เอะใจ ลูกชายไม่ยอมไปเรียน น้ำหนักลดฮวบ 13 กก. ค้นห้องเจอ "หลักฐาน" หัวอกแม่สลาย

เอะใจ ลูกชายไม่ยอมไปเรียน น้ำหนักลดฮวบ 13 กก. ค้นห้องเจอ "หลักฐาน" หัวอกแม่สลาย

เอะใจ ลูกชายไม่ยอมไปเรียน น้ำหนักลดฮวบ 13 กก. ค้นห้องเจอ "หลักฐาน" หัวอกแม่สลาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกชาย ม.ต้น ไม่ยอมไปเรียน น้ำหนักลดฮวบ 13 กก.ในเทอมเดียว ค้นห้องอึ้งเงินหายเกลี้ยง เช็กมือถือเจอข้อความปวดใจ

 เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อหลายสำนักในฮ่องกงพร้อมใจกันเผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์กลั่นแกล้งในโรงเรียน หลังจากผู้เป็นแม่เข้าทำความสะอาดห้องลูกชาย และต้องหลั่งน้ำตาเมื่อพบความจริงอันเจ็บปวด

ตามรายงานพบว่า นักเรียนชายคนหนึ่งถูกสงสัยว่าถูกเพื่อนร่วมชั้น 7 คน แบล็กเมล์เป็นเงินมากกว่า 30,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 133,500 บาท) ภายใต้ความกลัวและแรงกดดันจากความรุนแรงในโรงเรียน นักเรียนชายคนนี้ถึงกับกลัวที่จะไปโรงเรียนและน้ำหนักลดลงประมาณ 13 กิโลกรัม

ผู้ปกครองของนักเรียนชายคนนี้กล่าวว่า ลูกของพวกเขาถูกเพื่อนร่วมชั้นแบล็กเมล์ ในตอนแรกเริ่มจากจำนวนเงินไม่มาก แต่จากนั้นเงินก็เพิ่มมากขึ้นถึง 4,500 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 2 หมื่นบาท) ในแต่ละครั้ง

คุณเหลียง แม่ของนักเรียนชาย กล่าวว่า ขณะทำความสะอาดชั้นหนังสือของลูกชาย เธอพบว่าในถุงออมทรัพย์ของเขา มีเพียงบัตรเติมเงินวิดีโอเกม แต่จำนวนเงินที่เคยมีอยู่เดิมกลับหายไปจนหมดเกลี้ยง เธอถามลูกชายทันทีแต่เขาไม่กล้าตอบ สุดท้ายจึงต้องตรวจสอบเนื้อหาการสนทนาทางโทรศัพท์เพื่อดูว่าลูกชายของเธอซ่อนอะไรไว้

"เพื่อนร่วมชั้นอย่างน้อย 6 คน รังแกลูกชายของฉันด้วยเหตุผลและรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น เพราะเขากินขนม หรือถ่ายรูปเขา โดยบอกว่าถ้าลูกชายของฉันไม่ให้เงิน เขาจะแจ้งครูประจำชั้น" ผู้เป็นแม่เล่า

จากการตรวจสอบพบว่า ข้อความข่มขู่และคุกคามที่ถูกส่งถึงเด็กชายอย่างต่อเนื่อง เช่น “อยากให้ส่งรูปเข้ากลุ่มมั้ย?” , “ภาพแต่ละภาพราคา 100 ดอลลาร์”, “ตอนแรกฉันจะขายมันในราคา 200 ดอลลาร์ แต่เพราะนายเป็นเพื่อนของฉัน ควรเอาแค่100 เดียว”

แม่ของเด็กชายยังบอกด้วยว่า ลูกชายของเธอจ่ายเงินรวมกว่า 30,000  ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 133,500 บาท) ให้กับเพื่อนร่วมชั้นของเขา หลังจากที่เธอและสามีทราบเหตุการณ์ดังกล่าว พวกเขาก็ขอความช่วยเหลือจากนักสังคมสงเคราะห์ของโรงเรียน  แต่ไม่ได้รับคำตอบ จึงตัดสินใจโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พ่อของนักเรียนคนนี้ยังกล่าวด้วยว่า ในเทศกาลไหว้พระจันทร์เมื่อปีที่แล้ว ลูกชายของเขาได้รับบาดเจ็บจากเพื่อนร่วมชั้นด้วยและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเวลากลางคืน

“หลังจากที่ลูกชายของผมเข้าโรงเรียนมัธยมต้น เขาน้ำหนักลดไป 13 กิโลกรัมภายในครึ่งภาคเรียนเท่านั้น ทุกคนสามารถเห็นสิ่งนี้ได้ชัดเจนผ่านภาพถ่าย อีกทั้งยังผมร่วงอย่างรุนแรงเนื่องจากความเครียด” ผู้เป็นพ่อกล่าว

คุณเหลียงกล่าวว่า เนื่องจากเธอกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูก เธอจึงให้ลูกของเธอออกจากโรงเรียนตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม “โรงเรียนและนักเรียนไม่มีความเคลื่อนไหวในการแก้ไขปัญหาหรือแม้แต่คำขอโทษ”

กระทั่งภายในสิ้นเดือนมิถุนายน ตำรวจได้เรียกตัวนักเรียนมัธยมปลาย 7 คน อายุ 12-13 ปี ไปที่สถานีตำรวจ เนื่องจากต้องสงสัยว่าขู่กรรโชกทรัพย์ หลังจากนั้นทุกคนก็ได้รับการประกันตัว และยังคงไปโรงเรียนตามปกติ คุณเหลียงจึงตัดสินใจลาออกจากงานมาดูแลลูกชายที่บ้าน เพราะเด็กชายไม่กล้าไปโรงเรียนหลังจากถูกรังแกอยู่ตลอดเวลา

“ถ้ากลับไปเรียนก็กลัวโดนรังแกอีก หากมีครั้งแรกก็จะมีครั้งที่สองและสาม” เพื่อให้ลูกชายของเธอรู้สึกปลอดภัยในการไปโรงเรียน คุณเหลียงจึงตัดสินใจว่าจะย้ายลูกชายของเธอไปโรงเรียนอื่น

อย่างไรก็ตาม แต่ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม ไม่มีโรงเรียนใดรับใบสมัคร เธอเปิดเผยว่าครอบครัวของเธอสมัครเข้าเรียนในโรงเรียน 9 แห่ง แต่ถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นเพราะหารเขียนประวัติจากโรงเรียนเก่าไม่ดี

ซึ่งปัจจุบันเหตุการณ์นี้ยังไม่ได้รับข้อยุติ และยังคงได้รับความสนใจจากความคิดเห็นของประชาชนเป็นอย่างมาก

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ เอะใจ ลูกชายไม่ยอมไปเรียน น้ำหนักลดฮวบ 13 กก. ค้นห้องเจอ "หลักฐาน" หัวอกแม่สลาย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook