เปิด 5 วิธี "ล้างผัก" หลายคนยังทำแบบผิดๆ แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับเสี่ยงสารพัดโรค
การล้างผักดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่จริง ๆ แล้วต้องมี "เทคนิค" เช่นกัน
แม้ผักและผลไม้จะดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไข่พยาธิ และสารเคมี หากไม่ได้เตรียมและล้างอย่างถูกวิธี การแช่ผักแบบลวก ๆ หรือเพียงใช้น้ำล้าง อาจไม่เพียงพอในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น แบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ในผัก เช่น E. coli หรือ Salmonella อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสีย อาหารเป็นพิษ หรือผลกระทบระยะยาวต่อระบบทางเดินอาหาร
หากคุณล้างผักผิดวิธี ระวัง! เพราะนี่อาจเป็น "ทางลัด" ที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพของทั้งครอบครัว บนผิวของผักผลไม้อาจมีสิ่งปนเปื้อนที่ควรทำความสะอาดออก เช่น
1.ขี้ผึ้งเคลือบผลไม้
- ขี้ผึ้งธรรมชาติ: ปลอดภัย สามารถบริโภคได้
- ขี้ผึ้งสังเคราะห์ที่กินได้: ใช้เคลือบเพื่อรักษาความสด ไม่เป็นอันตราย
- ขี้ผึ้งอุตสาหกรรม: ต้องล้างออก เพราะอาจมีสารตะกั่วหรือปรอทเกินมาตรฐาน
2.สารเคมีจากยาฆ่าแมลง
- ยาฆ่าแมลงประเภทฟอสเฟต
- ยาฆ่าแมลงคลอรีน
- ยาฆ่าแมลงคาร์บาเมต
- ยาฆ่าเชื้อรา
3.จุลินทรีย์และไข่พยาธิ
- พบได้บนผักผลไม้ โดยเฉพาะผักที่ใช้ปุ๋ยจากคนหรือสัตว์
4.โลหะหนัก
- มักพบในผักที่ปลูกในดินปนเปื้อน เช่น ตะกั่ว แคดเมียม หรือปรอท
5. ดินและทราย
- มักถูกล้างออกได้ง่ายด้วยน้ำสะอาด
วิธีล้างผักผิด ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง
-
ล้างน้ำเปล่าผิวเผินก่อนปรุง การล้างแบบผ่าน ๆ อาจกำจัดได้แค่สิ่งสกปรกขนาดใหญ่ แต่ไม่สามารถขจัดสารเคมีหรือไข่พยาธิได้
-
ใช้น้ำซาวข้าวล้างผัก น้ำซาวข้าวอาจมีสารปนเปื้อนหรือไข่พยาธิ ซึ่งอาจทำให้ผักสกปรกยิ่งขึ้น
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างผักที่ไม่ชัดเจนเรื่องส่วนผสม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทิ้งสารตกค้างไว้
-
หั่นผักก่อนล้าง วิธีนี้ทำให้สารเคมีซึมเข้าสู่เนื้อผักได้ง่าย
-
แช่น้ำนานเกินไป อาจทำให้สารเคมีดูดซึมเข้าสู่ผักมากขึ้น
วิธีล้างผักที่ถูกต้อง
-
เลือกผักผลไม้คุณภาพดี เลือกที่ไม่มีรอยเสียหรือเน่า เพื่อหลีกเลี่ยงแบคทีเรีย
-
แช่น้ำผสมน้ำส้มสายชู ใช้น้ำส้มสายชู 0.1-1% (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อผัก 1 ตะกร้า) แช่ 15 นาที
-
แช่น้ำเกลือ น้ำเกลือ 1% (1 ช้อนโต๊ะเกลือต่อน้ำ 1 ตะกร้า) ช่วยกำจัดสารเคมี
-
ใช้เบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดามีประสิทธิภาพสูง เพียงแช่ผักในน้ำผสมเบกกิ้งโซดา 15 นาที
-
แช่น้ำอุ่น 50°C อุณหภูมิ 48-52°C ช่วยลดแบคทีเรียและสารเคมี โดยแช่ประมาณ 20-30 วินาทีสำหรับผักใบบาง และ 2-3 นาทีสำหรับผักลำต้นใหญ่
การล้างผักอย่างถูกวิธีช่วยลดความเสี่ยงจากสิ่งปนเปื้อน และยังคงคุณค่าทางโภชนาการของผักไว้ได้ดีที่สุด