สาวซิ่งเก๋งหรูชนแม่ลูกดับ 3 ศพ เจอหลักฐานขับรถมือเดียว ความเร็วเกิน 200 กม./ชม.
สาวซิ่ง BMW ที่ยืมเพื่อนมาขับ ชนแม่ลูกดับ 3 ศพ ตำรวจเจอหลักฐาน ขับรถมือเดียวความเร็วเกิน 200 กม./ชม.
จากกรณี นางสาวจิรันธนิน อายุ 30 ปี ขับเก๋ง BMW ชนรถ จยย.นักเรียนชาย ม.4 และนักเรียนหญิง ม.2 ตายพร้อมแม่ 3 ศพ ขณะกลับจากเรียนพิเศษ
ตำรวจพบเอกสารภายในรถ ทราบชื่อเจ้าของคือ น.ส.ภารดา ทำให้ทางครอบครัว โดยคุณพ่อ คือนายดำ อายุ 65 ปี ออกมายืนยันกับสื่อมวลชนว่า รถยนต์เก๋ง BMW คันที่เกิดเหตุนั้น เป็นของ น.ส.ภารดา ลูกสาวของตนเองจริง แต่ขณะเกิดเหตุลูกสาวไม่ได้เป็นคนขับ เพราะช่วงนั้นมีงานศพของแม่ยายของตน ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ ต.นาทุ่ง อ.เมืองชุมพร ลูกสาวตนยังอยู่ในงานศพยาย
พร้อมอ้างว่า น.ส.จิรันธนิน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวที่เดินทางมาร่วมงานศพด้วย ได้ขอขับรถคันนี้กลับไปอาบน้ำที่บ้านพักของตน โดยขับไปคนเดียว ซึ่งยังไม่ทันถึงบ้านก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน ยืนยัน ว่า น.ส.จิรันธนิน ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ไปอยู่ในที่มืดเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย เพราะที่เกิดเหตุมีคนจำนวนมาก ก่อนโทรศัพท์มาหาตนให้ไปรับและพาไปมอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.ชุมพร ซึ่งตำรวจได้เข้าเก็บหลักฐาน ผลเลือดพร้อมตรวจวัดแอลกอฮอล์ ว่าเกิดอัตรากฎหมายกำหนดหรือไม่
และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของ น.ส.จรันธนิน พบว่ามีภาพ ในขณะขับขี่รถยนต์ ระบุเวลาถ่ายภาพ 18.56 น. ของวันที่ 27 พฤศจิกายน พบความเร็วในภาพถ่าย 207 กม./ชม. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับขณะที่ภาพของกล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์ จับภาพเฉี่ยวชนบริเวณด้านท้ายของรถจักรยานยนต์ จึงเชื่อว่า น.ส.จิรันธนิน เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ด้วยความเร็วสูง จนเป็นเหตุให้เกิดการเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์
ตั้งศพแม่ลูกเรียงกัน 3 ศพ
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าวเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 29 พ.ย.67 ที่บ้านงานศพของผู้เสียชีวิต 3 แม่ลูก ซึ่งตั้งอยู่ หมู่ 3 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยตั้งหีบศพเรียงกันทั้ง 3 ศพ มีหีบศพแม่ตั้งอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านซ้ายเป็นลูกชายและด้ายขวาเป็นลูกสาว มีหรีดจากหน่วยงานราชการ ผู้นำท้องที่ และญาติสนิททั่วไป และมีหรีดของ นางสาวจิรันธนิน ผู้ขับขี่รถเก๋ง BMW มาตั้งอยู่หน้าหีบศพด้วย นอกจากนั้นได้มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทั้ง ปภ.กรมกิจการเด็กและเยาชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ พรบ.กลาง มาร่วมพูดคุยถึงการช่วยเหลือและมอบเงินประกันเบื้องต้นให้กับ นายประกฤษณ์ อายุ 52 ปี หัวหน้าครอบครัวผู้สูญเสีย
นายประกฤษณ์ บิดาของสองนักเรียนและสามีของผู้เสียชีวิต 3 ศพ กล่าวว่าตอนนี้ตนยังมีความสงสัยเกี่ยวกับคนขับใช่ตัวจริงหรือไม่ เนื่องจากตนไม่ได้รับรู้ข้อมูลอะไรเลย เคยขอดูหลักฐานกล้องวงจรปิดจากตำรวจก็บอกให้ดูไม่ได้ และกลับเห็นภาพคลิปจากหน้ารถเก๋ง BMW ที่มีเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งเป็นช่วงคลิปสั้นๆ ตอนรถเก๋งขับชนรถจักรยานยนต์เท่านั้น
นายประกฤษณ์ กล่าวต่อว่าตนคิดว่าคลิปในช่วงที่รถเก๋งชนแล้วเสียหลักไปจอดอยู่ไหล่ทาง ตอนนั้นตนคิดว่ากล้องหน้ารถเก๋งจะต้องจับภาพคนขับตัวจริงไว้ได้ เพราะมีชาวบ้านเห็นและบอกว่าคนขับเป็นผู้หญิงได้ลงมาจากรถเก๋งเดินรอบๆ รถเพื่อหาแมวตัวที่พามาด้วย และเจอแมวตกใจวิ่งไปซุกอยู่ใต้ท้องรถเก๋ง จากนั้นอุ้มแมวแล้วเดินหลบหนีไปกับความมืด ซึ่งภาพหน้ารถจะต้องจับภาพไว้ได้
นายประกฤษณ์ กล่าวว่า ปัญหาคือว่าต่อไปนี้ตนจะใช้ชีวิตอย่างไร เพราะต้องอยู่เพียงคนเดียว ครอบครัวตนไม่มีลูกเมียเหลืออยู่อีกแล้ว มีแต่คุณแม่อายุมากแล้วที่นอนป่วยติดเตียงใครจะดูแลเพราะตนก็ต้องไปทำงานอยู่ที่ศูนย์ไปรษณีย์ ตนอยากจะถามถึงคนขับรถเก๋งว่า คุณเป็นคนอย่างไร ทำไมถึงได้ขับรถความเร็วสูงถึง 200 กม./ชม. และทราบว่าขณะขับรถความเร็วสูงยังถ่ายรูปหน้าปัดไมล์ด้วยแล้วจับพวงมาลัยเพียงมือเดียว จึงอยากให้กระบวนการทางกฎหมายเอาจริงกับคนแบบนี้ เพราะไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเลย
ด้านนายสุวิทย์ อายุ 60 ปี ผู้เป็นลุงเขยกล่าวว่า ตอนนี้ตนเป็นห่วงนายประกฤษณ์มากเพราะคนในครอบครัวตายหมด ไม่เหลืออะไรไว้ให้อีกเลย นอกจากความสูญเสียและความเศร้าโศก ซึ่งจะทำให้เป็นโรคซึมเศร้า ตนจึงต้องให้พี่สาวมาอยู่เป็นเพื่อนก่อนและคอยช่วยเหลือดูแลผู้ป่วยติดเตียงไปก่อน ส่วนคนขับนั้นตนเห็นว่ามีพฤติกรรมที่คึกคะนองมาก เพราะขับเร็วมากกว่า 200 กม./ชม.