โครงการ “CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” Krabi: A Sustainable Haven for Travelers

โครงการ “CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” Krabi: A Sustainable Haven for Travelers

โครงการ “CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก” Krabi: A Sustainable Haven for Travelers
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ ประชาสัมพันธ์แคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก ที่จังหวัดกระบี่ สวรรค์แห่งการพักผ่อนอย่างยั่งยืนสำหรับนักท่องเที่ยว Krabi: A Sustainable Haven for Travelers พบปะผู้ประกอบการโรงแรม CF-Hotels จ.กระบี่ พันธมิตร และสื่อมวลชนกระบี่ พร้อมนำชม 2 ที่พักรักษ์โลกและรับผิดชอบต่อสังคม โรงแรม วารานา กระบี่ โรงแรม CF-Hotels ที่มีจุดเริ่มต้นจากแนวคิด BCG (Bio-Circular-Green) และโรงแรม ดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง สถานที่พักและจัดประชุมที่เป็นมิตรต่อที่สิ่งแวดล้อม ปิดท้ายด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวชุมชนต้นแบบ หวังปลุกกระแสให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่หันมาท่องเที่ยวและเลือกพักที่โรงแรม CF-Hotels ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการท่องเที่ยวซึ่งเป็นสาเหตุของสภาวะโลกเดือดง่ายๆ “แค่เลือกพักกับโรงแรม CF-Hotels ก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว”

นายอัครวิชย์  เทพาสิต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึง แคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก “แค่เลือกพักกับโรงแรม CF-Hotels ก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว” ว่าเป็นกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก CF-Hotels ตลอดจนสร้างกระแสความต้องการเดินทางท่องเที่ยวรักษ์โลก ในกลุ่มนักท่องเที่ยว ให้มีการปรับพฤติกรรมเลือกใช้บริการสินค้าท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการการท่องเที่ยว อย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งในทริปนี้จะเน้นเรื่องการนำเสนออัตลักษณ์ของ จ.กระบี่ คือ “กระบี่เมืองน่าอยู่ผู้คนน่ารัก” ตีความออกมาให้สอดคล้องกับแคมเปญคือ Krabi : A Sustainable Haven for Travelers นอกจากนี้ ททท. ได้ใช้โอกาสนี้ พบผู้ประกอบการโรงแรม CF-Hotels พันธมิตร และสื่อมวลชนในพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อพูดคุยประเด็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวรักษ์โลกและการให้ความสำคัญเรื่องการลดปริมาณ ก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนให้ จ.กระบี่ บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และมุ่งมั่นสานต่อโครงการเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint : CF) และส่งเสริมเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การปรับตัวให้เท่าทันต่อบริบทการเปลี่ยนแปลง ตามกรอบความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย และสหประชาชาติประจำประเทศไทย

“กระบี่นับเป็นเมืองที่ภาครัฐ และเอกชนมีการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มแข็งและชัดเจน ดังจะเห็นได้จากการนำเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SGDs) มาวางแผนการพัฒนาจังหวัดซึ่งสอดคล้องกับนโยบายยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Shape Supply) ของ ททท. ดังนั้น การจัดกิจกรรม Meet the Press ที่ จ.กระบี่ จึงเปรียบเสมือนการแสดงความมุ่งมั่นที่ต้องการสนับสนุน จ.กระบี่ ให้กลายเป็นหนึ่งในหมุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้มีการคำนวณการปล่อยและลดก๊าซเรือนกระจกที่กลุ่มธุรกิจที่พักผ่านแพลตฟอร์ม CF-Hotels การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวมีแนวทางการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals: STGs) ภายใต้โครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating ของ ททท.”

ปัจจุบันมีจำนวนโรงแรมที่เปิดบัญชีในแพลตฟอร์ม CF-Hotels แล้วมากกว่า 400 แห่ง และมีการทำกิจกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 101,989 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการปรับแนวทางการดำเนินธุรกิจของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้พร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ

นางวิภาวรรณ เหล่าธนาสิน กรรมการผู้จัดการ โรงแรมวารานา กระบี่ กล่าวว่า โรงแรมขอบคุณ ททท. ที่เห็นความสำคัญกับวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อมของโรงแรมฯ แม้ว่า โรงแรมฯแห่งนี้เป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานระหว่างความหรูหรา และความยั่งยืน เป็นโรงแรมรักษ์โลกแห่งแรกของจังหวัดกระบี่ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมากว่า 9 ปี ภายใต้แบรนด์ “เดอะ ทับแขก กระบี่ บูทีค รีสอร์ท” โดยได้ส่งมอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือระดับ ด้วยแนวคิด Sustainability มาวางแผนการดำเนินงานเพื่อให้โรงแรมเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาพักผ่อน แต่โรงแรมเป็นส่วนสำคัญในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมากสู่ธรรมชาติ โรงแรมวารานาฯ ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาโลก ต้องการส่งมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้แขกที่มาพัก และสังคมโดยรอบ โดยนำนวัตกรรมการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน อาทิ การออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายในในสไตล์เรียบหรู (Minimalist Luxury) เฟอร์นิเจอร์ พรมปูพื้นที่ถักทอด้วยเส้นใยที่ผลิตจากขวดน้ำดื่มพลาสติกใช้แล้ว โซฟาบุจากผ้าทอจากเส้นด้ายผลิตจากเศษผ้ารีไซเคิล โคมไฟทำจากไม้ไผ่ผลิตภัณฑ์ Amenity Kits ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ระบบธนาคารน้ำใต้ดิน (Groundwater Banking) การบริหารจัดการน้ำครบวงจรเป็นแหล่งกักเก็บน้ำชั้นใต้ดินในชั้นหินอุ้มน้ำในช่วงหน้าฝน เพื่อนำกลับมาใช้ในยามที่ต้องการ มื้ออาหารเน้นการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ สนับสนุนผลิตภัณฑ์ของชุมชนในท้องถิ่น เน้นความสด สะอาด ปลอดสารเคมี มีแปลงผัก และสมุนไพรที่บุคลากรภายในโรงแรมช่วยกันปลูกและดูแล เป็นแปลงผักปลอดสารที่ใช้ปุ๋ยจากใบไม้แห้ง เศษวัชพืชและเศษอาหารที่ผ่านการคัดแยกมาหมักเป็นปุ๋ย เป็นการจัดการขยะแบบยั่งยืนและช่วยลดขยะอินทรีย์เข้าสู่ระบบขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste) และส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ลดการใช้พลาสติก และสนับสนุนการใช้พลังงานทดแทน รถไฟฟ้า เพื่อแทนการซื้อเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงมีกิจกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมต่างๆเพื่อส่งต่อแนวคิดรักษาสิ่งแวดล้อมให้แก่แขกที่เข้ามาพัก

นายธีระศักดิ์ กาญจนจงกล ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า กระบี่ อ่าวนาง หนึ่งในโรงแรม CF-Hotels ย่านอ่าวนาง จ.กระบี่ กล่าวว่า โรงแรมดีวาน่าฯ เป็นโรงแรมสถานที่พัก และจัดประชุมระดับ 4 ดาว ที่มีความยืนยงมาถึง 13 ปีด้วยวิสัยทัศน์ในการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคงเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นทางภาคใต้กับการเลี้ยงนกกรงหัวจุกนำมาใช้ในการออกแบบอาคาร ตัวอาคารมีความโปร่งโล่ง ระบายอากาศได้ดีและใช้แสงสว่างจากธรรมชาติในเวลากลางวัน ผนวกการให้ความสำคัญด้านการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง อาทิ การจัดการเรื่องเสียงโดยเฉพาะส่วนของห้องประชุม ที่มีการบริหารจัดการแบบรักษ์โลกลดการใช้ผ้า และการใช้ดอกไม้ตกแต่ง การจัดการด้านอากาศ ควบคุมไม่ให้มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ ดูแลคุณภาพน้ำทิ้งก่อนนำกลับมาใช้ใหม่โดยนำมารดน้ำต้นไม้ภายในโรงแรม โดยไม่ปล่อยออกสู่ลำรางสาธารณะ การคัดแยกขยะ การจัดการวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว งดใช้พลาสติกหรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reduce Recuse Recycle) การลดใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้พลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Rooftop) เป้าหมายในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุด โดยคาดการณ์ว่า จะลดปริมาณได้ถึง 220,711.94 kWh หรือ 110.33 tonCO2e ต่อปี หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 926,990 บาทต่อปี

นางสาวเข็มอัปสร สิริสุขะ หรือ เชอร์รี่ หนึ่งในศิลปินดาราที่หันมาใส่ใจและทำงานด้านสิ่งแวดล้อมมากกว่า 10 ปี  กล่าวถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมว่า “คนเรามักมองปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่แท้จริงแล้วปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากๆ มันส่งผลกระทบในชีวิตประจำวันของเราทุกคน ในฐานะนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงไป ถึงเวลาที่เราควรร่วมมือร่วมใจกันคนละเล็กละน้อยปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เพื่อการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเชอรี่ขอขอบคุณการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่เลือกเชอร์รี่เป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะช่วยกันผลักดันแคมเปญ CF-Hotels นอนชิลฟีลรักษ์โลก แค่เลือกพักก็สามารถรักษ์โลกได้แล้ว ชื่นชมผู้ประกอบการโรงแรมในกระบี่ ตลอดจนทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจอย่างดีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมนับเป็นแบบอย่างที่ดียิ่ง”

นางสาวกัสมาพร ลิปนพงศ์เทพ อุปนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ในปี 2566 ที่ผ่านมา กระบี่มีโอกาสต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ 3.8 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 52,500 ล้านบาท มาจากจุดขายของกระบี่ คือ ความสวยงาม และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และตามวิสัยทัศน์ “KRABI GO GREEN” โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ บีซีจี BCG (Sustainable Development Goals: SDGs) เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนระดับโลก และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism) ผ่านกิจกรรมภายใต้การลงนามความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ KRABI CARBON NEUTRAL TOURISM 2040  เป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ร่วมกับผู้บริหารสถานประกอบการภาครัฐและเอกชน 22 แห่ง และเครือข่ายระดับประเทศ 10 แห่ง และระดับจังหวัดอีก 12 แห่ง  ปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงแรมได้รับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมแล้วกว่า 33 แห่ง  ในสมาคมฯ มีโครงการ “ขยะโรงแรมกระบี่ไม่กำพร้า” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน Circular Economy ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม โดยนำขยะโรงแรมที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ส่งต่อให้โรงงานนำไปแปรรูปเอาไปใช้เป็นพลังงานเชื้อเพลิง (RDF) และอีกส่วนนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กลับมาใช้ในโรงแรม และเป็นของที่ระลึก โดยมีสมาชิกฯเข้าร่วมโครงการแล้ว 35 แห่ง

นางสาวสญาดา เบญจกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ หนึ่งในพันธมิตร กล่าวว่า เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับโครงการฯของ ททท. ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบายของสายการบินที่อุทิศตนเพื่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนเช่นกัน ได้แก่ การลดการปล่อยมลพิษจากการปฏิบัติการบิน กิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การลดสาเหตุของภาวะโลกร้อนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญโดย เวียตเจ็ทไทยแลนด์ ได้ริเริ่มใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนนี้ซึ่งเป็นแผนการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมของเวียตเจ็ทกรุ๊ป ที่มุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593  แม้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) จะมีต้นทุนสูงกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดาหลายเท่า แต่น้ำมัน SAF สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับน้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา และยังคงขีดความสามารถในการปฏิบัติการบินของอากาศยานได้อย่างปลอดภัยและราบรื่น นอกจากนี้ยังดำเนินกิจกรรมเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมสีเขียว โดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้โดยสาร พนักงานของสายการบินฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกภาคส่วน โดยรายละเอียดเกี่ยวกับภารกิจของ
เวียตเจ็ทไทยแลนด์ และกองทุนฟลายกรีน สามารถติดตามได้ที่ www.vietjetair.com

 

#cf-hotels
#การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
#amazingthailand



[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook