สาววัย 17 ช็อก เป็นมะเร็งปากมดลูก แม่คิดว่าลูกเกเร ด่ากลาง รพ. ก่อนหมอเฉลยสาเหตุ

สาววัย 17 ช็อก เป็นมะเร็งปากมดลูก แม่คิดว่าลูกเกเร ด่ากลาง รพ. ก่อนหมอเฉลยสาเหตุ

สาววัย 17 ช็อก เป็นมะเร็งปากมดลูก แม่คิดว่าลูกเกเร ด่ากลาง รพ. ก่อนหมอเฉลยสาเหตุ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เด็กสาววัย 17 เป็นมะเร็งปากมดลูก แม่คิดว่าลูกสาวออกนอกลู่ ด่ากลางลั่น รพ. กระทั่งหมอบอกความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้

หลายคนเข้าใจผิดว่า การไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จะทำให้ปลอดภัยจากไวรัส HPV และมะเร็งปากมดลูก แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้นเลย

เมื่อไม่นานมานี้ มีเรื่องราวที่สะเทือนใจของเด็กสาววัย 17 ปีชื่อ 'เสี่ยวเหมย' นักเรียนมัธยมหญิงในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เธอพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 ทั้งที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน

อาการของเสี่ยวเหมยเริ่มต้นด้วยอาการปวดในอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง มีประจำเดือนบ่อยถึง 3-4 ครั้งต่อเดือน และปวดท้องประจำเดือนรุนแรงจนลามไปถึงเอว ครอบครัวของเธอคิดว่าเป็นเพียงปัญหาประจำเดือนที่ผิดปกติหรืออาการเมื่อยล้าจากการเรียนหนัก

แต่ผลการวินิจฉัยจากแพทย์กลับเผยว่า เธอเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 ซึ่งก้อนเนื้อร้ายได้ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียง รวมถึงบริเวณอุ้งเชิงกราน ต่อมน้ำเหลือง และกดทับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ สร้างความตกใจและกังวลใจให้กับครอบครัวอย่างมาก

ที่โรงพยาบาล แม่ของเสี่ยวเหมยระเบิดอารมณ์และตำหนิเธอเสียงดัง ด้วยความเชื่อว่าเธอประพฤติตัวไม่เหมาะสมและมีพฤติกรรมไม่ดีจนทำให้เกิดโรคร้ายนี้ เสี่ยวเหมยร้องไห้ออกมา พร้อมยืนยันว่า ชีวิตเธอมีแค่การเรียน อยู่แต่ในหอพักหญิง และกลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่เคยมีแฟนและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย

แพทย์ได้อธิบายว่า สาเหตุที่ทำให้เสี่ยวเหมยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในวัยเยาว์ และแม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็ตาม

แพทย์เตือนถึงเส้นทางการติดเชื้อไวรัส HPV ที่นอกเหนือจากการมีเพศสัมพันธ์

จากกรณีของเสี่ยวเหมย ศาสตราจารย์เฉียว โหย่วหลิน หัวหน้าภาควิชาสูตินรีเวช โรงพยาบาลประชาชนแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ระบุว่า นี่ไม่ใช่กรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก

ศาสตราจารย์เฉียว อธิบายว่า ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) เป็นกลุ่มไวรัสในตระกูล Papillomaviridae ซึ่งมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์ทำให้เกิดหูดตามผิวหนังหรือบริเวณอวัยวะเพศ ในขณะที่บางสายพันธุ์เชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องปากและลำคอ รวมถึงมะเร็งองคชาตและช่องคลอด สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงในการทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ HPV-16 และ HPV-18

พร้อมเน้นย้ำว่า แม้ไวรัส HPV จะแพร่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางเดียว มันสามารถแพร่ผ่านการสัมผัสผิวหนังโดยตรง เช่น การกอด การจูบ หรือการสัมผัสบริเวณที่มีแผล และยังอาจแพร่ผ่านการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น ผ้าขนหนู แปรงสีฟัน หรือเสื้อผ้า รวมถึงการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกระหว่างการคลอด

อีกทั้งแม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ไวรัสนี้ยังสามารถแพร่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด เช่น สระว่ายน้ำสาธารณะหรือห้องอาบน้ำสาธารณะ

นอกจากนี้ การติดเชื้อ HPV ไม่ได้หมายความว่าจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกในทันที กระบวนการจากการติดเชื้อจนถึงการเกิดมะเร็งอาจใช้เวลานานถึง 10-20 ปี กรณีของเสี่ยวเหมย แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุการติดเชื้อที่แน่ชัด แต่พบว่าเธอติดเชื้อ HPV มาหลายปีแล้ว และมีความเสียหายก่อนเกิดมะเร็งที่ไม่ได้รับการสังเกต จนกระทั่งพบว่าก้อนเนื้อร้ายได้ลุกลาม การตัดมดลูกก็ไม่สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป

จากเรื่องราวของเสี่ยวเหมย ศาสตราจารย์เฉียวได้เตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้หญิง การป้องกันการติดเชื้อ HPV ควรรวมถึงการดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพดี การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การดูแลสุขอนามัยในบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างถูกต้อง มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook