สาววัย 17 ช็อก เป็นมะเร็งปากมดลูก แม่คิดว่าลูกเกเร ด่ากลาง รพ. ก่อนหมอเฉลยสาเหตุ
เด็กสาววัย 17 เป็นมะเร็งปากมดลูก แม่คิดว่าลูกสาวออกนอกลู่ ด่ากลางลั่น รพ. กระทั่งหมอบอกความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้
หลายคนเข้าใจผิดว่า การไม่เคยมีเพศสัมพันธ์จะทำให้ปลอดภัยจากไวรัส HPV และมะเร็งปากมดลูก แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้นเลย
เมื่อไม่นานมานี้ มีเรื่องราวที่สะเทือนใจของเด็กสาววัย 17 ปีชื่อ 'เสี่ยวเหมย' นักเรียนมัธยมหญิงในเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน เธอพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 ทั้งที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน
อาการของเสี่ยวเหมยเริ่มต้นด้วยอาการปวดในอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง มีประจำเดือนบ่อยถึง 3-4 ครั้งต่อเดือน และปวดท้องประจำเดือนรุนแรงจนลามไปถึงเอว ครอบครัวของเธอคิดว่าเป็นเพียงปัญหาประจำเดือนที่ผิดปกติหรืออาการเมื่อยล้าจากการเรียนหนัก
แต่ผลการวินิจฉัยจากแพทย์กลับเผยว่า เธอเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 ซึ่งก้อนเนื้อร้ายได้ลุกลามไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียง รวมถึงบริเวณอุ้งเชิงกราน ต่อมน้ำเหลือง และกดทับกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ใหญ่ สร้างความตกใจและกังวลใจให้กับครอบครัวอย่างมาก
ที่โรงพยาบาล แม่ของเสี่ยวเหมยระเบิดอารมณ์และตำหนิเธอเสียงดัง ด้วยความเชื่อว่าเธอประพฤติตัวไม่เหมาะสมและมีพฤติกรรมไม่ดีจนทำให้เกิดโรคร้ายนี้ เสี่ยวเหมยร้องไห้ออกมา พร้อมยืนยันว่า ชีวิตเธอมีแค่การเรียน อยู่แต่ในหอพักหญิง และกลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่เคยมีแฟนและไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลย
แพทย์ได้อธิบายว่า สาเหตุที่ทำให้เสี่ยวเหมยป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกคือการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในวัยเยาว์ และแม้ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อนก็ตาม
แพทย์เตือนถึงเส้นทางการติดเชื้อไวรัส HPV ที่นอกเหนือจากการมีเพศสัมพันธ์
จากกรณีของเสี่ยวเหมย ศาสตราจารย์เฉียว โหย่วหลิน หัวหน้าภาควิชาสูตินรีเวช โรงพยาบาลประชาชนแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ประเทศจีน ระบุว่า นี่ไม่ใช่กรณีที่เกิดขึ้นได้ยาก
ศาสตราจารย์เฉียว อธิบายว่า ไวรัส HPV (Human Papillomavirus) เป็นกลุ่มไวรัสในตระกูล Papillomaviridae ซึ่งมีมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยบางสายพันธุ์ทำให้เกิดหูดตามผิวหนังหรือบริเวณอวัยวะเพศ ในขณะที่บางสายพันธุ์เชื่อมโยงกับการเกิดมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องปากและลำคอ รวมถึงมะเร็งองคชาตและช่องคลอด สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงในการทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกคือ HPV-16 และ HPV-18
พร้อมเน้นย้ำว่า แม้ไวรัส HPV จะแพร่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก แต่ก็ไม่ใช่เส้นทางเดียว มันสามารถแพร่ผ่านการสัมผัสผิวหนังโดยตรง เช่น การกอด การจูบ หรือการสัมผัสบริเวณที่มีแผล และยังอาจแพร่ผ่านการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น ผ้าขนหนู แปรงสีฟัน หรือเสื้อผ้า รวมถึงการถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกระหว่างการคลอด
อีกทั้งแม้จะเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ไวรัสนี้ยังสามารถแพร่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด เช่น สระว่ายน้ำสาธารณะหรือห้องอาบน้ำสาธารณะ
นอกจากนี้ การติดเชื้อ HPV ไม่ได้หมายความว่าจะพัฒนาเป็นมะเร็งปากมดลูกในทันที กระบวนการจากการติดเชื้อจนถึงการเกิดมะเร็งอาจใช้เวลานานถึง 10-20 ปี กรณีของเสี่ยวเหมย แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุการติดเชื้อที่แน่ชัด แต่พบว่าเธอติดเชื้อ HPV มาหลายปีแล้ว และมีความเสียหายก่อนเกิดมะเร็งที่ไม่ได้รับการสังเกต จนกระทั่งพบว่าก้อนเนื้อร้ายได้ลุกลาม การตัดมดลูกก็ไม่สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกต่อไป
จากเรื่องราวของเสี่ยวเหมย ศาสตราจารย์เฉียวได้เตือนให้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพระบบสืบพันธุ์ โดยเฉพาะในผู้หญิง การป้องกันการติดเชื้อ HPV ควรรวมถึงการดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพดี การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน การดูแลสุขอนามัยในบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างถูกต้อง มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และการฉีดวัคซีนป้องกัน HPV