจจะยังใช้ไม่ได้ แต่ถ้าถามว่ามีความสุขไหม ก็มีความสุขแล้ว แล้วยิ่งเมื่อวาน เราไปงานแฟนไซน์ของอีพีนี้แล้วมีคนมาเยอะมาก เราก็เจอแฟนคลับ แล้วทุกคนก็มาเหมือนให้กำลังใจ มันยิ่งดีมากๆ แล้วตอนผมปล่อยเพลงนี้ พี่ย้ง (ทรงยศ) พ่อของผม คือชีวิตนี้ไม่เคยชมอะไรเลยนะ อยู่ๆ ทัก DM มาคำเดียวว่า “เพราะ” มันเลยเป็นสิ่งที่ทำให้เราเหมือนมูฟออนได้มั้ง มันฮีลใจได้ว่าพี่ย้งทักมาเลยอ่ะ อยู่ๆ ทักมาเลยคำเดียวด้วย เขาเป็นคนที่กล่าวอะไรแบบนี้ยากมาก แล้วเขาชมเรา เราก็เลยรู้สึกแฮปปี้ ถือว่า complete แล้ว"

ฝากผลงานหน่อย ?

"ก็ขอฝากไว้ด้วยนะครับผม กับอัลบั้มของผมนะครับชื่อว่า mind นะครับ ตอนนี้ก็ปล่อยไว้หมดแล้วสามารถไปทำกันได้ในทุกช่องทางทุกสตรีมเลยแล้วก็มีเอ็มวีอยู่ใน YouTube Channel ช่อง ไอซ์พาริส เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ด้วยครับ"

ล่าสุดไปเจอพี่เจมส์ (จิรายุ) มาเป็นยังไงบ้าง ?

"เจมส์จิ โอ้โหเพชรใหญ่มาก คือล่าสุดวันเกิดผมเดือนที่แล้ว เขามาด้วยกันทั้งคู่เลย ทั้งพี่โฟม ทั้งพี่เจมส์เลย แล้วก็ใส่แหวนมาเลย และผมก็แบบ Bro! That’s a big rock มันใหญ่มาก ผมเดินไปแบบ That’s a big rock แบบตะโกนใส่หน้าเขาเลย ก็ยินดีกับเขา แต่ผมก็ยังเทคเครดิต ว่าผมเป็นคนเปิดตัวเขาสองคนนะ ผมยังเทคเครดิตอยู่ ใน TikTok ยังมีวิดีโอนั้นอยู่ วิดีโอที่ผมทำตอนที่เรากำลังนั่งรออยู่ที่แอร์พอร์ต ผมเป็นคนเปิดตัวให้เขา เขาเลยถึงมีวันนี้ได้"

อย่างไปเจอล่าสุด เราหมั่นไส้คู่ไหนมากกว่ากัน ระหว่างคู่ ”โบว์-อาเล็ก“ หรือ ”เจมส์จิ - โฟม“ ?

"เมื่อวันก่อนผมเพิ่งได้ไปบ้านพี่เจมส์จิครั้งแรก โอ้โห…อลังการยิ่งใหญ่ มีน้องหมาด้วย (เป็นคนแรกที่ไปเรือนหอเขาอีก ?) ” ไม่ ไม่ มีคนไปเยอะ เมื่อวันก่อนนี้เอง ก็มีพี่เกรท (วรินทร)ก็ไป มีผม มีพี่เจมส์ ไปนั่งชิลกัน แล้วแบบคือบ้านสวยมาก ยิ่งใหญ่ แล้วที่เราได้ไปบ้านเขา คือเราได้ไปงานแฟชั่นโชว์ด้วยกัน แล้วมากันทั้งสองคู่ แล้วนั่งใกล้ๆ ผมเลย คนนึงก็แบบเบบี๋ๆ คนนึงก็แบบงุ้งงิ้งๆ แล้วเราก็คือที่นั่งอยู่แบบ..(มองบน)“ (แล้วเราสะกิดพี่เกรทไหม ?) เราก็แบบ พี่เกรทๆ เอาไงดีอ่ะ พี่เขาก็แบบ ไม่ใช่เรื่องของกู พี่เกรทคือแบบชิลเกิน เขาชินแล้ว เขาพร้อมจะอยู่แบบคนโสดต่อไปเรื่อยๆ"

รู้สึกยังไงจากละครแล้วเข้ามาอยู่เป็นส่วนหนึ่งในแก๊งค์คนดีที่ไหน ?

"ใช่ ก็เป็นคนดี (เสียงสูง) ก็สนุกดีครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นแก๊งค์ใหม่ เป็นอีก vibe นึง แล้วทุกคน จะมีความโตๆ หน่อย ก็จะเป็นอีก vibe นึงมากๆ ไปนั่งคุยกับพี่เจมส์ เขาก็จะเริ่มคุยกันเรื่องเพื่อนมีลูก เพื่อนแต่งงานอะไรอย่างนี้ แล้วเราก็แบบ..อ๋อ เดี๋ยวอีกซักประมาณ 5-6ปี เราจะเป็นประมาณนี้ก็โอเคๆ (แล้วเกรทคุยอะไร ?) “พี่เกรท เขาไม่คุย เค้ายกอย่างเดียว"

คนเลยจับตาว่าเราเป็นน้องใหม่ของแก๊งค์ และลุ้นกันว่าเรากับพี่เกรทใครจะดีก่อนกัน ?

"ดูจากทรงหรอ ? ไม่รู้สิ ผมดูจากทรงพี่เกรทจะมีไหมอ่ะชีวิตนี้ (หัวเราะ) ผมคาดเดา ผมก็ไม่รู้ไง พี่เกรทเขาก็ดูแฮปปี้แล้ว เขาดูแบบสามารถอยู่กับแมวได้ สามารถใช้ชีวิตกับแมว เชียร์แมนยู แต่เขาก็ยังไม่เคยชวนไปดูแมวที่บ้านเลย ผมก็บอกอยู่ว่าไปบ้านพี่บ้างได้ไหม เขาก็บอกว่าบ้านเขาไม่ใหญ่เท่าบ้านเจมส์หรอก ประมาณนี้"