อัยการอาวุโสชี้ "ป้าติ๋ม" ต้องได้มรดก 100 ล้าน ยกตัวอย่างคำพิพากษา เห็นภาพทันที

อัยการอาวุโสชี้ "ป้าติ๋ม" ต้องได้มรดก 100 ล้าน ยกตัวอย่างคำพิพากษา เห็นภาพทันที

อัยการอาวุโสชี้ "ป้าติ๋ม" ต้องได้มรดก 100 ล้าน ยกตัวอย่างคำพิพากษา เห็นภาพทันที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีหญิงสาวชาวฝรั่งเศส วัย 59 ปี นักธุรกิจให้เช่าวิลล่าบนเกาะสมุย จบชีวิตตัวเองในวิลล่า โดยได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท ประกอบด้วย บ้านหรือวิลล่าหรูพร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ มูลค่าราว 30 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 2 แปลง ที่มีพื้นที่ติดกับวิลล่า มูลค่าราว 20 ล้าน และทรัพย์สิน เครื่องประดับ บางส่วนที่ตู้เซฟ รวมถึงเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง โดยรวมมูลค่า ที่ป้าติ๋มได้รับราว 100 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ มีการระบุว่าป้าติ๋มอาจไม่มีสิทธิ์รับมรดกดังกล่าว เพราะแหม่มฝรั่งเศศทำธุรกิจไม่เป็นไปตามกฎหมาย จากการใช้นอมินีมาถือกรรมสิทธิ์ที่ดินและวิลล่าหรูนี้

ล่าสุด ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมถาษณ์ถึงเรื่องนี้ ระบุว่า คดีนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการยึดมรดกของป้าติ๋ม เพราะการทำธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต อันนั้นเป็นความผิดฐานไม่ได้รับอนุญาต ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สิน จะไปยึดทรัพย์สินไม่ได้ แนวทางคำพิพากษาระบุเอาไว้แบบนี้ ยกตัวอย่าง ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต ไม่มีใบขับขี่ ก็ปรับเงินแต่ไม่ได้ยึดรถ หรือเขียงหมูขายหมูโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ปรับดำเนินคดี ก็ไม่ได้ยึดเขียงหมูไป

สำหรับประเด็นนี้ สืบเนื่องมาจากการที่ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกี่ยวกับความถูกต้องในการถือครองทรัพย์สิน รวมถึงการดำเนินกิจการธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพื่อถือครองทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินในประเทศไทย รวมถึงให้มีการตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าของชาวต่างชาติ

กองทัพกับจังหวัดเข้าไปตรวจสอบ พบ หญิงฝรั่งเศส เป็นกรรมการบริษัท 2 บริษัท ลงชื่อผูกพันบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงมีเหตุสงสัยว่า บริษัททั้ง 2 ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว และมีการฝ่าผืนกฎหมายโดยการถือครองที่ดินไว้แทนคนต่างด้าวโดยมิชอบ ในลักษณะตัวแทนอำพราง (นอมินี)

โดยเจ้าหน้าที่ไปแจ้งความดำเนินคดี ที่สภ.เกาะสมุย กับ หญิงฝรั่งเศส ที่เสียชีวิตไปแล้ว และทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว และคนไทยอีก 2 คน ที่เป็นผู้ต้องหาว่าเป็นนอมินี โดยตำรวจเตรียมแจ้ง 3 ข้อหา หญิงฝรั่งเศส ผู้ตาย คือ ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือครองที่ดินโดยมิชอบ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน โดยผู้ตายเสียชีวิต คนไทยอีก 2 คนก็โดน 3 ข้อหาเช่นกัน

ส่วน ป้าติ๋ม ไม่เกี่ยวกับการทำธุรกิจ แต่เป็นผู้รับพินัยกรรม ต้องคืนทรัพย์สินหรือไม่ ต้องรอดำเนินคดีอาญาก่อน การจะยึดที่ดินหรือไม่เป็นเรื่องของเจ้าพนักงานที่ดิน ว่าจะยึดหรือให้จำหน่ายจ่ายโอน หรือจะทำอย่างไร

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook