ขุมทรัพย์ใต้ทะเล! ญี่ปุ่น พบแร่ธาตุล้ำค่า ตีเป็นเงิน 9 แสนล้านบาท
เว็บไซต์ unilad รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ในญี่ปุ่นค้นพบแร่ดินมูลค่า 26,290,780,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 9 แสนล้านบาท ซึ่งการพบครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดำเนินต่อไปได้อย่างน้อยถึงทศวรรษหน้า
การสำรวจโดยมูลนิธินิปปอนและมหาวิทยาลัยโตเกียว พบว่ามีก้อนแมงกานีสหนาแน่นอยู่บริเวณก้นทะเลของเกาะมินามิ-โทริ-ชิมะ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงโตเกียวประมาณ 1,200 ไมล์
กลุ่มก้อนดังกล่าวอยู่ลึกลงไปจากระดับน้ำทะเล 5,700 เมตร ประกอบด้วยโคบอลต์และนิกเกิลหลายล้านเมตริกตัน เชื่อกันว่าพวกมันก่อตัวขึ้นเป็นเวลาหลายล้านปีก่อน โดยโลหะที่ถูกพัดพาในมหาสมุทรเกาะติดกับกระดูกปลาและยึดติดกับพื้นทะเล ตามรายงานของ Nikkei Asia
โคบอลต์และนิกเกิลเป็นองค์ประกอบสำคัญสองอย่างที่จำเป็นในการสร้างแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) และยังใช้ในการผลิตเครื่องยนต์ไอพ่น, กังหันก๊าซ และในกระบวนการทางเคมีอีกด้วย
การสำรวจพบโคบอลต์ประมาณ 610,000 เมตริกตัน และนิกเกิล 740,000 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวนเงินมหาศาล ซึ่งในตอนนี้ โคบอลต์ 1 เมตริกตัน มีมูลค่า 24,300 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่นิกเกิลมีมูลค่า 15,497 เหรียญสหรัฐ ตามตัวเลขตลาดจาก Trading Economics
จากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ง่ายๆ หมายความว่าโคบอลต์ที่พบ 610,000 ตัน มีมูลค่า 14,823,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะที่นิกเกิล 740,000 ตัน มีมูลค่า 11,467,780,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นทำให้มียอดรวมที่น่าตื่นตะลึงที่มูลค่า 26,290,780,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 9 แสนล้านบาท
แน่นอนว่า เช่นเดียวกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ราคาตลาดสามารถผันผวนได้ ซึ่งหมายความว่าบางครั้ง แร่ธาตุอาจมีมูลค่ามากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ และราคายังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับแรงกดดันด้านอุปสงค์จากอุตสาหกรรม EV และการจัดเก็บพลังงาน
ช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ มีการค้นพบแร่ธาตุหายากประมาณ 230 ล้านตัน หลังจากทีมงานสำรวจพื้นที่ก้นทะเล 100 แห่งโดยใช้ยานพาหนะใต้น้ำควบคุมจากระยะไกล นอกจากนี้ เชื่อกันว่าก้อนแร่ธาตุเหล่านี้ยังมีทองแดงซึ่งเป็นองค์ประกอบที่มีคุณค่าอีกชนิดหนึ่งอยู่ด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือก้อนแมงกานีสเหล่านี้ถูกค้นพบครั้งแรกในการสำรวจเมื่อปี 2016 และผู้เชี่ยวชาญอ้างว่ามีหลายก้อนเกิดขึ้นรอบๆฟันของเมกาโลดอน ฉลามยุคก่อนประวัติศาสตร์
จากการสำรวจครั้งล่าสุด ยาสุฮิโระ คาโตะ ศาสตราจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยาทรัพยากรของมหาวิทยาลัยโตเกียว กล่าวว่า ผู้ขุดเจาะมีแผนที่จะยกแร่ประมาณ "สามล้านตันต่อปี" ขึ้นบก และจะพัฒนาดำเนินต่อไปอย่างให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลให้เหลือน้อยที่สุด
ทีมงานจะใช้เรือขุดแร่ในต่างประเทศเพื่อยกก้อนหลายพันตันต่อวันตั้งแต่ปี 2025 ด้วยการใช้โคบอลต์และนิกเกิลจากมหาสมุทร ประเทศญี่ปุ่นจะสามารถลดการพึ่งพาประเทศอื่นๆ และตอบสนองความต้องการแบตเตอรี่ EV ภายในได้ตามข้อมูลของ Interesting Engineering
"ท้ายที่สุดแล้ว เราคาดหวังว่าผลการวิจัยของเราจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของญี่ปุ่นโดยการสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศตั้งแต่ -การขุดทรัพยากร- ไปจนถึง -การผลิต- และทำให้ญี่ปุ่นเป็นชาติที่มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี และมหาสมุทรอย่างแท้จริง" แถลงการณ์จากมหาวิทยาลัยโตเกียวระบุ