สาวสวยฉายา "เลดี้พิมาย" คนดังประจำอำเภอ จบชีวิตคาบ้านหรู เบาะแสอยู่ที่โพสต์สุดท้าย

สาวสวยฉายา "เลดี้พิมาย" คนดังประจำอำเภอ จบชีวิตคาบ้านหรู เบาะแสอยู่ที่โพสต์สุดท้าย

สาวสวยฉายา "เลดี้พิมาย" คนดังประจำอำเภอ จบชีวิตคาบ้านหรู เบาะแสอยู่ที่โพสต์สุดท้าย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวสวยฉายา "เลดี้พิมาย" คนดังประจำอำเภอ จบชีวิตคาบ้านหรู เกือบอาทิตย์ไม่มีใครรู้ เบาะแสอยู่ที่โพสต์สุดท้าย

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 พ.ย.67 ร.ต.อ.ประยูร เกติยะ รอง สว.(สอบสวน)สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนผูกคอตายอยู่ในบ้านหรูท้ายหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม ตร.ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยพันธ์ศรีนคร พบเป็นบ้านชั้นหรูชั้นเดียวบริเวณบ้านกว้าง ตรวจสอบภายในบ้านประตูหน้าต่างทุกบานถูกล็อกทั้งหมด ส่วนตรงห้องนอนยังเปิดแอร์ไว้อยู่ และส่งกลิ่นเหม็นออกมาด้านนอก เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้วิธีทุบลูกกุญแจด้านในจึงเปิดประตูเข้าไปด้านในได้

ตรวจสอบภายในห้องนอนพบสิ่งของกระจายทั่วห้อง ตรงหน้าต่างพบ ศพเจ้าของบ้านทราบชื่อ นางสาววรรณทิวา หรือฉายา เลดี้พิมาย อายุ 41 ปี  ใช้สายชาร์จโทรศัพท์ผูกคอติดกับลูกกรงหน้าต่างในห้องนอน สภาพศพนั่งคลุกเข่าขึ้นอืด สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน

สำหรับ นางสาววรรณทิวา หรือ เลดี้พิมาย เป็นที่รู้จักของวัยรุ่นในอำเภอพิมาย เป็นคนหน้าตาดี ค่อนข้างมีฐานะ เคยมีสามีเป็นชาวต่างชาติแต่ก็ได้เลิกรากันไปแล้ว เมื่อวันที่ 9 พ.ย.67 เลดี้พิมาย ได้โพสต์เฟชบุ๊ก ว่า จะมาลาทุกคนที่รัก ต่อจากนี้ไปไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ตามเป็นไปตามกาลเวลาบุญกรรม ฟ้าลิขิตมาแล้วหนีไม่พ้น

ซึ่งจากการสอบถาม นางสาวณัชนก อายุ 47 ปี บอกว่าตนอยู่บ้านใกล้กันซึ่งเป็นญาติพี่น้องกัน ตนเห็นผิดสังเกต เห็นผู้ตายเงียบๆ มาหลายวัน จึงเดินเข้าไปในบริเวณบ้านเมื่อไปถึงตรงห้องนอนของผู้ตายได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาในห้องนอน ตนได้ตะโกนเรียกไม่มีคำตอบ คิดว่าต้องเสียชีวิตไปแล้วหลายวัน จึงโทรศัพท์แจ้งให้แม่ของผู้ตายทราบและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

จากการสอบถาม นางสายทอง อายุ 74 ปี แม่ของผู้ตายบอกว่า ช่วงหลังลูกสาวมีอาการเปลี่ยนไป บางครั้งพูดมากจับใจความอะไรไม่ได้ และป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จนมาวันนี้รับทราบว่าลูกสาวผูกคอตัวเอง และไม่ติดใจจากการเสียชีวิต

จากนั้นหน่วยกู้ภัยนำศพส่งโรงพยาบาลพิมายเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุจากการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook