กลับบ้านหลังแม่ตาย ลูกชายได้กลิ่นเน่าๆ ก้มดูใต้เตียงร้องไห้โฮ "ของโปรด" ที่เตรียมไว้ให้

กลับบ้านหลังแม่ตาย ลูกชายได้กลิ่นเน่าๆ ก้มดูใต้เตียงร้องไห้โฮ "ของโปรด" ที่เตรียมไว้ให้

กลับบ้านหลังแม่ตาย ลูกชายได้กลิ่นเน่าๆ ก้มดูใต้เตียงร้องไห้โฮ "ของโปรด" ที่เตรียมไว้ให้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่ตายเพิ่งได้กลับบ้าน หนุ่มเอะใจกลิ่นเน่าๆ ในห้องนอน ก้มดูใต้เตียงร้องไห้โฮ "ของโปรด" และสมบัติที่แม่เตรียมไว้ให้ลูกชาย

เว็บไซต์ข่าว SOHA รายงานเรื่องราวของ "นายหลี่" (นามสมมุติ) ปัจจุบันอายุ 33 ปี เขาเดินทางออกจากบ้านเกิดตั้งแต่เรียนจบมัธยมปลาย เพื่อหางานทำในเมืองอื่นโดยปรารถนาที่จะมีชีวิตที่ร่ำรวย เนื่องจากพื้นฐานครอบครัวฐานะยากจนมาก เขาจึงเติบโตขึ้นมาโดยทำงานหนักเพื่อหาเงินและสถานะทางสังคม

เนื่องจากพ่อของเขาเสียชีวิตเร็ว เหลือเพียงแม่และลูกที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน แต่สุดท้ายเขาก็จำเป็นต้องปล่อยให้แม่อาศัยอยู่ตามลำพังในบ้านเกิด เขารักแม่และเข้าใจดีว่าแม่มักจะรู้สึกเหงาเมื่อต้องอยู่คนเดียว จึงมักจะโทรไปหาแม่อยู่บ่อยๆ รวมทั้งหาโอกาสกลับไปเยี่ยมในช่วงวันหยุด โดยบอกตัวเองเสมอว่าต้องประสบความสำเร็จงและกลายเป็นความภาคภูมิใจของแม่

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มงานยุ่งมากขึ้น เขาก็รู้ตัวว่าแทบไม่ได้โทรหาแม่เลย แต่ยังคงบอกตัวเองเสมอว่าเมื่อเขารวยเขาจะตอบแทนแม่ให้หมดอย่างแน่นอน แต่ทุกสิ่งกลับไม่เป็นเช่นหวัง.... เมื่อวันหนึ่งเขาโทรหาแม่แต่ไม่มีใครรับสาย เช้าวันรุ่งขึ้นจึงโทรอีกมากกว่า 10 สาย แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ ทำให้เขากังวลอย่างมากๆ เพราะปกติแม่มักจะรับโทรศัพท์จากลูกชายเร็วมาก

กระทั่งในที่สุดก็มีปลายสายรับโทรศัพท์ แต่คนที่ตอบกลับมาไม่ใช่แม่ของเขา แต่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่แจ้งว่า "แม่ของเขาเสียชีวิตเมื่อสามวันก่อน" ข่าวร้ายที่ได้รับฟังทำให้เขานิ่งค้างไปเป็นเวลานาน ไม่อยากยอมรับความจริงอันโหดร้าย แต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบขึ้นรถกลับไปบ้านเกิดเพื่อพบแม่เป็นครั้งสุดท้าย

เมื่อมาถึงบ้านที่เคยเติบโตมาก็ยิ่งใจสลาย เพราะทุกสิ่งดูแปลกตาและรกร้าง เมื่อไม่มีแม่ก็เหมือนไม่มี "บ้าน" ให้กลับไปอีกต่อไป คืนนั้นเขานอนบนเตียงของแม่ทั้งคืน พยายามคิดว่านี่เป็นเพียงฝันร้าย อย่างไรก็ตาม กลิ่นเหม็นที่ลอยขึ้นมาจากใต้เตียงและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขานอนไม่หลับ และดึงเขากลับสู่ความเป็นจริง และตัดสินใจก้มมองดูใต้เตียง

สิ่งที่เห็นทำให้นายหลี่ชะงักและน้ำตาไหล เนื่องจากใต้เตียงมี "ทุเรียน" มากมาย ซึ่งเป็นผลไม้ที่เขาชอบกินมากที่สุด แน่นอนว่าแม่ซื้อมาเพื่อเตรียมมอบให้ลูกชาย แต่น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถรอให้เขากลับมาได้อีกต่อไป และผลไม้นี้ก็ส่งกลิ่นเหม็นเมื่อมันเน่าเสียไปตามกาลเวลา

ไม่เพียงเท่านั้น ในระหว่างที่เขามือทำความสะอาดใต้เตียงเพื่อกำจัดกลิ่นทุเรียน ก็ต้องประหลาดใจที่พบกล่องเสื้อผ้าที่แม่ทิ้งไว้ เมื่อเปิดก็พบว่าภายในเก็บสิ่งของต่างๆ มากมาย ตั้งแต่สมัยที่นายหลี่ยังเป็นเด็ก ที่พิเศษกว่านั้นคือมีสมุดออมทรัพย์มูลค่า 580,000 หยวน (มากกว่า 2.76 ล้านบาท)

ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในชนบททำไมมีเงินมากขนาดนี้? เมื่อเขาถามคำถามนี้กับญาติๆ จึงได้รู้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แม่แทบจะไม่แตะต้องเงินที่เขาส่งกลับมาให้เลย ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังออกไปทำงานพาร์ทไทม์อีกด้วย ไม่เพียงแต่เพื่อไม่ต้องลำบากเงินลูกชายเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเหงาในวัยชราอีกด้วย แต่แม้จะมีเงินมากมายก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างประหยัด และไม่กล้าซื้อของใหม่ๆ ให้ตัวเอง รวมถึงสาเหตุที่ทุเรียนที่บ้านเน่าเสียเยอะทั้งๆ ที่เพิ่งซื้อมา ก็เป็นเพราะแม่ขไม่อยากเสียเงินซื้อตู้เย็นให้ตัวเอง

หลังจากได้รู้ว่าแม่ของแอบทำอะไรเพื่อเขาบ้าง นายหลี่ก็รู้สึกประทับใจมาก ยุคสมัยเปลี่ยนไปแต่ความรักที่แม่ไม่เคยเปลี่ยน ท้ายที่สุดก็น้ำตาไหล ไม่สามารถหยุดโทษตัวเองได้ เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการไล่ตามชื่อเสียงและโชคลาภในเมืองใหญ่ โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่แม่ต้องการมากที่สุดคือการมีลูกชายอยู่ข้างๆ ทุกเช้าและเย็น ตอนนี้รู้ดีว่าเขาผิดแค่ไหน แต่เขาก็ไม่มีโอกาสที่จะอยู่ข้างแม่อีกต่อไปแล้ว

ท้ายที่สุด นายหลี่อยากเตือนทุกคน แม้จะรู้ว่าสำหรับคนหนุ่มสาว การทำเงินเป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ถ้ามีโอกาสก็ควรหาเวลาไปเยี่ยมคนที่รัก เพราะเมื่อประสบกับช่วงเวลาที่สูญเสียพวกเขาไปจะเข้าใจว่า ไม่ว่าจะมีเงินเท่าไหร่ก็ไม่คุ้มเท่ากับช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นที่ใช้ร่วมกับพวกเขา

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook