เปิด 5 วิธี "ล้างผัก" หลายคนยังทำแบบผิดๆ แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับเสี่ยงสารพัดโรค

เปิด 5 วิธี "ล้างผัก" หลายคนยังทำแบบผิดๆ แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับเสี่ยงสารพัดโรค

เปิด 5 วิธี "ล้างผัก" หลายคนยังทำแบบผิดๆ แทนที่จะได้ประโยชน์ กลับเสี่ยงสารพัดโรค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การล้างผักดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่จริง ๆ แล้วต้องมี "เทคนิค" เช่นกัน

แม้ผักและผลไม้จะดีต่อสุขภาพ แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเต็มไปด้วยแบคทีเรีย ไข่พยาธิ และสารเคมี หากไม่ได้เตรียมและล้างอย่างถูกวิธี การแช่ผักแบบลวก ๆ หรือเพียงใช้น้ำล้าง อาจไม่เพียงพอในการกำจัดสิ่งปนเปื้อนเหล่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น แบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ในผัก เช่น E. coli หรือ Salmonella อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสีย อาหารเป็นพิษ หรือผลกระทบระยะยาวต่อระบบทางเดินอาหาร

หากคุณล้างผักผิดวิธี ระวัง! เพราะนี่อาจเป็น "ทางลัด" ที่นำไปสู่ปัญหาสุขภาพของทั้งครอบครัว บนผิวของผักผลไม้อาจมีสิ่งปนเปื้อนที่ควรทำความสะอาดออก เช่น

1.ขี้ผึ้งเคลือบผลไม้

  • ขี้ผึ้งธรรมชาติ: ปลอดภัย สามารถบริโภคได้
  • ขี้ผึ้งสังเคราะห์ที่กินได้: ใช้เคลือบเพื่อรักษาความสด ไม่เป็นอันตราย
  • ขี้ผึ้งอุตสาหกรรม: ต้องล้างออก เพราะอาจมีสารตะกั่วหรือปรอทเกินมาตรฐาน

2.สารเคมีจากยาฆ่าแมลง

  • ยาฆ่าแมลงประเภทฟอสเฟต
  • ยาฆ่าแมลงคลอรีน
  • ยาฆ่าแมลงคาร์บาเมต
  • ยาฆ่าเชื้อรา

3.จุลินทรีย์และไข่พยาธิ

  • พบได้บนผักผลไม้ โดยเฉพาะผักที่ใช้ปุ๋ยจากคนหรือสัตว์

4.โลหะหนัก

  • มักพบในผักที่ปลูกในดินปนเปื้อน เช่น ตะกั่ว แคดเมียม หรือปรอท

5. ดินและทราย

  • มักถูกล้างออกได้ง่ายด้วยน้ำสะอาด

วิธีล้างผักผิด ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง

  1. ล้างน้ำเปล่าผิวเผินก่อนปรุง การล้างแบบผ่าน ๆ อาจกำจัดได้แค่สิ่งสกปรกขนาดใหญ่ แต่ไม่สามารถขจัดสารเคมีหรือไข่พยาธิได้

  2. ใช้น้ำซาวข้าวล้างผัก น้ำซาวข้าวอาจมีสารปนเปื้อนหรือไข่พยาธิ ซึ่งอาจทำให้ผักสกปรกยิ่งขึ้น

  3. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างผักที่ไม่ชัดเจนเรื่องส่วนผสม ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทิ้งสารตกค้างไว้

  4. หั่นผักก่อนล้าง วิธีนี้ทำให้สารเคมีซึมเข้าสู่เนื้อผักได้ง่าย

  5. แช่น้ำนานเกินไป อาจทำให้สารเคมีดูดซึมเข้าสู่ผักมากขึ้น

วิธีล้างผักที่ถูกต้อง

  1. เลือกผักผลไม้คุณภาพดี เลือกที่ไม่มีรอยเสียหรือเน่า เพื่อหลีกเลี่ยงแบคทีเรีย

  2. แช่น้ำผสมน้ำส้มสายชู ใช้น้ำส้มสายชู 0.1-1% (ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อผัก 1 ตะกร้า) แช่ 15 นาที

  3. แช่น้ำเกลือ น้ำเกลือ 1% (1 ช้อนโต๊ะเกลือต่อน้ำ 1 ตะกร้า) ช่วยกำจัดสารเคมี

  4. ใช้เบกกิ้งโซดา เบกกิ้งโซดามีประสิทธิภาพสูง เพียงแช่ผักในน้ำผสมเบกกิ้งโซดา 15 นาที

  5. แช่น้ำอุ่น 50°C อุณหภูมิ 48-52°C ช่วยลดแบคทีเรียและสารเคมี โดยแช่ประมาณ 20-30 วินาทีสำหรับผักใบบาง และ 2-3 นาทีสำหรับผักลำต้นใหญ่

การล้างผักอย่างถูกวิธีช่วยลดความเสี่ยงจากสิ่งปนเปื้อน และยังคงคุณค่าทางโภชนาการของผักไว้ได้ดีที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook